ปีนี้ไทยผลิตน้ำตาลได้ 14 ล้านตัน

กรุงเทพฯ 31 พ.ค. – ปีนี้อุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลไทยผลิตน้ำตาลได้รวม 14 ล้านตัน ปัญหาอ้อยไฟไหม้ยังต้องเดินหน้าแก้ไขต่อไป 


ผู้สื่อข่าวรายงานภาพรวมอุตสาหกรรมน้ำตาลไทย ฤดูกาลผลิตปี 2561/2562 ว่า หลังจากโรงงานน้ำตาลเริ่มเปิดหีบอ้อยมารวมมากกว่า  160 วัน ขณะนี้ปลายเดือนพฤษภาคมโรงงานน้ำตาลปิดหีบอ้อยประจำฤดูกาลนี้แล้ว โดยมีผลผลิตอ้อยจากทั่วประเทศส่งเข้าหีบที่โรงงานน้ำตาล 55 โรงงาน รวมอ้อยทั้งสิ้น 130.97 ล้านตันอ้อย ผลิตน้ำตาลได้ประมาณ 14 ล้านตัน อย่างไรก็ตาม ฤดูกาลผลิตปี 2561/2562 อ้อยที่ส่งเข้าโรงงานน้ำตาลส่วนใหญ่เป็นอ้อยไฟไหม้เกิดจากวิธีการเก็บเกี่ยวผลผลิตอ้อยด้วยวิธีการเผามีมากถึง  80.03 ตันอ้อย ขณะที่อ้อยสดซึ่งมีคุณภาพสูงกว่าอ้อยไฟไหม้เข้าหีบที่โรงงานเพียง 50.93 ตันอ้อย   

ด้านความหวานของอ้อยฤดูกาลผลิตนี้ อ้อยที่เกษตรกรปลูกมีค่าความหวานเฉลี่ยอยู่ที่ 12.64 ซี.ซี.เอส. ส่งผลให้อ้อย 1 ตันที่เข้าหีบสามารถผลิตน้ำตาลออกมาได้ 111.33 กิโลกรัม (กก.) นอกจากค่าความหวานของอ้อยแล้ว ส่วนหนึ่งยังเป็นผลมาจากการเข้มงวดเข้าไปตรวจสอบการยกระดับประสิทธิภาพการผลิตของโรงงานน้ำตาลของสำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) ด้วย ปีนี้โรงงานน้ำตาลทุกแห่งสอบผ่านตามมาตรฐานประสิทธิภาพการผลิต จนสามารถผ่านเกณฑ์การประเมินจาก สอน.จนครบทุกโรงงานแล้ว 


ผู้สื่อข่าวรายงานว่าปัญหาการขาดแคลนแรงงานเก็บเกี่ยวอ้อย ทำให้เกษตรกร ตัดสินใจใช้วิธีการเผาไร่อ้อยเพื่อให้การเก็บเกี่ยวเป็นไปได้ง่ายและรวดเร็ว แต่อ้อยไฟไหม้ก็สร้างปัญหาควันที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพประชาชนและยังกระทบต่อคุณภาพอ้อยให้คุณภาพลดต่ำลง กระทบต่อราคาอ้อยที่เป็นรายได้ของเกษตรกรชาวไร่อ้อยที่จะได้รับตามคุณภาพอ้อยที่โรงงานได้รับ  

สำหรับฤดูกาลผลิตปี 2562/2563 หรือฤดูการผลิตปีหน้า นับเป็นช่วงที่เกษตรกรชาวไร่อ้อยและโรงงานน้ำตาล จะต้องปรับตัวและวางแผนรับมือทั้งสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปทั้งราคาน้ำตาลตลาดโลก ค่าจ้างแรงงานตัดอ้อย รถบรรทุกอ้อย แรงงานในโรงงาน ซึ่งค่าใช้จ่ายเหล่านี้มีแนวโน้มปรับสูงขึ้นตามอัตราค่าจ้างแรงงานขั้นต่ำ การช่วยบรรเทาผลกระทบ เช่น พิจารณานำรถตัดอ้อยมาใช้ในการเก็บเกี่ยวผลผลิตแทนคนตัดอ้อย นอกจากนี้ ยังต้องเผชิญกับปัญหาแรงงานประจำฤดูผลิตที่คนรุ่นใหม่ไม่ค่อยให้ความสนใจ เพราะเป็นงานหนัก รวมทั้งโรงงานน้ำตาลเปิดทำการเพียงช่วงสั้น ๆ แต่ละปี 4-5 เดือนเท่านั้นในช่วงหีบอ้อย ปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากการเผาไร่อ้อยเพื่อเก็บเกี่ยวผลผลิต จนสร้างผลกระทบเขม่าควันและเป็นสาเหตุหนึ่งของฝุ่นขนาดเล็ก  P.M.2.5 ที่สังคมกังวล จึงต่อต้านการเผาไร่อ้อย และทางราชการออกมาดูแลบังคับห้ามการเผา ด้านรถบรรทุกอ้อยเข้าโรงงานน้ำตาลก็มีปัญหา ด้านกฎหมายระเบียบการขนส่งที่กำหนดน้ำหนักบรรทุกที่จำกัดเอาไว้ เป็นต้น.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 10 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

Chinese foreign ministry in January 2025

ถอดบทเรียนจากจีน แก้ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 จริงจัง

ปักกิ่ง 23 ม.ค. – สถานการณ์ฝุ่นพิษ PM 2.5 ที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่และเร่งด่วนในไทยอยู่ในขณะนี้ หลายฝ่ายกำลังหาทางแก้ไขด้วยการมุ่งไปที่ต้นตอที่ทำให้เกิดฝุ่น จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลกระบุว่า ในปี พ.ศ. 2542 ประชากรโลกมากถึง 92% ได้รับฝุ่น PM2.5 ในระดับความเข้มข้นสูงกว่าที่องค์การอนามัยโลกกำหนด และถ้ารัฐบาลทุกประเทศไม่เร่งแก้ปัญหาอย่างเอาจริงเอาจัง ภายในอีก 7 ปีข้างหน้า หรือ พ.ศ. 2573 คุณภาพชีวิตคนทั่วโลกจะยิ่งเลวร้ายสุดขีด เพราะปริมาณ PM2.5 จะเพิ่มขึ้นจากเดิม 50% และประเทศที่สามารถพิสูจน์ให้เห็นเป็นตัวอย่างว่า หากรัฐบาลตั้งใจจริงจัง ทุ่มสรรพกำลังความพยายาม จะสามารถกำจัดปัญหาฝุ่นควันพิษได้อย่างแน่นอนนั่นก็คือ จีน   จีนเคยมีคนเสียชีวิตเพราะมลพิษในอากาศปีละหลายล้านคน แต่ทุกวันนี้แม้แต่ธนาคารโลกยังยกย่องจีนว่า เป็นแบบอย่างของความพยายาม สามารถพลิกฟ้าหม่นเพราะฝุ่น PM2.5 ให้กลับเป็นฟ้าใสได้สำเร็จ ความพยายามของเหมา เจ๋อตุง ผู้นำจีนที่มุ่งเปลี่ยนสังคมเกษตรกรรมเป็นสังคมอุตสาหกรรม ทำให้จำนวนโรงงานในจีนเพิ่มขึ้นทวีคูณภายใน พ.ศ. 2502 แน่นอนว่า นโยบายเศรษฐกิจของผู้นำจีนช่วยให้คนจีนหลายล้านหลุดพ้นจากขีดความยากจน แต่ก็ต้องแลกกับชีวิตและสุขภาพ เพราะควันพิษจากโรงงานทำให้ฝุ่น PM2.5 พุ่งในระดับเกินกว่าจะรับไหว กว่ารัฐบาลจะรู้ตัวว่าปัญหามาถึงขั้นวิกฤต […]

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่

ผู้ป่วยเสียชีวิต

รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก-เสียชีวิต จากเหตุชายผิวสีคลุ้มคลั่ง

ผอ.รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก หรือเสียชีวิต จากเหตุต่างชาติผิวสีคลุ้มคลั่ง มีเพียงเจ้าหน้าที่ รพ.บาดเจ็บจากการถูกต่อยเล็กน้อย

ข่าวแนะนำ

ตร.ทางหลวงไล่ล่ากระบะขนแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้าไทย

ระทึก! ตำรวจทางหลวงขับรถไล่ล่ากระบะขนแรงงานต่างด้าว 2 คัน สุดท้ายไม่รอด จนมุมบริเวณ ต.หาดท่าเสา อ.เมือง จ.ชัยนาท ตรวจสอบพบแรงงานต่างด้าวจำนวนมาก จึงนำตัวทั้งหมด พร้อมกับคนขับรถทั้ง 2 คัน ส่งดำเนินคดีที่ สภ.เมืองชัยนาท

คุมพ่อชาวรัสเซียฝากขัง จับลูกชายวัย 13 โยนลงทะเลเสียชีวิต

ตำรวจคุมตัว “หนุ่มรัสเซีย” ฝากขัง หลังก่อเหตุโยนลูกวัย 13 ปี ออกจากเรือ บริเวณหมู่เกาะสุรินทร์ จ.พังงา จนถูกใบพัดเรือบาดเจ็บสาหัส ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา อ้างเสียความทรงจำ ไม่รู้ทำอะไรลงไป

ดีเอสไอจ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ สืบคดี “แตงโม”

ดีเอสไอ นำผู้เชี่ยวชาญหลายด้านเปิดประชุมนัดแรก ลุยสืบสวน “คดีแตงโม” จ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ หาพยานหลักฐานใหม่ และบินเก็บข้อมูลระบบ Cloud ในมือถือทุกคนบนเรือ-นอกเรือ

แก้ปัญหาฝุ่น

นายกฯ สั่งการด่วนคมนาคมออกมาตรการหยุด PM 2.5

นายกฯ สั่งการคมนาคมออกมาตรการเร่งด่วน หยุด PM 2.5 ให้ประชาชนนั่งรถไฟฟ้าทุกสาย-ขสมก.ฟรี 7 วัน 25-31 ม.ค.นี้ เตรียมใช้งบกลางกว่า 140 ล้านบาท ชดเชยผู้ประกอบการ เข้มตั้งจุดตรวจควันดำ 8 จุด รอบ กทม.-ปริมณฑล