อดีต สจ.เมากร่าง ทะเลาะสาวคนสนิท พาลกระชากเด็ก 4 ขวบ เหวี่ยงหัวกระแทกพื้น

สิงห์บุรี 27 ก.ย. – อดีต สจ.เมากร่าง ทะเลาะสาวคนสนิท พาลหาเรื่องโต๊ะที่มากินข้าวข้างๆ กระชากเด็ก 4 ขวบ เหวี่ยงหัวกระแทกพื้น ครอบครัวยืนยันเอาเรื่องให้ถึงที่สุด


ภาพวงจรปิดร้านอาหารแห่งหนึ่งในตัวเมืองสิงห์บุรี โดยในคลิปเกิดขึ้นเมื่อคืนวันที่ 23 กันยายนที่ผ่านมา เวลาประมาณ 22.20 น. จะเห็นผู้หญิงรูปร่างท้วม ผมสั้น เดินมาพูดคุยกับโต๊ะผู้เสียหาย ก่อนจะทำทีเดินออกไปนอกร้าน แต่เดินไปคว้าขวดน้ำเพื่อจะทำร้าย แต่พ่อเด็กสังเกตทัน ก่อนพ่อเด็กจะคว้าขวดออกจากมือหญิงคนดังกล่าว แต่หญิงคนดังกล่าวกลับไม่หยุด วิ่งไปคว้าหัวลูกชายของผู้เสียหาย ก่อนเหวี่ยงกระแทกพื้น จนพ่อเด็กโมโห้รัวหมัดใส่ไม่ยั้ง

ทีมข่าวเดินทางไปที่บ้านของผู้เสียหายพบกับ น.ส.ปวิตรา หรือ โฟม อายุ 23 ปี เป็นแม่เด็กในคลิป เล่าว่า วันที่เกิดเหตุสามีของตนไปกินข้าวที่ร้านอาหารดังกล่าวเป็นประจำกับครอบครัว โดยลูกชายคนโตเป็นเด็กพัฒนาการด้านสมองช้ากว่าเด็กวัยเดียวกัน สามีเป็นคนที่รักครอบครัวมาก นั่งกินข้าวไปได้สักพักได้ยินเสียงคนทะเลาะกันเสียงดังจึงหันไปดู ซึ่งเป็นจังหวะที่ผู้ก่อเหตุหันมาเห็นพอดีและตะโกนถามตนว่า “มองหน้าทำไม” ตนเลยยกมือไหว้ขอโทษและบอกว่า “ไม่ได้ตั้งใจ” และพนักงานเลยพูดห้ามว่า “ไม่เอานะ สจ. หนูขอ” ซึ่งตนไม่รู้ว่าเขาเป็น สจ.ที่ไหน สักพักมีพี่ผู้หญิงเสื้อสีเหลืองบอกว่า “ขอโทษด้วยนะ พี่เขาเมา” พอพี่ผู้หญิงเดินกลับไปที่โต๊ะสักพัก ผู้ก่อนเหตุก็เดินมาหลังสามีตนบ่นใส่ และหยิบขวดจะมาตีสามีของตน จึงเกิดการชุลมุนขึ้น ก่อนผู้ก่อเหตุจะวิ่งไปดึงลูกชายคนโต ทำให้สามีเกิดโมโหจึงทำร้ายตามคลิป


จากนั้นจึงพากันไปแจ้งความไว้ และพาลูกๆ กลับบ้าน พอจะเข้านอนลูกบอกว่า “ปวดหัวๆ นอนไม่หลับ” ตนเลยพาลูกไปโรงพยาบาล แพทย์บอกเพียงว่าให้กลับไปดูอาการที่บ้านก่อน ตอนนี้ลูกยังมีอาการผวา ชอบพูดย้ำไปมาว่า “พี่เขาทำหนูทำไม” ตอนนี้อยากให้ตำรวจเร่งดำเนินคดี ตนยืนยันจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด

ด้านคดี ผกก.สภ.เมืองสิงห์บุรี เปิดเผยว่า ตอนนี้ได้รับเรื่องร้องทุกข์จากผู้เสียหายแล้ว ตั้งแต่คืนวันที่ 23 กันยายนที่ผ่านมา เบื้องต้นส่งตัวเด็กไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลสิงห์บุรี ส่วนของคดีได้ให้พนักงานสอบสวนในพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดและดำเนินการตรวจสอบรายละเอียดของคดี ตลอดจนผู้เกี่ยวข้อง ให้เป็นพยานที่เห็นเหตุการณ์ในที่เกิดเหตุ เพื่อให้พนักงานสอบสวนสอบสวนปากคำและรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดต่อไป.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“โรม” ตั้งกระทู้ถามปมคุณสมบัติ ปธ.กสทช.

“โรม” ตั้งกระทู้ถาม ปม คุณสมบัติ ปธ.กสทช. ปูดคนรัฐบาลมีความสัมพันธ์กับ กสทช. เรื่องจึงไม่ขยับ ด้าน “ประเสริฐ” ปัดดองเรื่อง ขณะนี้ยื่นศาลรธน.ตีความแล้ว รอคำวินิจฉัย ยืนยันรัฐบาลแยกแยะเรื่องส่วนตัวจากการทำงาน ยึดประโยชน์ประชาชน

“อนุทิน” สั่งยกระดับเข้มงวดเข้าออกจุดผ่านแดนไทย

“อนุทิน” สั่งยกระดับความเข้มงวดในการเข้าออกจุดผ่านแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน ป้องกัน ปราบปราม ยาเสพติด อาชญากรรมทุกประเภท ภายใต้ปฏิบัติการ “Seal Stop Safe” ตามนโยบายนายกรัฐมนตรี

จับเว็บพนัน

ทลายเครือข่ายเว็บพนัน 2 จุด กลางกรุง มีนักแสดงตัวประกอบเอี่ยวด้วย

ตำรวจไซเบอร์ ทลายเครือข่ายเว็บพนัน 2 จุด กลางกรุง พบเงินหมุนเวียนเดือนละ 100 ล้าน มีนักแสดงตัวประกอบร่วมขบวนการ

เปิดใจผู้รอดชีวิตจากรถบัสมรณะ 18 ศพ

โศกนาฏกรรมรถบัสมรณะ 18 ศพ สร้างความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ให้กับชาว อ.พรเจริญ จ.บึงกาฬ วันนี้ทีมข่าวสำนักข่าวได้สัมภาษณ์เปิดใจผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้ราวกับปาฏิหาริย์

ข่าวแนะนำ

นายกฯ พบผู้บริหารบริษัท DKSH ณ นครซูริก ก่อนบินต่อเบอร์ลิน

นายกฯ หารือภาคเอกชน พบผู้บริหารบริษัท DKSH ณ นครซูริก ก่อนบินต่อเบอร์ลิน เยอรมนี พูดคุยข้อจำกัดการขออนุญาตจำหน่ายยาและเวชภัณฑ์พัฒนาการรักษาโรคในไทย สานต่องานอดีตนายกฯ เศรษฐา พร้อมขอให้เป็นตัวกลางส่งออกสินค้าเกษตรไทยไปต่างประเทศ

ตร.ไซเบอร์บุกค้น 9 จุด รวบรอบ 2 “มินนี่” เจ้าแม่เว็บพนัน

ตำรวจ บช.สอท. นำกำลังพร้อมหมายค้น ปูพรม 9 จุด ทั้งในกรุงเทพฯ จังหวัดเลย และจังหวัดใกล้เคียง จับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายพนันออนไลน์ “มินนี่” กว่า 30 หมายจับ

ทุจริตยาโรงพยาบาล

ปปป.เตรียมระดมพลร่วมทำคดีทุจริตยา รพ.ทหารผ่านศึก

ปปป.เตรียมระดมพนักงานสอบสวนในกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ร่วมทำคดีทุจริตยาและเวชภัณฑ์โรงพยาบาลทหารผ่านศึก พร้อมเตรียมลงพื้นที่ลพบุรี สอบผู้ป่วยกว่า 100 คน ว่าใช่ผู้ป่วยที่แท้จริง มีความจำเป็นต้องใช้ยาหรือไม่ ในเร็ว ๆ นี้

ตร.ไซเบอร์เร่งสอบปากคำ 93 ผู้ต้องหาขบวนการคอลเซ็นเตอร์

ตำรวจไซเบอร์อยู่ระหว่างสอบปากคำ 93 ผู้ต้องหาขบวนการคอลเซ็นเตอร์ พฤติการณ์เชื่อมโยง 46 คดี ที่มีผู้เสียหายแจ้งความในไทย พบข้อมูลผู้ต้องหาบางรายโพสต์โซเชียลหางานสีเทาเอง ส่วนเยาวชน 2 ราย อยู่ระหว่างรวบรวมออกหมายจับ หลังพบสมัครใจร่วมองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ