นนทบุรี 2 พ.ย. – รมว.พาณิชย์ เห็นชอบตั้งคณะทำงานร่วมเพื่อแก้ไขและพิจารณาผลกระทบต้นทุนสูงของอุตสากรรมอ้อยและน้ำตาลให้ชัดเจนภายใน 1 เดือน ก่อนเปิดหีบอ้อยปี 67 ในเดือน ธ.ค.นี้ ชี้หากผลศึกษาจำเป็นต้องขึ้นราคาน้ำตาลทรายจริง กระทรวงพาณิชย์ยอมถอยยกเลิกประกาศเป็นสินค้าควบคุม ขณะที่ตัวแทนชาวไร่อ้อยเห็นด้วยตัังคณะทำงานแก้ไขทั้งระบบ
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวภายหลังประชุมร่วมกับตัวแทน 4 องค์กรชาวไร่อ้อยทั่วประเทศ เช่น สหพันธ์ชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทย, ชมรมสถาบันชาวไร่อ้อยภาคอีสาน, สหสมาคมชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทย และสมาพันธ์ชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทย ว่า ตนได้ชี้แจงทำความเข้าใจถึงสาเหตุและความจำเป็นที่ต้องดึงสินค้าน้ำตาลทรายเข้ามาเป็นสินค้าควบคุมเพื่อไม่ให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนค่าครองชีพมากจนเกินไป ขณะเดียวกันก็ทราบดีว่าชาวไร่อ้อยทั่วประเทศก็ประสบปัญหาในด้านต้นทุนการผลิตต่าง ๆ ปรับตัวสูงขึ้น ดังนั้น เพื่อให้ทุกฝ่ายอยู่ร่วมกันได้ จึงเห็นควรให้มีการจัดตั้งคณะทำงานบริหารความสมดุลในอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาล โดยมีนายยรรยง พวงราช ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรีเป็นประธานคณะทำงานชุดดังกล่าว ซึ่งมีตัวแทนจากภาครัฐ เอกชน ตัวแทนชาวไร่อ้อยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาเป็นคณะทำงานเพื่อร่วมกันพิจารณาหาทางออกของปัญหาผลกระทบในด้านต่าง ๆ ของอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลกันต่อไป
ทั้งนี้ ได้กำหนดให้คณะทำงานไปพิจารณาให้แล้วเสร็จภายใน 1 เดือน ก่อนที่จะเปิดหีบอ้อยในรอบใหม่ของปี 67 หรือประมาณในเดือน ธ.ค.นี้ หากผลการพิจารณาของคณะทำงานเห็นว่าคำประกาศของกระทรวงพาณิชย์โดยคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการหรือ กกร.ที่ดึงสินค้าน้ำตาลทรายกลับมาเป็นสินค้าควบคุมเป็นอุปสรรคต่ออุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลจริง ทางกระทรวงพาณิชย์ก็พร้อมยอมที่จะพิจารณานำสินค้ากลุ่มนี้ไม่อยู่ในบัญชีควบคุมได้ แต่ทั้งนี้ทุกฝ่ายจะต้องคำนึงถึงการไม่สร้างภาระผลกระทบค่าครองชีพของประชาชนมากจนเกินไปเป็นสำคัญ
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าภายในไม่เกิน 1 เดือน การพิจารณาของคณะทำงานจะมีความชัดเจนและแนวทางแก้ไขปัญหาอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลเพื่อใช้เป็นแนวทางช่วยเหลือให้กับชาวไร่อ้อยทั่วประเทศกันได้ต่อไป
นายกำธร กิตติโชติทรัพย์ นายกสมาคมกลุ่มชาวไร่อ้อยเขต 7 นายกสมาคมชาวไร่อ้อย เขต 7 กล่าวว่าจากการหารือในวันนี้ สมาคมชาวไร่อ้อยเห็นด้วยกับการตั้งคณะทำงานร่วมขึ้นมาแก้ปัญหาระยะยาว และระหว่างนี้จะไม่มีการปิดโรงงานหรือระงับการขนน้ำตาลออกจากโรงงาน พร้อมยืนยันว่า ไทยมีน้ำตาลเพื่อการบริโภคอย่างเพียงพอ จากผู้ประกอบการกว่า 50 โรงงาน เนื่องจากมีการควบคุมการเบิกจ่ายน้ำตาลอย่างเข้มงวด และขณะนี้ยังไม่พบการลักลอบส่งออกน้ำตาล
ทั้งนี้ สำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย หรือ สอน. มีการกำหนดสัดส่วนต้นทุนการผลิตอ้อย ขณะนี้อยู่ที่ 1,400 บาทต่อตันอ้อย หากคิดเป็นราคาน้ำตาลทรายหน้าโรงงานจะอยู่ที่กิโลกรัมละ 22 บาท สูงกว่าราคาควบคุมที้กิโลกรัมละ 19-20 บาท เป็นต้น.-สำนักข่าวไทย