ภูเก็ต 19 เม.ย.- สำนักข่าวไทย เกาะติดเบาะแสกลุ่ม Seasteading และกลุ่มทุนที่สร้างบ้านลอยน้ำกลางทะเลไทย โดยวันนี้เจ้าหน้าที่เตรียมเคลื่อนย้ายบ้านลอยน้ำขึ้นฝั่ง เพื่อขอศาลออกหมายจับโยงกลุ่มทุนที่เกี่ยวข้องกับกลุ่ม Seasteading ติดตามความคืบหน้าเป็นตอนที่ 3
ภาพความสวยงามยามพระอาทิตย์ใกล้ลับขอบฟ้า และการใช้ชีวิตอิสระท่ามกลางธรรมชาติแห่งท้องทะเลกว้าง นับเป็นจุดขายของ Seasteading หรือบ้านลอยน้ำแบบถาวร ที่ถูกสร้างขึ้นในอาณาเขตทางทะเลของไทย ห่างจากเกาะราชาใหญ่ภูเก็ต 14 ไมล์ทะเล โดยมีนาย Chad Andrew Elwartowski ชาวอเมริกัน กับภรรยาชาวไทย สุปราณี เทพเดช โฆษณาชักชวนให้ผู้สนใจร่วมจับจองบ้านลอยน้ำ ซึ่งทั้งคู่เตรียมสร้างขายเพิ่มอีก 20 หลัง ในราคาหลังละ 150,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยเกือบ 5 ล้านบาท และกล่างอ้างเป็นพื้นที่น่านน้ำสากล
วิวพันล้านที่ทั้งคู่โฆษณา ภายใต้แนวคิดการตั้งชุมชนแบบรัฐอิสระที่ไม่อยู่ภายใต้กฎหมายและการปกครองของรัฐใด ทำให้มีชาวต่างชาติที่ต้องการใช้ชีวิตแบบอิสรเสรี จำนวน 14 ราย เกิดความสนใจอยากซื้อ แต่ถูกทางการไทยตรวจสอบพบ และแจ้งความดำเนินคดีกับทั้งคู่ด้วยกฎหมายอาญามาตรา 119 ฐานเป็นภัยกับความมั่นคงของรัฐ โดยรองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตระบุว่า กรณียังอาจเข้าข่ายความผิดฐานฉ้อโกง หลอกลวง เนื่องจากพื้นที่ก่อสร้างอยู่ในอาณาเขตทางทะเลของไทยที่ข้อเท็จจริงไม่สามารถสร้างสิ่งปลูกสร้างใดๆ ได้
หลังทางการไทยตรวจสอบพบ Seasteading หรือบ้านลอยน้ำในอาณาเขตทางทะเลของไทยใกล้เกาะราชาใหญ่ ก็ได้เข้าตรวจสอบภายใน แต่ไม่พบคนทั้งสอง การตรวจสอบภายใน Seasteading ของเจ้าหน้าที่ ศรชล.เขต 3 พบว่าภายในยังมีข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ แต่ไม่พบเจ้าของบ้านทั้งสอง มีเพียงร่องรอยการปรุงอาหาร ที่ทำให้เชื่อว่าทั้งคู่หนีออกไปก่อนเจ้าหน้าที่ไปถึงไม่นาน
นายบีบี ผู้รับจ้างก่อสร้างบ้านทรงแปดเหลี่ยมลอยน้ำ ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวไทยว่า ได้รับเงินค่าจ้างก่อสร้างบ้านเป็นเงินสดรวมกันราว 400,000 บาท โดยตนเองก่อสร้างไปตามแบบที่ผู้ว่าจ้างมอบหมาย ภายในบ้านมีห้องต่างๆ เหมือนกับบ้านทั่วไป แต่ยืนยันว่าไม่เคยทราบมาก่อน ว่าบ้านที่สร้างจะถูกนำไปติดตั้งที่ใด กระทั่งมาทราบภายหลังเมื่อสร้างเสร็จเตรียมเคลื่อนย้าย ว่าผู้ว่าจ้างจะนำไปติดตั้งในทะเล ซึ่งตนได้ทักท้วงแล้วว่าไม่สามารถทำได้
ล่าสุด แม้ ตม.จะมีการเพิกถอนวีซ่าไปแล้ว แต่นาย Chad Andrew Elwartowski เชื้อชาติเฟรนช์โปลินีเซีย สัญชาติอเมริกัน และนางสุปราณี เทพเดช ภรรยาชาวไทย ยังคงหลบหนีการติดตามตัวของเจ้าหน้าที่ พร้อมกับพยายามเคลื่อนไหวเรียกร้องขอให้สถานทูตอเมริกาช่วยเหลือ อ้างถูกทางการไทยรังแก และไม่ได้กระทำความผิด
อย่างไรก็ตาม ผลจากการประชุมร่วมกันของจังหวัดภูเก็ต เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน และ ศรชล.เขต 3 ยืนยันว่าจะต้องดำเนินคดีทางกฎหมายกับบุคคลทั้งสองต่อไป เนื่องจากทำผิดกฏหมายของประเทศไทย และอาจเป็นภัยกับความมั่นคงของชาติในระยะยาว โดยคาดว่าจะขอศาลอนุมัติออกหมายจับได้ภายในสัปดาห์หน้า
มีรายงานว่า วันนี้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบบ้านลอยน้ำกลางทะเล พบว่าตัวบ้านผูกติดอยู่บนเสาแบบหละหลวม และมีความเสี่ยงมากที่จะล่มลงทะเล รวมถึงด้านบนดาดฟ้าบ้านยังไม่มีสัญญาณไฟใดๆ ที่เป็นสัญลักษณ์ อันตรายต่อผู้ที่เดินเรือเวลากลางคืน จึงเตรียมเคลื่อนย้ายบ้านลอยน้ำกลับเข้าฝั่งในเร็ววันนี้.-สำนักข่าวไทย