เดินทางสงกรานต์คึกคัก ยอดใช้น้ำมัน 100 ล้านลิตร/วัน

16 เม.ย.-เดินทางสงกรานต์คึกคัก ยอดใช้น้ำมันเฉลี่ยต่อวันสูงถึง 100 ล้านลิตร คนเดินทางขนส่งสาธารณะไม่ต่ำกว่า 5 ล้านคน



ผลพวงจากการเดินทางช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา มีข้อมูลจากนางสาวนันธิกา ทังสุพานิช อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน ว่าการใช้น้ำมันเพิ่มขึ้นกว่าช่วงปกติประมาณร้อยละ 4-5 และส่งผลให้ยอดการใช้น้ำมันเฉลี่ยเพิ่มขึ้นสร้างสถิติสูงสุด โดยกลุ่มเบนซินมียอดใช้ประมาณ 32 ล้านลิตรต่อวัน กลุ่มดีเซลประมาณ 68 ล้านลิตรต่อวัน ซึ่งเป็นผลมาจากการเดินทางกลับภูมิลำเนาและการเดินทางท่องเที่ยว 


อย่างไรก็ตาม ช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา ที่มีการใช้น้ำมันกันจำนวนมากก็เป็นข่าวดี เพราะผู้ค้าน้ำมันได้ประกาศตรึงราคาน้ำมันเพื่อให้ผู้ที่เดินทางมีความสุขกับการเดินทางท่องเที่ยวและเล่นสงกรานต์ และเป็นโชคดีอีกอย่างหนึ่ง คือ ช่วงสงกรานต์ ราคาน้ำมันในตลาดสิงคโปร์ มีการปรับขึ้น-ลงไม่มากนัก และล่าสุดราคาปิดเมื่อวานนี้ (15 เม.ย.62) ลดลงมาด้วย ซึ่งจะเป็นผลดีต่อราคาขายปลีกในประเทศไทย เนื่องจากเป็นราคาที่ผู้ค้าน้ำมันในไทยใช้ในการอ้างอิง

สำหรับผู้ที่ไม่ได้ใช้รถยนต์ส่วนตัวในการเดินทางและต้องพึ่งพารถโดยสารสาธารณะ เมื่อวานและวันนี้ คาดว่าน่าจะเป็นวันที่มีการเดินทางด้วยรถโดยสารมากที่สุดในการเดินทางกลับจากต่างจังหวัดเข้าสู่กรุงเทพฯ ซึ่งนายจิรศักดิ์ เยาว์วัชสกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด หรือ บขส. บอกว่า เมื่อวานนี้ (15 เม.ย.) มีประชาชนเดินทางเข้ากรุงเทพฯ กว่า 131,000 คน โดย บขส.ได้จัดเที่ยววิ่งเกือบ 7,000 เที่ยวให้บริการแก่ประชาชน ส่วนวันนี้ (16 เม.ย.) ประมาณการว่าจะมีประชาชนเดินทางกลับเข้ากรุงเทพฯ กว่า 164,000 คน มากกว่าเมื่อวานนี้ ทำให้ บขส.ได้จัดเที่ยวรถเพิ่มเป็นกว่า 8,100 เที่ยว มีทั้งรถ บขส.เอง รถร่วมและรถตู้โดยสาร


อีกช่องทางการเดินทางอย่างรถไฟ การรถไฟแห่งประเทศไทย บอกว่า เมื่อวานนี้ (15 เม.ย. )มีผู้โดยสารเดินทางด้วยรถไฟเข้ากรุงเทพฯ ประมาณ 123,000 คน และคาดว่าวันนี้ (16 เม.ย.) จะมีผู้โดยสารเดินทางด้วยรถไฟประมาณ 112,000 คน และการรถไฟฯ ได้จัดขบวนรถพิเศษเข้ากรุงเทพฯ 4 ขบวน รองรับผู้โดยสารให้มากขึ้น

ที่คึกคักไม่แพ้กัน การเดินทางอีกประเภทหนึ่งคือ เครื่องบิน เพราะช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2562 ทั้งเดินทางในประเทศและต่างชาติเข้ามาเที่ยวสงกรานต์และคนไทยออกไปเที่ยวต่างประเทศช่วงวันหยุดยาว โดยเฉพาะ 2 สนามบินที่มีคนเดินทางจำนวนมาก อย่างสนามบินสุวรรณภูมิและดอนเมือง โดยช่วง 9 -18 เมษายน เฉพาะที่สนามบินสุวรรณภูมิ มีการประเมินว่า มีผู้โดยสารใช้บริการรวมกันกว่า 1.89 ล้านคน หรือ เฉลี่ยวันละ 189,000 คน ส่วนใหญ่เป็นการเดินทางระหว่างประเทศกว่า 1.57 ล้านคน และเดินทางภายในประเทศประมาณ 319,000 คน หากเปรียบเทียบกับช่วงสงกรานต์ของปีที่แล้ว พบว่าจำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 3 ส่วนที่สนามบินดอนเมือง  ช่วงวันที่ 11-17 เมษายน มีผู้โดยสารใช้บริการเฉลี่ยวันละประมาณ 138,000 คน รวมทั้งหมดเกือบ 1 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ18 ซึ่งที่ดอนเมืองจะเป็นการเดินทางภายในประเทศ เป็นส่วนใหญ่ประมาณ 500,000 คน และเดินทางระหว่างประเทศ ประมาณ 459,000 คน

ภาพรวมการเดินทางในช่วงสงกรานต์ 2562 หากเป็นรถโดยสารสาธารณะในความรับผิดชอบของ บขส. ประมาณ 1.3 ล้านคน เดินทางด้วยรถไฟประมาณ 9 แสนคน เดินทางด้วยเครื่องบิน ผ่านสนามบินสุวรรณภูมิประมาณ 1.89 ล้านคน และสนามบินดอนเมืองประมาณ 9.6 แสนคน

ททท.ระบุว่า ช่วงเทศกาลสงกรานต์ นักท่องเที่ยวชาวไทยมีการเดินทางท่องเที่ยวไม่ต่ำกว่า 3 ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 3 สร้างรายได้จากการท่องเที่ยวไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 5 ส่วนนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาเฉพาะช่วงเทศกาลสงกรานต์ไม่ต่ำกว่า 500,000 คน เพิ่มขึ้นร้อยละ 8 สร้างรายได้จากการท่องเที่ยวไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 14 ส่วนใหญ่เป็นการเดินทางเข้ามาของกลุ่มอาเซียน จีน ไต้หวัน อินเดีย ฮ่องกง เกาหลีและญี่ปุ่น

บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า การเดินทางท่องเที่ยวในประเทศของนักท่องเที่ยวไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2562 สร้างรายได้สู่ภาคธุรกิจท่องเที่ยวและเกี่ยวเนื่องประมาณ 28,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.2 แบ่งเป็นไทยเที่ยวไทย 12,200 ล้านบาท และต่างชาติเที่ยวไทย 15,800 ล้านบาท เงินสะพัดช่วงแต่ละเทศกาลก็เป็นเรื่องที่ดีในการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเฉพาะเศรษฐกิจในภูมิภาค แต่ถ้าทำให้เกิดการหมุนเวียนการใช้จ่ายอย่างต่อเนื่องได้ตลอดทั้งปี ก็จะน่าจะเป็นเรื่องที่ชาวบ้าน โดยเฉพาะในต่างจังหวัดอยากให้เกิดขึ้นไม่เฉพาะช่วงเทศกาลอย่างสงกรานต์เท่านั้น.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 4 แสน

18 ก.ค. – เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 400,000 บาท อ้างป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัด และแลกหลักฐานกรณีอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร มีความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จ.พิจิตร หลงกลเล่ห์เหลี่ยมของสีกากอล์ฟ โดยเมื่อปี 2559 อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร ส่งข้อความไปหาสีกากอล์ฟ ว่ามีเรื่องสำคัญของบ้านเมืองจะปรึกษา และหว่านล้อมว่าสีกากอล์ฟเป็นบุคคลสำคัญยิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองส่วนหนึ่งใน จ.พิจิตร ไปในทิศทางที่ดีขึ้น หากให้ความร่วมมือจะมีผู้ใหญ่ใจดีที่พร้อมจะดูแลสีกากอล์ฟและลูก แล้วทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้ติดต่อกลับ จากนั้นสีกากอล์ฟตอบกลับข้อความ ทำให้อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร เปิดเผยเป้าหมายทันทีว่าต้องการดำเนินการกับพระราชสิทธิเวที ในขณะนั้น (อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร และอดีตเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง จ.พิจิตร ที่เพิ่งสึกไป) ซึ่งมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริต เสพเมถุน และประพฤติตนไม่เหมาะสม อาจเชื่อมโยงมาถึงสีกากอล์ฟ พร้อมเสนอเงิน 1 ล้านบาท แต่สีกากอล์ฟชวนอดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร คุยเรื่องทั่วไป โดยเฉพาะอ้างว่ามีอาการป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัดประมาณ 400,000 บาท […]

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด

อุบลราชธานี 17 ก.ค.-แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารได้รับบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด ซึ่งอาการโดยรวมดีขึ้น ที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ มณฑลทหารบกที่ 22 อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เข้าเยี่ยมให้กำลังใจกับทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ที่ได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิดทั้ง 3 นาย ซึ่งมีอาการโดยรวมดีขึ้น สำหรับทหารที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 นายประกอบด้วย ส.อ.ปฏิพัทธ์ ศรีลาศักดิ์ มีบาดแผลฟกซ้ำบริเวณหน้าอกจากการถูกแรงอัดระเบิด ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้า แต่ปัจจุบันดีขึ้น พลทหารณัฐวุฒิ ศรีเข้ม มีบาดแผลฟกซ้ำที่หน้าอกจากการอัดของระเบิด แน่นหน้าอก แต่ช่วยเหลือตัวเองได้ พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน ต้องตัดขาซ้ายใต้เข่าจากแรงระเบิด มีอาการปวดแผล แต่กินอาหารได้ตามปกติ หลังเยี่ยมพูดคุยให้กำลังใจ แม่ทัพก็เดินทางกลับไป เพื่อไปติดตามสถานการณ์ชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ต่อไป.-711.-สำนักข่าวไทย

จนท. เข้าพบพระพรหมบัณฑิต ขอตรวจสอบบัญชีเงินวัดประยูรฯ

กทม. 17 ก.ค. – ตำรวจ ปปป. ป.ป.ท. และเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ บุกวัดประยุรวงศาวาส เข้าตรวจสอบบัญชีเงินวัด เบื้องต้น  ยืนยันไม่ใช่การบุกค้นกุฏิ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาส พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.), พ.ต.อ.สถาปนา จุณณวัตต์ ผู้กำกับการกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธแห่งชาติแห่งชาติ เดินทางเข้าพบพระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เพื่อพูดคุยและขอข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารการเงินภายในวัด หลังอดีตเจ้าคุณประสิทธิ์ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาส เข้าไปพัวพันกับสีกากอล์ฟ และตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคำให้การของพยาน ที่พบเงินถูกพับในลักษณะถูกนำออกมาจากตู้บริจาคในบ้านของสีกากอล์ฟ ซึ่งการตรวจสอบในวันนี้จะเน้นเรื่องเส้นทางการเงินของวัดทั้งหมด ที่ต้องสงสัยว่าอาจมีบางส่วนถูกยักยอก หลังการตรวจสอบ ผู้กำกับการ 6 บก.ปปป. กล่าวว่า ไม่สามารถที่จะเปิดเผยข้อมูลได้ ผู้บังคับบัญชาจะเป็นผู้ชี้แจง หลังจากนี้จะนำข้อมูลต่างๆ กลับไปเรียนให้ผู้บังคับบัญชาได้ทราบ แต่ยืนยันว่า วันนี้เป็นเพียงแค่การเข้ามาขอข้อมูลเท่านั้น ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติระบุว่า เป็นเพียงการบูรณาการของหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง และในการตรวจสอบเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหารแต่อย่างใด มีรายงานเพิ่มเติมว่าเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 หน่วยงาน ได้นำกำลังส่วนหนึ่งเข้าไปตรวจสอบที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย หรือ […]

ข่าวแนะนำ

มทภ.2 ยืนยัน ทุ่นระเบิดเป็นของใหม่ เตรียมยื่นเรื่องไปที่ “ยูเอ็น”

19 ก.ค. – แม่ทัพภาคที่ 2 ยืนยันผลตรวจสอบทุ่นระเบิดบริเวณเนิน 481 เป็นของใหม่ พบในเขตประเทศไทย คาดยังมีอีกกว่าร้อยลูกในพื้นที่ วันนี้ ที่กองบัญชาการกองกำลังสุรนารี เมื่อเวลา 15.30 น. พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 นำแถลงผลการตรวจสอบทุ่นระเบิด บริเวณเนิน 481 จ.อุบลราชธานี โดย พันเอกสมโชค จันทาสี ผู้บังคับหน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดด้านมนุษยธรรมที่ 3 ระบุว่า ได้จัดเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบจำนวน 7 นาย โดยจุดแรกที่เจอได้มีการวางจำนวน 3 ทุ่น ลักษณะการวางผิวดิน รัศมีห่างกัน 40 เซนซิเมตร มีใบไม้ปกคลุม ส่วนจุดที่ 2 เจอจำนวน 5 ทุ่น รัศมีการวางกระจัดกระจาย รวมที่พบทั้งหมดจำนวน 8 ลูก ซึ่งจากการกู้ระเบิดทั้ง 8 ลูก ทุ่นระเบิดมีความใหม่ ตัวอักษรชัดเจน เพราะถ้าเป็นของเก่าจะมีวัชพืชปกคลุม […]

“ทักษิณ” ลั่นไม่มีอีกแล้ว ใช้สัมพันธ์ส่วนตัวคุย “ฮุนเซน”

วัดบ้านไร่ 19 ก.ค.-“ทักษิณ” ลั่นไม่มีอีกแล้ว ใช้สัมพันธ์ส่วนตัวคุย “ฮุนเซน” หวั่นโดนอัดเทปซ้ำรอย ชี้หากพิสูจน์ได้ทหารพรานเหยียบทุ่นระเบิดใหม่ต้องประท้วงตามกติกา ซัดหากเล่นนอกบทต้องดำเนินการ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ทหารพรานถูกเหยียบทุ่นระเบิด ที่ช่องบก อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ที่มีกระแสข่าวว่ากว่า 80% จากการตรวจสอบเป็นระเบิดใหม่ว่า ทั้งสองฝ่ายต้องพูดคุยกัน ถ้าไม่คุยกันอยู่อย่างนี้ไม่เป็นผลดี และขณะนี้อยู่ระหว่างการวิเคราะห์ว่าเป็นระเบิดใหม่หรือเก่า ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่า แต่ล่าสุดกระแสข่าวจากภาคสองยืนยันว่ากว่า 80% เป็นระเบิดใหม่ นายทักษิณ กล่าวว่าก็ต้องว่ากันไป ก็ต้องประท้วงตามกติกา และประท้วงเสร็จก็ต้องมาคุยกันทั้งสองฝ่าย ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่า ฝั่งกัมพูชามักเล่นนอกเกมบ่อยๆ เราต้องรับมืออย่างไร นายทักษิณ ระบุว่าก็ว่ากันไปตามสิ่งที่ควรจะเป็น ถ้าเขาทำอะไรที่นอกกติกา เราก็ต้องดำเนินการ เมื่อถามว่าถ้าพิสูจน์ได้แล้วเป็นเรื่องจริง จะร้ององค์กรโลกหรือไม่ เนื่องจากมีสนธิสัญญาออตตาวา ว่าด้วยเรื่องทุ่นระเบิด นายทักษิณ ระบุว่าที่จริงแล้ว เรามีสนธิสัญญาหลายฉบับ แต่ไม่ได้หยิบขึ้นมาใช้ เมื่อถามย้ำว่าหลังจากนี้จะไม่เจรจาโดยใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัวแล้วใช่หรือไม่ นายทักษิณ ยืนยันด้วยเสียงหนักแน่นว่าไม่มีอีกแล้ว เพราะกลัวโดนอัดเทปเหมือนกัน.-313.-สำนักข่าวไทย

ศบ.ทก. เรียกถกด่วนพรุ่งนี้ นำหลักฐานฟ้องยูเอ็น

กทม. 19 ก.ค.-ศบ.ทก.เรียกถกด่วน 20 ก.ค. หารือ กต. นำหลักฐานฟ้องยูเอ็น กัมพูชาละเมิดอนุสัญญาออตตาวา พร้อมส่งทหารช่าง ปูพรมเก็บกู้วัตถุระเบิดช่องบก พื้นที่อธิปไตยไทย 19 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) เตรียมนัด ศบ.ทก.ประชุมในวันที่ 20 ก.ค.นี้ เวลา14.00 น. กำหนดแนวทางการดำเนินการ กรณีกำลังพลจากหน่วยร้อย ร.6021 ปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนรักษาความสงบในพื้นที่ช่องบกและประสบเหตุเหยียบกับระเบิด ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ซึ่งจากหลักฐานพลว่าเป็นการวางกับระเบิดใหม่นั้น เบื้องต้น พล.อ.ณัฐพล ได้สั่งการกองทัพภาคที่2 เก็บข้อมูลหลักฐานทั้งหมด พร้อมให้แถลงข่าว และรายงานผลเป็นลายลักษณ์อักษรมาให้ทราบ เนื่องจากต้องเก็บทุกอย่างเป็นหลักฐาน เพื่อส่งให้กระทรวงการต่างประเทศต่อไป โดยในวันพรุ่งนี้ (20 ก.ค.) จะมีกระทรวงการต่างประเทศเข้ามาร่วมประชุม ศบ.ทก.ด้วย เพื่อมาให้คำแนะนำว่าขั้นตอนต่อไปในการดำเนินการ ควรจะทำอย่างไร ร่วมถึงตรวจสอบข้อมูลหลักฐานของแต่ละฝ่ายว่าตรงกันหรือไม่ เมื่อได้ข้อสรุปแล้วจะแถลงเป็นทางการ ในการประชุม ศบ.ทก. 21 ก.ค.นี้ […]

สำนักพุทธฯ สั่งเข้มทุกวัด เร่งจัดการบัญชีรายรับ-รายจ่าย ยึดตามมติ มส.

19 ก.ค.-สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ออกหนังสือเวียน กำชับไปยังทุกวัดทั่วประเทศ เร่งจัดการบัญชีรายรับ-รายจ่าย ยึดตามมติ มส. สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ออกหนังสือเวียน กำชับไปยังทุกวัดทั่วประเทศ ให้เร่งดำเนินการจัดทำบัญชีเงินฝาก รายรับ-รายจ่าย และงบดุลของวัด ให้ถูกต้องและเป็นระบบ ตามมติมหาเถรสมาคม ที่มีผลบังคับใช้แล้ว โดยการเปิดบัญชีและการเบิกถอนเงินฝากธนาคารของวัด จะต้องเปิดกับธนาคารที่มีสำนักงานตั้งอยู่ในเขตจังหวัดเดียวกับวัด และระบุชื่อบัญชีเงินฝากเป็นชื่อวัดเท่านั้น โดยมีรายชื่อผู้มีอำนาจถอนเงินอย่างน้อย 3 คน ซึ่งในการถอนเงินต้องมีผู้ลงนามจำนวน 2 ใน 3 และมีเจ้าอาวาสลงนามด้วยทุกครั้ง โดยใช้ใบถอนเงินของธนาคารและสมุดบัญชีเท่านั้น ในส่วนของบัญชีรายรับ-รายจ่าย ให้รายงานบัญชีของวัดทุกบัญชี สรุปเป็นรายเดือน จำนวน 12 เดือน ส่งสำนักงานพระพุทธศาสนาฯ ภายในวันที่ 20 มกราคมของปีถัดไป โดยสำเนาเอกสารไว้ที่วัดด้วยทุกฉบับ นอกจากนี้ทุกวัดควรพิจารณาใช้ระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ (e-Donation) ร่วมด้วย เพื่อแสดงข้อมูลบริจาคที่ครบถ้วน และให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ ติดตามอย่างเคร่งครัด โดยสำนักพระพุทธศาสนาฯ จะกำกับดูแล หรือประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการตรวจสอบบัญชี และรายงานการตรวจสอบให้มหาเถรสมาคมทราบ.-สำนักข่าวไทย