เร่งแก้ปัญหาราคาปาล์มตกต่ำ เตรียมขายบี10 เร็วๆนี้

15 พ.ค.-หลายหน่วยงานเร่งแก้ปัญหาราคาปาล์มตกต่ำเตรียมขายบี10 เร็วๆนี้ ด้าน อสมท รุกธุรกิจใหม่จับมือเอกชนจัดงาน CARE EXPO Thailand 2019 รองรับเมกะเทรนด์สังคมผู้สูงวัย


ราคาปาล์มที่ตกต่ำสุดในรอบ 20 ปี ล่าสุดปาล์มทะลายอยู่ที่ประมาณ 1.80 บาท/กก. แม้รัฐบาลเร่งแก้ไขปัญหา โดยเฉพาะการดูดซับไปใช้ด้านพลังงาน ในแง่ของการผลิตไฟฟ้า วานนี้ ครม.เห็นชอบให้นำไปผลิตไฟฟ้าของ กฟผ. เพิ่มเติม 2 แสนตัน จากก่อนหน้านี้ซื้อไปแล้ว 1.6 แสนตัน และกระทรวงพลังงาน ก็จะนำไปใช้ผลิตน้ำมันไบโอดีเซลเพิ่มขึ้น โดยบี20 บี10 เป็นน้ำมันมาตรฐานทั่วไป และกำหนดให้การขายบี7 เป็นน้ำมันพรีเมียมเท่านั้น ซึ่งปัจจุบันราคาพรีเมียมแพงกว่าบี7 อัตรา 3 บาท/ลิตร นั่นก็หมายความว่า จะใช้กลไกการตลาดดึงให้เกิดการใช้บี10 และบี20 มากขึ้น ก็จะดูดซับปาล์มได้มากขึ้น ซึ่งผู้ขายน้ำมันค่ายต่างๆ ก็รอดูว่านโยบายที่ชัดเจนจะออกมาอย่างไร โดยเฉพาะรอประกาศมาตรฐานน้ำมันบี10 ของกรมธุรกิจพลังงาน โดยวันพรุ่งนี้ นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รมว.พลังงาน ก็จะให้ความชัดเจนอีกครั้ง เพราะจะมีการประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน หรือ กบง. และจะแถลงข่าวพร้อมกับค่ายน้ำมัน ปตท. ในการวางแผนจำหน่ายน้ำมันบีต่างๆ โดย รมว.พลังงาน ระบุก่อนหน้านี้ ตามนโยบายข้างต้น จะทำให้ราคา B10 ถูกกว่า B7 ในอัตรา 3 บาท/ลิตร และจะส่งผลให้ราคา B20 ถูกกว่า B7 ถึง 7 บาท/ลิตร และสำหรับในระยะ 3-5 ปีข้างหน้าไทยคาดว่ารูปแบบการใช้เชื้อเพลิงน้ำมันจะเปลี่ยนแปลงไป โดยคาดว่าจะมีการใช้เพียงแก๊สโซฮอล์ E20 และดีเซลB20 เป็นหลัก


และวันนี้กรมสรรพสามิต ได้แถลงข่าว ถึงแนวทางการสนับสนุนการดูดซับปาล์มมาผลิตไบโอดีเซล โดยกำหนดอัตราภาษีที่ชัดเจน ออกประกาศ วานนี้ แบ่งกลุ่ม ออกเป็นภาษี 6 ระดับ สำหรับการผสมไบโอดีเซล บี100 ยิ่งผสมเยอะ ภาษียิ่งถูก ก็จะยิ่งทำให้ราคาน้ำมันประเภทนั้นๆ ลดหลั่นตามอัตราผสม โดยหากเป็นการผสมไม่ถึงร้อยละ 4 อัตราภาษีจะอยู่ที่ 6.440 บาท/ลิตร อัตราการผสมช่วงร้อยละ 7-9 จะเสียภาษี 5.93 บาท/ลิตร อัตราผสมร้อยละ 14-19 จะเสียภาษี 5.480 บาทต่อลิตร และหากผสมสูงไปอีก เป็นร้อยละ 19-24 อัตราภาษีจะเสียที่ 5.153 บาทต่อลิตร เมื่ออัตราภาษีเป็นรูปแบบดังกล่าวอัตราภาษีดีเซลหมุนเร็วประเภทต่างๆ ก็จะขึ้นราว 0.01 บาทต่อลิตร โดยน้ำมันดีเซลหมุนเร็วบี7 อัตราจะอยู่ที่ 5.99 บาทต่อลิตร บี10 มีอัตราภาษี 5.80 บาทต่อลิตร และบี20 จะอยู่ที่  5.153 บาทต่อลิตร ซึ่งอัตราภาษีน้ำมันนั้นถือว่าเป็นภาษีหลักของประเทศ มียอดเป็นอันดับ 1 ดังนั้นหากจะลดภาษีคงยาก โดยเฉพาะภาษีกลุ่มดีเซล ช่วงครึ่งแรกของปีงบประมาณ 2562 กรมสรรพสามิตเก็บภาษีน้ำมันได้ถึง 9.7 หมื่นล้านบาท หากรวมทั้งปีก็จะมียอดเกือบ 2 แสนล้านบาท


ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ เป็นอีกหนึ่ง Mega trends ที่หลายประเทศทั่วโลกกำลังเผชิญ โดยยังมีกลุ่มผู้สูงอายุที่ชอบทำกิจกรรม เข้าสังคมพบปะเพื่อนฝูง ซึ่งเป็นเป้าหมายของธุรกิจต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องในการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการต่างๆ เรานิยมเรียกคนกลุ่มนี้ว่า Silver Age หรือ กลุ่มผู้บริโภควัยเกษียณมั่งคั่ง กลุ่มนี้ ไม่ได้มีแค่เรื่องสุขภาพเพียงอย่างเดียว แต่ยังให้ความสำคัญกับงานอดิเรก การเดินทางท่องเที่ยว การวางแผนทางการเงิน รวมไปถึงเครื่องสำอางและการชะลอวัย พร้อมที่จะจ่ายเงินเพื่อซื้อความสุขให้กับตัวเอง คนเกษียณกลุ่มนี้จึงไม่ใช่ “ภาระ” แต่กลับกลายเป็น “โอกาส” ของธุรกิจใหม่ ๆ ที่จะตามมาอีกมากมายในอนาคต โดยในปี 2564 สังคมไทยจะก้าวเข้าสู่การเป็นสังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์ (Aging Society) คือ การมีผู้สูงอายุมากกว่า 60 ปี จำนวนเท่ากับ หรือ สูงกว่า 20% ของประชากรทั้งหมด

เมื่อมีโอกาสเช่นนี้ อสมท ก็จับมือกับสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ สสว. และเอกชน องค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น หรือ เจโทร กรุงเทพฯ จัดงาน “แคร์ เอ็กซ์โป ไทยแลนด์ 2019” ภายใต้แนวคิด “งานแฟร์ เพื่อคนที่คุณแคร์” ระหว่างวันที่ 29 สิงหาคม – 1 กันยายน ที่ไบเทคบางนา คาดว่าจะมีผู้เข้าชมงานมากกว่า 20,000 คน งานนี้จะรวบรวมนวัตกรรมและเทคโนโลยี อุตสาหกรรมการผลิตสินค้าและบริการของผู้สูงอายุเข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง เพื่อสนับสนุนนโยบายการเป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติและการก้าวเป็นสังคมผู้สูงอายุของไทยอย่างสมบูรณ์ในอีก 4 ปีข้างหน้า โดยตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2562 เป็นต้นไป อสมท จะมีรายการเกี่ยวกับผู้สูงอายุมากขึ้น เพราะเห็นความสำคัญของผู้สูงอายุ และจะเริ่มประชาสัมพันธ์งานนี้อย่างต่อเนื่องตั้งแต่เดือนกรกฎาคมนี้เป็นต้นไป

ในขณะเดียวกัน อสมท ได้ร่วมมือกับ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว). หรือ SME D Bank ส่งเสริมการตลาดให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีคนตัวเล็กและกลุ่มสตาร์ทอัพ ค้าขายสินค้าผ่านทีวีดิจิทัลช่อง9 MCOT HD หมายเลข 30 และแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ  www.smedmarketplace.com  มีการคัดเลือกผู้ประกอบการที่มีสินค้าโดดเด่นมีเอกลักษณ์แปลกใหม่จากทั่วประเทศมาจำหน่าย ซึ่งนอกจากจะขายผ่านเว็บไซต์แล้วยังผ่านแอปพลิเคชัน SME D Bank 

บมจ.อสมท ยังเปิดเผยผลประกอบการไตรมาสแรกปี 62 ดีขึ้น ขาดทุน 32 ล้านบาท ขาดทุนลดลงกว่า 71% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2561 เนื่องจากได้เพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารค่าใช้จ่ายอย่างต่อเนื่อง รายได้รวมของธุรกิจโทรทัศน์ และธุรกิจวิทยุ ยังคงเป็นธุรกิจหลัก และมีแผนที่จะนำเสนอรายการใหม่ๆ ที่เป็นความบันเทิง แต่มีสาระ อาทิ ซีรีส์ฟอร์มยักษ์สามก๊ก, นางพญางูขาว, สารคดีและซีรีส์ยอดนิยมจาก BBC First  ในช่วงปลายไตรมาส 2 อย่างต่อเนื่อง จะมีรายการสำหรับครอบครัวมากขึ้น พร้อมกับโครงการพิเศษ ที่สนับสนุนนโยบายของภาครัฐและโครงการพิเศษของลูกค้าเอกชน ส่วนวิทยุจะมีการพัฒารายการต่อเนื่อง พร้อมให้น้ำหนักกับ Content podcast ของวิทยุ ข่าว และ 9Ent ออนไลน์ ซึ่งกำลังได้รับความนิยมจากกลุ่มผู้บริโภคในปัจจุบัน ทั้งนี้ หลังจากกระบวนการคืนใบอนุญาตช่อง 14 เสร็จสิ้นในเดือนกรกฎาคม 2562 อสมท จะมุ่งพัฒนารายการของช่อง 9 MCOT HD หมายเลข 30 ให้มากขึ้น และเปิดรับพันธมิตรผู้ผลิตรายการ ทั้งในด้าน Content ข่าว, สาระบันเทิง และ Platform ด้านเทคโนโลยีมากขึ้นด้วย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

ฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ส่งสุขรับปีใหม่

ส่งความสุขรับปีใหม่ กับฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ศิลปินลูกทุ่งเกือบ 100 ชีวิต ร่วมโชว์จัดเต็ม

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ “กานต์” ส่อเข้าป้าย

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี “กานต์” หมายเลข 1 จากเพื่อไทย ส่อเข้าป้าย ด้าน ปชน. แถลงยอมรับยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ ส่วนอุตรดิตถ์ “ชัยศิริ” อดีตนายก อบจ. ส่อเข้าวิน

เด้ง ตร.จราจร ปมคลิปรับเงินแลกไม่เขียนใบสั่ง

ผบก.ภ.จว.นนทบุรี สั่งย้าย “รอง สว.จร.สภ.รัตนาธิเบศร์” เซ่นคลิปรับเงินแลกไม่ออกใบสั่ง พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงภายใน 3 วัน ด้านเจ้าตัวอ้างไม่เห็นเงินที่วางบนโต๊ะในตู้ควบคุมสัญญาณไฟจราจร