กทม. 11 พ.ค.-หนุ่มวัย 18 ถูกมีดปาดคอเสียชีวิตใกล้ซอยนาคนิวาส 5 หลังมีเรื่องทะเลาะวิวาทกับชายวัย 30 ปี ตำรวจตามรวบตัวคนร้ายได้บริเวณถนนกลางซอยนาคนิวาส 21
เมื่อเวลา 01.00 น.ที่ผ่านมา ร.ต.อ.ศรายุทธ เกิดทอง รอง สว.(สอบสวน) สน.โชคชัย รับแจ้งเหตุมีผู้ถูกอาวุธมีดปาดคอเสียชีวิต ริมถนนนาคนิวาส ใกล้ซอยนาคนิวาส 5 แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.ท.กันตภณ โพธิ์อ๊ะ รอง ผกก.สส.สน.โชคชัย พ.ต.ท.อภิโชค ขนบดี สว.สส. เจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
ที่เกิดเหตุบริเวณกลางถนน พบศพนายวิศรุต บุญจริก อายุ 18 ปี สภาพสวมเสื้อเชิ้ตสีขาว กางเกงขาสั้นสีดำ ตรวจสอบตามร่างกายพบมีบาดแผลฉกรรจ์ที่ลำคอ นอนหงายจมกองเลือดเสียชีวิต ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นพีซีเอ็กซ์ สีดำ หมายเลขทะเบียน 8กจ8654 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่ โดยมีคราบเลือดเปื้อนรถ มีนายยูโร (นามสมมติ) อายุ 14 ปี คนขับรถจักรยานยนต์เพื่อนรุ่นน้องผู้ตาย ยืนรอพบเจ้าหน้าที่
จากการสอบสวนนายยูโรให้การว่า ก่อนเกิดเหตุนายวิศรุตได้นั่งเล่นกับกลุ่มเพื่อนที่ปากซอยนาคนิวาส 37 ก่อนบอกเพื่อนๆ ว่าจะออกไปเอาเงินที่ร้านลาบปาเกียว ซึ่งเป็นร้านที่นายวิศรุตเคยเป็นลูกจ้างทำงานอยู่ในซอยนาคนิวาส 21 เมื่อมาถึงร้านพบชายคนขายลอตเตอรี่ ซึ่งมีอาการมึนเมา นั่งดื่มเบียร์อยู่ที่ร้าน ชายคนดังกล่าวได้เดินเข้ามาพูดคุยหาเรื่องและเดินออกจากร้านไป จากนั้นตนและนายวิศรุตจึงขี่รถจักรยานยนต์ตามออกไปจนถึงบริเวณป้ายรถเมล์ใกล้ปากซอยนาคนิวาส 21 ก็พบชายคนขายลอตเตอรี่ จึงเกิดทะเลาะวิวาทกัน ก่อนที่นายวิศรุตจะถูกอาวุธมีดปาดที่ลำคอเลือดพุ่งได้รับบาดเจ็บ จึงรีบนำตัวซ้อนรถจักรยานยนต์เพื่อไปส่งโรงพยาบาลเปาโล โชคชัย แต่ระหว่างทางนายวิศรุตหมดสติและร่วงตกจากรถจักรยานยนต์เสียชีวิตดังกล่าว
หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.โชคชัย ได้ออกติดตามหาตัวคนร้ายที่หลบหนี กระทั่งพบคนร้ายนั่งอยู่ข้างถนนกลางซอยนาคนิวาส 21 ทราบชื่อคือ นายสุรศักดิ์ จุลเพ็ชร อายุ 30 ปี ชาวจังหวัดเลย ซึ่งมีอาชีพขายล็อตเตอรี่ โดยนั่งลักษณะขัดสมาธิ พนมมือ และท่องคาถาบางอย่าง โดยให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุจริง และไม่คิดว่านายวิศรุตจะถึงตาย เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวมาสอบสวนที่ สน.โชคชัย
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างสอบปากคำอย่างละเอียด เพื่อสรุปสาเหตุครั้งนี้ ก่อนจะแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาโดยใช้อาวุธมีด และนำตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.-สำนักข่าวไทย