เร่งแก้ปัญหาราคาปาล์มตกต่ำ เตรียมขายบี10 เร็วๆนี้

15 พ.ค.-หลายหน่วยงานเร่งแก้ปัญหาราคาปาล์มตกต่ำเตรียมขายบี10 เร็วๆนี้ ด้าน อสมท รุกธุรกิจใหม่จับมือเอกชนจัดงาน CARE EXPO Thailand 2019 รองรับเมกะเทรนด์สังคมผู้สูงวัย


ราคาปาล์มที่ตกต่ำสุดในรอบ 20 ปี ล่าสุดปาล์มทะลายอยู่ที่ประมาณ 1.80 บาท/กก. แม้รัฐบาลเร่งแก้ไขปัญหา โดยเฉพาะการดูดซับไปใช้ด้านพลังงาน ในแง่ของการผลิตไฟฟ้า วานนี้ ครม.เห็นชอบให้นำไปผลิตไฟฟ้าของ กฟผ. เพิ่มเติม 2 แสนตัน จากก่อนหน้านี้ซื้อไปแล้ว 1.6 แสนตัน และกระทรวงพลังงาน ก็จะนำไปใช้ผลิตน้ำมันไบโอดีเซลเพิ่มขึ้น โดยบี20 บี10 เป็นน้ำมันมาตรฐานทั่วไป และกำหนดให้การขายบี7 เป็นน้ำมันพรีเมียมเท่านั้น ซึ่งปัจจุบันราคาพรีเมียมแพงกว่าบี7 อัตรา 3 บาท/ลิตร นั่นก็หมายความว่า จะใช้กลไกการตลาดดึงให้เกิดการใช้บี10 และบี20 มากขึ้น ก็จะดูดซับปาล์มได้มากขึ้น ซึ่งผู้ขายน้ำมันค่ายต่างๆ ก็รอดูว่านโยบายที่ชัดเจนจะออกมาอย่างไร โดยเฉพาะรอประกาศมาตรฐานน้ำมันบี10 ของกรมธุรกิจพลังงาน โดยวันพรุ่งนี้ นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รมว.พลังงาน ก็จะให้ความชัดเจนอีกครั้ง เพราะจะมีการประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน หรือ กบง. และจะแถลงข่าวพร้อมกับค่ายน้ำมัน ปตท. ในการวางแผนจำหน่ายน้ำมันบีต่างๆ โดย รมว.พลังงาน ระบุก่อนหน้านี้ ตามนโยบายข้างต้น จะทำให้ราคา B10 ถูกกว่า B7 ในอัตรา 3 บาท/ลิตร และจะส่งผลให้ราคา B20 ถูกกว่า B7 ถึง 7 บาท/ลิตร และสำหรับในระยะ 3-5 ปีข้างหน้าไทยคาดว่ารูปแบบการใช้เชื้อเพลิงน้ำมันจะเปลี่ยนแปลงไป โดยคาดว่าจะมีการใช้เพียงแก๊สโซฮอล์ E20 และดีเซลB20 เป็นหลัก


และวันนี้กรมสรรพสามิต ได้แถลงข่าว ถึงแนวทางการสนับสนุนการดูดซับปาล์มมาผลิตไบโอดีเซล โดยกำหนดอัตราภาษีที่ชัดเจน ออกประกาศ วานนี้ แบ่งกลุ่ม ออกเป็นภาษี 6 ระดับ สำหรับการผสมไบโอดีเซล บี100 ยิ่งผสมเยอะ ภาษียิ่งถูก ก็จะยิ่งทำให้ราคาน้ำมันประเภทนั้นๆ ลดหลั่นตามอัตราผสม โดยหากเป็นการผสมไม่ถึงร้อยละ 4 อัตราภาษีจะอยู่ที่ 6.440 บาท/ลิตร อัตราการผสมช่วงร้อยละ 7-9 จะเสียภาษี 5.93 บาท/ลิตร อัตราผสมร้อยละ 14-19 จะเสียภาษี 5.480 บาทต่อลิตร และหากผสมสูงไปอีก เป็นร้อยละ 19-24 อัตราภาษีจะเสียที่ 5.153 บาทต่อลิตร เมื่ออัตราภาษีเป็นรูปแบบดังกล่าวอัตราภาษีดีเซลหมุนเร็วประเภทต่างๆ ก็จะขึ้นราว 0.01 บาทต่อลิตร โดยน้ำมันดีเซลหมุนเร็วบี7 อัตราจะอยู่ที่ 5.99 บาทต่อลิตร บี10 มีอัตราภาษี 5.80 บาทต่อลิตร และบี20 จะอยู่ที่  5.153 บาทต่อลิตร ซึ่งอัตราภาษีน้ำมันนั้นถือว่าเป็นภาษีหลักของประเทศ มียอดเป็นอันดับ 1 ดังนั้นหากจะลดภาษีคงยาก โดยเฉพาะภาษีกลุ่มดีเซล ช่วงครึ่งแรกของปีงบประมาณ 2562 กรมสรรพสามิตเก็บภาษีน้ำมันได้ถึง 9.7 หมื่นล้านบาท หากรวมทั้งปีก็จะมียอดเกือบ 2 แสนล้านบาท


ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ เป็นอีกหนึ่ง Mega trends ที่หลายประเทศทั่วโลกกำลังเผชิญ โดยยังมีกลุ่มผู้สูงอายุที่ชอบทำกิจกรรม เข้าสังคมพบปะเพื่อนฝูง ซึ่งเป็นเป้าหมายของธุรกิจต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องในการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการต่างๆ เรานิยมเรียกคนกลุ่มนี้ว่า Silver Age หรือ กลุ่มผู้บริโภควัยเกษียณมั่งคั่ง กลุ่มนี้ ไม่ได้มีแค่เรื่องสุขภาพเพียงอย่างเดียว แต่ยังให้ความสำคัญกับงานอดิเรก การเดินทางท่องเที่ยว การวางแผนทางการเงิน รวมไปถึงเครื่องสำอางและการชะลอวัย พร้อมที่จะจ่ายเงินเพื่อซื้อความสุขให้กับตัวเอง คนเกษียณกลุ่มนี้จึงไม่ใช่ “ภาระ” แต่กลับกลายเป็น “โอกาส” ของธุรกิจใหม่ ๆ ที่จะตามมาอีกมากมายในอนาคต โดยในปี 2564 สังคมไทยจะก้าวเข้าสู่การเป็นสังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์ (Aging Society) คือ การมีผู้สูงอายุมากกว่า 60 ปี จำนวนเท่ากับ หรือ สูงกว่า 20% ของประชากรทั้งหมด

เมื่อมีโอกาสเช่นนี้ อสมท ก็จับมือกับสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ สสว. และเอกชน องค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น หรือ เจโทร กรุงเทพฯ จัดงาน “แคร์ เอ็กซ์โป ไทยแลนด์ 2019” ภายใต้แนวคิด “งานแฟร์ เพื่อคนที่คุณแคร์” ระหว่างวันที่ 29 สิงหาคม – 1 กันยายน ที่ไบเทคบางนา คาดว่าจะมีผู้เข้าชมงานมากกว่า 20,000 คน งานนี้จะรวบรวมนวัตกรรมและเทคโนโลยี อุตสาหกรรมการผลิตสินค้าและบริการของผู้สูงอายุเข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง เพื่อสนับสนุนนโยบายการเป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติและการก้าวเป็นสังคมผู้สูงอายุของไทยอย่างสมบูรณ์ในอีก 4 ปีข้างหน้า โดยตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2562 เป็นต้นไป อสมท จะมีรายการเกี่ยวกับผู้สูงอายุมากขึ้น เพราะเห็นความสำคัญของผู้สูงอายุ และจะเริ่มประชาสัมพันธ์งานนี้อย่างต่อเนื่องตั้งแต่เดือนกรกฎาคมนี้เป็นต้นไป

ในขณะเดียวกัน อสมท ได้ร่วมมือกับ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว). หรือ SME D Bank ส่งเสริมการตลาดให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีคนตัวเล็กและกลุ่มสตาร์ทอัพ ค้าขายสินค้าผ่านทีวีดิจิทัลช่อง9 MCOT HD หมายเลข 30 และแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ  www.smedmarketplace.com  มีการคัดเลือกผู้ประกอบการที่มีสินค้าโดดเด่นมีเอกลักษณ์แปลกใหม่จากทั่วประเทศมาจำหน่าย ซึ่งนอกจากจะขายผ่านเว็บไซต์แล้วยังผ่านแอปพลิเคชัน SME D Bank 

บมจ.อสมท ยังเปิดเผยผลประกอบการไตรมาสแรกปี 62 ดีขึ้น ขาดทุน 32 ล้านบาท ขาดทุนลดลงกว่า 71% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2561 เนื่องจากได้เพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารค่าใช้จ่ายอย่างต่อเนื่อง รายได้รวมของธุรกิจโทรทัศน์ และธุรกิจวิทยุ ยังคงเป็นธุรกิจหลัก และมีแผนที่จะนำเสนอรายการใหม่ๆ ที่เป็นความบันเทิง แต่มีสาระ อาทิ ซีรีส์ฟอร์มยักษ์สามก๊ก, นางพญางูขาว, สารคดีและซีรีส์ยอดนิยมจาก BBC First  ในช่วงปลายไตรมาส 2 อย่างต่อเนื่อง จะมีรายการสำหรับครอบครัวมากขึ้น พร้อมกับโครงการพิเศษ ที่สนับสนุนนโยบายของภาครัฐและโครงการพิเศษของลูกค้าเอกชน ส่วนวิทยุจะมีการพัฒารายการต่อเนื่อง พร้อมให้น้ำหนักกับ Content podcast ของวิทยุ ข่าว และ 9Ent ออนไลน์ ซึ่งกำลังได้รับความนิยมจากกลุ่มผู้บริโภคในปัจจุบัน ทั้งนี้ หลังจากกระบวนการคืนใบอนุญาตช่อง 14 เสร็จสิ้นในเดือนกรกฎาคม 2562 อสมท จะมุ่งพัฒนารายการของช่อง 9 MCOT HD หมายเลข 30 ให้มากขึ้น และเปิดรับพันธมิตรผู้ผลิตรายการ ทั้งในด้าน Content ข่าว, สาระบันเทิง และ Platform ด้านเทคโนโลยีมากขึ้นด้วย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.เรือนจำทักษิณป่วย ไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน  

13 มิ.ย. – ศาลฎีกาฯ ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนกรณีกรมราชทัณฑ์อนุญาตให้ “ทักษิณ” เข้ารักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ นัดไต่สวนเพิ่มอีก 6 นัด เดือน ก.ค.68 ด้าน ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ยอมรับไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนคดีชั้น 14 ในเรื่องการบังคับคดีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ล่าสุดการไต่สวนนัดแรกเสร็จสิ้นแล้ว โดยศาลได้สอบถาม นายมานพ ชมชื่น ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพคนปัจจุบัน เกี่ยวกับกระบวนการในการส่งตัวนายทักษิณจากเรือนจำไปโรงพยาบาลตำรวจ ในคืนวันที่ 22 สิงหาคม ซึ่งนายทักษิณ มีอาการแน่นหน้าอก นอนไม่หลับ พยาบาลเวรตรวจอาการแล้ว ถึงโทรไปหาแพทย์ และมีความเห็นให้ส่งตัวไปที่โรงพยาบาลตำรวจ โดยไม่ได้เข้าไปที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน และอาการก็ตรงกลับใบส่งตัวที่แพทย์เขียนไว้ล่วงหน้า เพราะเป็นผู้ป่วยกรณีฉุกเฉิน แต่ก็ยอมรับว่าไม่ได้เข้าโรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน จากนั้นศาลได้นัดไต่สวน 6 นัด ในเดือนกรกฎาคม 2568 และใน […]

เครื่องบินแอร์อินเดีย ตกใส่อาคารที่พักแพทย์ ตาย 241 รอดคนเดียว

นิวเดลี 13 มิ.ย. – เครื่องบินโดยสารของสายการบินแอร์อินเดีย พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประสบอุบัติเหตุตกใส่อาคารในย่านชุมชนทางตะวันตกของประเทศ มีผู้เสียชีวิต 241 ราย รอดชีวิตปาฏิหาริย์เพียงคนเดียว ยังไม่มีการยืนยันว่ามีคนในอาคารบ้านเรือนเสียชีวิตเท่าไร เครื่องบินลำที่ประสบอุบัติเหตุเป็นเครื่องบินโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลน์เนอร์ ของสายการบิน แอร์ อินเดีย เที่ยวบิน เอไอ171 (AI171) พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประกอบด้วยผู้โดยสาร 230 คน และลูกเรือ 12 คน เพิ่งจะออกเดินทางจากท่าอากาศยานระหว่างประเทศเมืองอาห์เมดาบัด รัฐคุชราต ทางตะวันตกของอินเดียเมื่อเวลา 13.34 น. วานนี้ มุ่งหน้าไปยังท่าอากาศยานแกตวิค กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ คนบนเครื่องบินเป็นชาวอินเดีย 169 คน และมีพลเมืองอังกฤษ 53 คน โปรตุเกส 7 คน และแคนาดา 1 คน คลิปที่ผู้ใช้งานสื่อออนไลน์ในอินเดียส่งต่อกันแพร่หลาย เผยให้เห็นช่วงเวลาขณะที่เครื่องบินโดยสารลำนี้เครื่องบินค่อยๆ […]

แพทยสภายืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย

กทม. 12 มิ.ย.- แพทยสภามีมติ 2 ใน 3 ยืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย ปมส่งตัว “ทักษิณ” รักษาชั้น 14 รพ.ตร. ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา อุปนายกแพทยสภา เปิดเผยหลังการประชุมการลงมติแพทยสภากว่า 5 ชม. ว่า กรณีที่มีการกล่าวโทษแพทย์ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ และแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ เกี่ยวกับการประพฤติผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม การประชุมคณะกรรมการแพทยสภาครั้งที่ 6/2568 ประจำเดือนมิถุนายน คือวันนี้ มีวาระสำคัญคือการพิจารณาหนังสือยับยั้งมติลงโทษผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมของคณะกรรมการแพทยสภาจากสภานายกพิเศษ วาระนี้มีคณะกรรมการแพทยสภาเข้าร่วมประชุมจำนวน 68 คน จากจำนวนแพทยสภาที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งสิ้น 69 คน ได้พิจารณาการยับยั้งมติแพทยสภาของสภานายกพิเศษ มีมติด้วยคะแนนเสียงเกินกว่า 2 ใน 3 ของคณะกรรมการฯ ที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งคณะ ซึ่งมีคะแนนโหวตมากกว่า 60 เสียง ยืนยันตามมติเดิมของคณะกรรมการแพทยสภาเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2568 กระบวนการต่อไปแพทยสภาจะออกคำสั่งบังคับตามมติและแจ้งให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทราบ คาดว่าคำสั่งจะออกได้ในวันพรุ่งนี้ และจะมีผลการลงโทษหลังจากคำสั่งไปยังผู้ถูกร้องเรียน ทั้งนี้ […]

“ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน

ฉะเชิงเทรา 12 มิ.ย. – “ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน จ.ฉะเชิงเทรา พบกองขยะอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วนเครื่องยนต์นำเข้ากองเต็มพื้นที่ ฝ่าฝืนคำสั่งกรมโรงงานฯ น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าทีมสุดซอย พร้อมเจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมจังหวัด และตำรวจสอบสวนกลาง เข้าตรวจสอบโรงงานรีไซเคิลใน อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นการขยายผลจากข้อมูลที่ผู้ใหญ่บ้าน ต.เขาหินซ้อน อ้างว่ามีบริษัทคัดแยกขยะอุตสาหกรรมในพื้นที่ให้นำดินไปแจกฟรี แต่กลับพบว่าเป็นขยะอุตสาหกรรม จากการตรวจสอบพบว่าบริษัทแห่งนี้จะรับขยะอิเล็กทรอนิกส์ เศษสายไฟ วัสดุแบตเตอรี่ มอเตอร์ และชิ้นส่วนเครื่องยนต์ที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ ผ่านบริษัทแห่งหนึ่งที่ฮ่องกง โดยบริษัทดังกล่าวรับซื้อเศษขยะมาจากญี่ปุ่นอีกทอดหนึ่ง ก่อนส่งมาที่โรงงานรีไซเคิลในไทยให้คัดแยก แต่สำแดงเป็นโลหะผสม (Mixed metal) และมีการเสียภาษีต่อเที่ยวตามน้ำหนัก รวมแล้วประมาณ 33,000 บาท การคัดแยกขยะจะใช้แรงงานต่างด้าวคัดแยกเหล็ก อะลูมิเนียม ทองแดงออก โดยในส่วนของเหล็ก จะส่งโรงเหล็กในประเทศ สำหรับอะลูมิเนียมกับทองแดง จะส่งกลับไปฮ่องกง เพื่อขายต่อ โดยไม่ต้องเสียภาษี เนื่องจากเป็นเศษโลหะ อีกทั้งยังมีกองขยะที่ไม่สามารถนำไปแปรรูปใช้งานต่อได้จำนวนมากถูกทิ้งไว้ในประเทศ โรงงานดังกล่าวมีการขออนุญาตประกอบกิจการตั้งแต่ปี 2558 แต่ก่อนหน้านี้พบว่ามีการขยายโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต การจัดเก็บวัสดุไม่ถูกต้องตามมาตรฐาน คือกองอยู่ลานโล่งด้านนอกอาคาร ปัญหาเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยในการประกอบกิจการ และการปล่อยน้ำเสีย […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ เชื่อกัมพูชาเข้าใจผิด ตัดไฟ-เน็ต ส่ง กต.เคลียร์

ถนนวิทยุ 13 มิ.ย.- นายกฯ เชื่อกัมพูชาเข้าใจผิด ไทยออกแถลงการณ์ “ตัดไฟ-เน็ต” เผยแค่มาตรการเตรียมพร้อม ส่ง กต.เคลียร์ หลัง “ฮุน เซน” งัด 6 มาตรการโต้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่สมเด็จฯฮุนเซน ประกาศ 6 มาตรการตอบโต้ประเทศไทย หากไม่ยอมเปิดด่านพรมแดน ซึ่งล่าสุดได้มีการปิดด่านที่จังหวัดจันทบุรีโดยไม่มีการแจ้งให้ทางการไทยทราบก่อน โดยนายกฯระบุว่าตอนแรกทางกัมพูชาได้ยินว่าไทยจะตัดน้ำตัดไฟ(ตัดไฟตัดเน็ต) แต่จริงๆแล้ว เรื่องนี้ต้องอยู่ในมาตรการที่ต้องผ่านความเห็นชอบจากสภาความมั่นคงแห่งชาติหรือ สมช. ก่อน และเรายังไม่ได้มีการประกาศออกไป แต่ยอมรับว่ามีการเตรียมความพร้อมเรื่องนี้ และย้ำว่าเรายังไม่ได้ทำแบบนั้น ซึ่งอาจมีความเข้าใจผิดเกิดขึ้น จึงได้มีการพูดคุยกับรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องและคณะทำงานว่าเกิดอะไรขึ้น จนทำให้เข้าใจผิดว่ารัฐบาลออกแถลงการณ์ว่าจะตัดน้ำตัดไฟ ซึ่งไม่จริง ซึ่งก่อนหน้านี้ที่มีการพูดคุยกันก็มีการตกลงกันว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะปรับกำลัง และจะรอการพูดคุยในการประชุม JBC วันพรุ่งนี้ (14 มิ.ย.) จึงอยากให้สื่อมวลชนช่วยสื่อสารด้วยว่าเรื่องดังกล่าวไม่ใช่แถลงการณ์จากรัฐบาล ส่วนนายกรัฐมนตรีจะต้องประสานโดยตรงกับกัมพูชา หรือมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องประสานงานเพื่อให้เกิดความเข้าใจตรงกันหรือไม่ นายก รัฐมนตรี กล่าวว่า จะมอบหมายกระทรวงการต่างประเทศประสานไปทางกัมพูชาว่าข้อมูลดังกล่าวมาได้อย่างไร มีกระบวนการอย่างไร เพราะจริงๆแล้วเราได้มีการเตรียมการทุกสถานการณ์และเมื่อผ่านความเห็นชอบจาก สมช. […]

ผบ.เรือนจำทักษิณป่วย ไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน  

13 มิ.ย. – ศาลฎีกาฯ ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนกรณีกรมราชทัณฑ์อนุญาตให้ “ทักษิณ” เข้ารักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ นัดไต่สวนเพิ่มอีก 6 นัด เดือน ก.ค.68 ด้าน ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ยอมรับไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนคดีชั้น 14 ในเรื่องการบังคับคดีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ล่าสุดการไต่สวนนัดแรกเสร็จสิ้นแล้ว โดยศาลได้สอบถาม นายมานพ ชมชื่น ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพคนปัจจุบัน เกี่ยวกับกระบวนการในการส่งตัวนายทักษิณจากเรือนจำไปโรงพยาบาลตำรวจ ในคืนวันที่ 22 สิงหาคม ซึ่งนายทักษิณ มีอาการแน่นหน้าอก นอนไม่หลับ พยาบาลเวรตรวจอาการแล้ว ถึงโทรไปหาแพทย์ และมีความเห็นให้ส่งตัวไปที่โรงพยาบาลตำรวจ โดยไม่ได้เข้าไปที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน และอาการก็ตรงกลับใบส่งตัวที่แพทย์เขียนไว้ล่วงหน้า เพราะเป็นผู้ป่วยกรณีฉุกเฉิน แต่ก็ยอมรับว่าไม่ได้เข้าโรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน จากนั้นศาลได้นัดไต่สวน 6 นัด ในเดือนกรกฎาคม 2568 และใน […]

กัมพูชาสั่งแบนหนัง-ละครไทย

พนมเปญ 13 มิ.ย. – เว็บไวต์ขแมร์ไทม์ส ของกัมพูชารายงานว่า นายฮุน เซน ประธานวุฒิสภา เรียกร้องให้สถานีโทรทัศน์กัมพูชายกเลิกการออกอากาศละครไทย เลิกฉายหนังไทย และอาจจะยกเลิกการนำเข้าสินค้าจากไทยด้วยเพื่อรักษาอธิปไตยและศักดิ์ศรีของประเทศในยามที่เผชิญแรงกดดัน กระทรวงข่าวสารกัมพูชาได้ออกหนังสือถึงเจ้าของสถานีโทรทัศน์ทุกแห่งแจ้งให้ทราบว่าตั้งแต่เวลา 12.00 น. ของวันที่ 12 มิถุนายน 2568 เป็นต้นไป ทุกสถานีของกัมพูชาต้องงดออกอากาศภาพยนตร์ไทยทุกประเภทเพื่อความเหมาะสมของสถานการณ์และรักษาความมั่นคงของชาติ นอกจากนี้กระทรวงศิลปะและวัฒนธรรมกัมพูชายังออกประกาศแจ้งเตือนให้ระงับการฉายและห้ามนำเข้าภาพยนตร์ไทยทุกประเภทในกัมพูชาตั้งแต่ 12 นาฬิกาวันนี้เป็นต้นไป.-816.-สำนักข่าวไทย

 อิสราเอลระบุเปิดฉากโจมตีอิหร่าน

เยรูซาเล็ม 13 มิ.ย. – กองกำลังอิสราเอลเปิดฉากโจมตีเป้าหมายด้านนิวเคลียร์ของอิหร่าน เพื่อขัดขวางมิให้อิหร่านพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ สื่อของอิหร่านและผู้เห็นเหตุการณ์รายงานว่า เกิดเหตุระเบิดหลายครั้งที่โรงงานเพิ่มสมรรถนะแร่ยูเรเนียม อิสราเอลเรียกปฏิบัติการโจมตีนี้ว่า “สิงห์ผงาด” (Rising Lion) โดยระบุว่าการโจมตียังพุ่งเป้าไปที่บรรดาผู้บัญชาการของอิหร่านและโรงงานผลิตขีปนาวุธ พร้อมกันนั้น อิสราเอลได้ประกาศภาวะฉุกเฉินเพื่อเตรียมรับมือกับการโจมตีตอบโต้ด้วยขีปนาวุธและโดรนจากเตหะราน นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล ได้กล่าวผ่านข้อความวิดีโอที่บันทึกไว้ว่า ขณะนี้กำลังอยู่ในช่วงเวลาที่ชี้ขาดในประวัติศาสตร์ของอิสราเอล นายเนทันยาฮูเขากล่าวด้วยว่า อิสราเอลเล็งเป้าโจมตีไปที่นักวิทยาศาสตร์ที่กำลังพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ โครงการขีปนาวุธนำวิถี และโรงงานเสริมสมรรถนะยูเรเนียมที่เมืองนาทานซ์ (Natanz) ในปฏิบัติการที่จะดำเนินต่อไปอีกหลายวัน เจ้าหน้าที่กองทัพอิสราเอลกล่าวว่า อิสราเอลกำลังโจมตีเป้าหมายทางนิวเคลียร์และทางทหาร ‘หลายสิบแห่ง’ โดยเจ้าหน้าที่ระบุว่าอิหร่านมีวัสดุเพียงพอที่จะสร้างระเบิดนิวเคลียร์ได้ถึง 15 ลูกภายในไม่กี่วัน มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐกล่าวว่า อิสราเอลได้ดำเนินการฝ่ายเดียวเนื่องจากเชื่อว่าปฏิบัติการดังกล่าวมีความจำเป็นสำหรับการป้องกันตนเอง พร้อมกับย้ำว่า สหรัฐไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับปฎิบัติการครั้งนี้ของอิสราเอล ราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นกว่า 3 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลจากข่าวนี้.-813.-สำนักข่าวไทย