สโมสรทหารบก 12 มิ.ย.-“พล.อ.ประยุทธ์” เปิดงาน “สร้างรู้ สื่อสาร การบริหารจัดการน้ำฤดูฝนปี 62” รัฐบาลประกาศพร้อมบริหารจัดการน้ำ ผนึกกำลังหน่วยงานด้านน้ำ วางแนวทางเพื่อลดผลกระทบให้ประชาชน มั่นใจวางกลไกการบริหารงานของทุกกระทรวงไว้มากพอสมควร
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานเปิดงาน “สร้างรู้ สื่อสาร การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำฤดูฝนปี 2562” ที่สโมสรทหารบก โดยมีหน่วยงานด้านน้ำเข้ารวมกว่า 40 หน่วยงาน
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทรัพยากรน้ำมีความสำคัญต่อประเทศและประชาชน การเพิ่มขึ้นของประชาชกร ทำให้มีความต้องการใช้น้ำเพิ่มมากขึ้น ขณะที่รัฐบาลพยายามแก้ปัญหาการบุกรุกป่า ที่ส่งผลให้เกิดปัญหาต่าง ๆ การเพิ่มขึ้นของชุมชนเมือง อุตสาหกรรม ส่งผลต่อคุณภาพน้ำ ดังนั้นทุกคนต้องช่วยกันดูแล โดยรัฐบาลให้ความสำคัญกับการบูรณาการในการแก้ปัญหาการจัดการน้ำ ตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง ทั้งน้ำอุปโภค-บริโภค ที่ให้เข้าถึงทุกหมู่บ้านในประเทศไทย การสร้างความมั่นคงของน้ำภาคการผลิต การพัฒนาแหล่งน้ำรองรับอุตสาหกรรมใหม่
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จากการเดินหน้าแก้ปัญหาต่าง ๆ ส่งผลให้ประชาชนได้รับประโยชน์ จำนวน 4.35 ล้านครัวเรือน พื้นที่ได้รับประโยชน์ 3.15 ล้านไร่ ขณะที่ตั้งแต่ปี 2551 มีการประกาศพื้นที่ภัยแล้งทุกปี และตั้แต่ปี 2557-2561 มีการประกาศพื้นที่ภัยแล้งลดลง เช่น ในปี 2561 ไม่มีการประกาศพื้นที่ภัยแล้ง และในปี 2562 มีการประกาศภัยแล้งในพื้นที่ 3 จังหวัด
นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า การแก้ปัญหาน้ำมี 3 เสาหลัก ควบคู่กับการบังคับใช้กฏหมาย ประกอบด้วย พระราชบัญญัติทรัพยากรน้ำ พ.ศ.2561 , แผนแม่บทการบริหารทรัพยากรน้ำ และสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ที่เป็นกำลังหลักในการกำหนดแผนปฏิบัติ เชื่อมโยงข้อมูลไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อลดผลกระทบต่อประชาชนให้น้อยที่สุด รวมถึงวางแผนพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อรองรับการขยายตัวทางเศรษฐกิจและการเคลื่อนย้ายประชากร เช่น การพัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) นอกจากนี้เห็นควรให้เพิ่มเสาที่ 4 คือ ด้านนวัตกรรม และต้องแจ้งให้ประชาชนทราบและเข้าใจในการบริหารจัดการน้ำ เพื่อความร่วมมือในการป้องกันภัยด้วยตนเองและสามารถปรับตัวได้ทันต่อสถานการณ์เพื่อลดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สิน
“ประเทศไทย มีปัญหาสองอย่าง คือ ภัยแล้ง และอุทกภัย แต่บางคนไม่ท่วมก็ท่วมไปด้วย ก็คือ น้ำท่วมใจ ด่าโขมงโฉงเฉงไปเรื่อยเปื่อย ซึ่งแนวคิดเรื่องการบริหารจัดการน้ำ เป็นเรื่องที่วางแผนเพื่ออนาคต ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปตามกระแส แต่ยอมรับว่าเรื่องนี้ก็ถูกมองเป็นเรื่องการเมืองเหมือนกัน อย่าทำให้เป็นกระแสการเมืองขึ้นไปอีก เพราะหากทุกเรื่องเป็นกระแสทางการเมือง ก็จะแก้ไขปัญหาอะไรไม่ได้ หวังว่านายกรัฐมนตรีท่านใหม่จะรับทำต่อไป ยอมรับว่าการทำงานในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา อาจจะมีใจร้อนไปบ้าง อยากทำงานแก้ไขให้เสร็จโดยเร็ว แต่เข้าใจดีว่าไม่สามารถใช้วิธีการแบบทหารมาแก้ไขปัญหาได้ แต่ก็จำเป็นต้องมีการสั่งการ หรือจ้ำจี้จ้ำไชบ้าง ซึ่งถือว่าทุกคนให้เกียรติผม ให้สามารถทำงานมาถึงตรงนี้ได้ ขอให้ทุกคนมั่นใจว่าได้วางกลไกการบริหารงานของทุกกระทรวงไว้มากพอสมควร และขอขอบคุณทุกส่วนราชการ ที่ให้ความร่วมมือมาตลอด 5 ปี อาจจะมีชอบหรือไม่ชอบผมบ้าง ก็ไม่เป็นไร ซึ่งผมได้ยึดตามหลักศาสนาพุทธ ว่า จงไม่ยินดี ยินร้ายกับคำชมและคำตำหนิ” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า ที่ตนทำหน้าที่จนถึงทุกวันนี้ได้ ก็ด้วยใจ ความศรัทธา และความเชื่อมั่น แต่การทำงานไม่ใช่เรื่องง่าย ที่จะทำเพื่อประชาชนได้ทั้งหมด ซึ่งการทำงาน พบหลายปัญหา ทั้งปัญหาความขัดแย้ง กฎหมาย ถ้าตนสนใจทุกเรื่อง แต่ถ้าไม่อ่านเลย ก็จะถูกมองว่าโง่ แต่ถ้าเชื่อทุกอย่าง ก็อาจถูกมองว่าบ้า เหมือนโลกโซเชียลฯ ทุกวันนี้ ต้องพิจารณาว่าถูกต้องและเชื่อถือได้หรือไม่ และขอทุกคนอย่าสร้างความขัดแย้งขึ้นอีก เพราะไม่อยากบังคับใช้กฎหมายให้มากขึ้นอีก.-สำนักข่าวไทย