รวบแล้ว 5 แก๊งปล่อยเงินกู้นอกระบบสาเหตุฆ่ายกครัว

กรุงเทพฯ 30 เม.ย.-คดีฆ่าภรรยาและลูกย่านมีนบุรีเมื่อ 25 เม.ย. หนีปัญหาหนี้นอกระบบ ล่าสุด ตำรวจตามจับกลุ่มคนที่เข้าไปทวงหนี้ได้แล้ว 5 คน เหลืออีก 1 คน กำลังเร่งตามตัวมาดำเนินคดี


พ.ต.อ.ชาญวิทย์  พุ่มโพธิ์ รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 3 เปิดเผยความคืบหน้าคดีติดตามผู้ปล่อยเงินกู้นอกระบบให้นายณัฐศักดิ์ ผู้ต้องหาก่อเหตุฆาตกรรมภรรยาและลูกเสียชีวิตย่านมีนบุรี เมื่อ 25 เมษายนที่ผ่านมา ขณะนี้ตัวผู้ก่อเหตุฆ่าภรรยาและลูกยังอยู่ในความดูแลของโรงพยาบาล แพทย์จะเป็นผู้ประเมินอาการว่าสามารถย้ายตัวไปรักษาต่อในโรงพยาบาลราชทัณฑ์ได้หรือไม่ เบื้องต้นยังไม่ได้สอบปากคำละเอียดครบถ้วน แต่ยืนยันกลุ่มคนที่เข้าไปทวงหนี้มี 6 คน ซึ่งออกหมายจับทั้งหมดแล้ว ล่าสุดจับกุมได้แล้ว 5 คน ส่งฝากขังต่อศาลไปเรียบร้อย เหลืออีก 1 คน ที่กำลังเร่งตามตัวมาดำเนินคดี  ซึ่งทั้ง 6 คน ถูกหมายจับในคดีปล่อยเงินกู้ในอัตราดอกเบี้ยเกินที่กฎหมายกำหนด และบางคนถูกแจ้งข้อหาฉ้อโกงประชาชนด้วย เนื่องจากมีพฤติการณ์ปล่อยเงินกู้ในอัตราดอกเบี้ยเกินกว่าที่ประกาศไว้กับผู้กู้ ทำให้ผู้กู้ต้องจ่ายดอกเบี้ยสูงกว่าร้อยละ 20 บางรายดอกเบี้ยสูงถึงร้อยละ 30

พ.ต.อ.ชาญวิทย์ ระบุว่า การสอบปากคำผู้ต้องหาทั้ง 5 คน ยังไม่ครบถ้วน มีบางคนที่สารภาพซัดทอดถึงนายทุนเงินตัวจริงแล้ว ตำรวจกำลังสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อเข้าถึงตัวนายทุนให้ได้ เบื้องต้นตัวนายทุนไม่ได้อยู่ในพื้นที่นครบาล 3 แต่กลุ่มลูกหนี้ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่มีนบุรี ลำลูกกา และฉะเชิงเทรา ส่วนผู้ที่ให้การอ้างว่าเป็นเจ้าของเงินเอง ไม่มีนายทุน ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ เพราะตรวจสอบเส้นทางการเงินยังน่าสงสัยว่ามีนายทุนอยู่เบื้องหลัง แหล่งกู้ยืมเงินของนายณัฐศักดิ์ ที่ก่อเหตุฆ่า 3 ศพ พบว่าไม่ได้รู้จักกับผู้ปล่อยเงินกู้เป็นการส่วนตัว แต่ได้เบอร์โทรจากแผ่นใบปลิวที่ติดตามเสาไฟฟ้า ป้ายรถโดยสาร และจากประกาศในเฟซบุ๊ก เมื่อกู้ยืมมาแล้วไม่สามารถหาดอกเบี้ยจ่ายให้เจ้าหนี้ได้ทันกำหนดนัด จึงไปกู้เงินเจ้าอื่นมาใช้ดอกเบี้ยเจ้าเก่า ทำให้มีเจ้าหนี้ถึง 8 ราย รวมแล้วเป็นเงินต้นนับแสนบาท และต้องจ่ายดอกเบี้ยวันละหลายพันบาทนั่นเอง.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญถกคำร้อง “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างฯ

จับตา ศาลรัฐธรรมนูญ “รับ/ไม่รับ” คำร้องปม “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองหรือไม่

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น