กรุงเทพฯ 8 มิ.ย.-ป.ป.ส.เปิดเผยข้อมูลสำคัญกับสำนักข่าวไทย กรณีพบไอซ์ส่งจากไทยไปยังออสเตรเลียมูลค่า 26,000 ล้านบาท โดยไทยไม่ใช่ต้นทางการผลิต แต่เป็นทางผ่านไปยังประเทศที่ 3 โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่ “TASKFORCE STORM” อยู่ระหว่างขยายผล โดยมีข้อมูลมากพอสมควร แต่เปิดเผยรายละเอียดตัวละครของแก๊งค้ายาระดับโลกนี้ไม่ได้
พันตำรวจตรีสุริยา สิงหกมล รองเลขาธิการ ป.ป.ส. ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวไทยทางโทรศัพท์ ถึงความคืบหน้าที่ทางการออสเตรเลีย ตรวจยึดไอซ์ 1.6 ตัน และ เฮโรอีน 37 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 840 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 26,880 ล้านบาท ว่ากรณีดังกล่าวได้รับการประสานจากทางการออสเตรเลีย ให้สืบสวนขยายผลเครือข่ายที่เกี่ยวข้องที่อาจอยู่ในประเทศไทย ภายใต้ความร่วมมือ 5 หน่วยงานตามปฏิบัติการเฉพาะกิจร่วมไทย – ออสเตรเลีย หรือ TASKFORCE STORM ประกอบด้วยทางการออสเตรเลีย และ 4 หน่วยงานของไทย คือ ป.ป.ส. ปปง. ดีเอสไอ และสตช.
สำหรับกรณีล่าสุดก็อยู่ระหว่างดำเนินการตามแผนปฏิบัติการ โดยยืนยันว่า ไทยไม่ใช่ประเทศต้นทางของไอซ์ลอตนี้ แต่ต้นทางมาจากพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำ ซึ่งมีเส้นทางลำเลียง 3 ช่องทาง ประกอบด้วย
1.สามเหลี่ยมทองคำ ไปที่ สปป.ลาว ต่อไปที่ เวียดนาม และ ออกสู่ทะเลจีนใต้ ก่อนขนส่งไปยังประเทศที่ 3 หรือประเทศเป้าหมาย
2.สามเหลี่ยมทองคำ ไปที่ เมียนมาร์และออกไปยังทะเลอันดามัน ก่อนขนส่งไปยังประเทศที่ 3 หรือ ประเทศเป้าหมาย
3.สามเหลี่ยมทองคำ ทะลุผ่านชายแดนเข้ามาไทย ก่อนส่งออกต่อไปยังประเทศที่ 3 หรือประเทศเป้าหมาย ทั้งนี้ภาพรวมจะเห็นว่า 2 ใน 3 เส้นทางดังกล่าวใช้การขนส่งทางทะเล จึงทำให้ยากต่อการสกัดกั้นหรือติดตามจับกุม รองเลขาธิการ ป.ป.ส. ระบุว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างสืบสวนและขยายผลในทางลับ โดยตัวละครต่างๆ ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ ซึ่งยืนยันว่ามีข้อมูลมากพอสมควร แต่ปฏิเสธที่จะเปิดเผยรายละเอียด
ปฏิบัตการ TASKFORCE STORM ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2559 สามารถจับกุมไอซ์รวม 5 กิโลกรัม และสารตั้งต้นผลิตยาเสพติดชนิดต่างๆ ทั้งยาบ้าและไอซ์ 3.9 ตัน รวมถึงปฏิบัติการขยายผลจากการตรวจยึดไอซ์ลอตประวัติศาสตร์ ที่ทางการออสเตรเลียตรวจยึดไอซ์ที่ซุกซ่อนในลำโพงเครื่องเสียงที่ท่าเรือเมลเบิร์น และพบว่ามีการขนส่งจากไทย.-สำนักข่าวไทย