รัฐสภา 25 ส.ค.- กรรมการ ป.ป.ช. ย้ำ พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต อดีต รมว.กลาโหม แทรกแซงการทำงานของคณะกรรมการปลัดกระทรวงกลาโหม ในการแต่งตั้งข้าราชการระดับสูง ทั้งที่การแต่งตั้ง ต้องผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการปลัดกระทรวงกลาโหมก่อน “พล.อ.อ.สุกำพล” ยืนยัน การพิจารณาแต่งตั้ง ขึ้นตรงต่อ รมว.กลาโหม และเป็นไปตามข้อบังคับทุกประการ
การประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) วันนี้ เป็นการนัดแถลงเปิดคดีถอดถอน พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิดว่า ก้าวก่ายแทรกแซงการปฏิบัติราชการ หรือการดำเนินงานในหน้าที่ประจำของคณะกรรมการปลัดกระทรวงกลาโหม ในการบรรจุแต่งตั้งโยกย้ายของข้าราชการระดับสูง เพื่อประโยชน์ของตนเอง ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม
น.ส.สุภา ปิยะจิตติ คณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้แจงว่า ป.ป.ช.มีหลักฐานครบถ้วนว่า พล.อ.อ.สุกำพล กระทำความผิดจริง ด้วยการเสนอชื่อ พล.อ.ทนงศักดิ์ อภิรักษ์โยธิน ซึ่งเป็นบุคคลที่พล.อ.อ.สุกำพล เห็นสมควรแต่งตั้งให้เป็นปลัดกระทรวงกลาโหม ต่อที่ประชุมคณะกรรมการพิจารณาแต่งตั้งนายทหารชั้นนายพลของกระทรวงกลาโหมพิจารณา ทั้งที่พล.อ.เสถียร เพิ่มทองอินทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม ในขณะนั้น ได้ชี้แจงแล้วว่า การแต่งตั้งจะต้องผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการปลัดกระทรวงกลาโหมก่อน
ทั้งนี้ ในวันที่ประชุมแต่งตั้งข้าราชการทหารชั้นนายพลนั้น พล.อ.อ.สุกำพล ได้สั่งห้ามไม่ให้ปลัดกระทรวงกลาโหมในขณะนั้นเข้ามาร่วมประชุมเพื่อพิจารณาด้วย และในที่สุด ที่ประชุมก็ได้แต่งตั้งนายทหารชั้นนายพล 811 คน รวมถึงแต่งตั้งให้พล.อ.ทนงศักดิ์ เป็นปลัดกระทรวงกลาโหม แทนพล.อ.เสถียร ที่ถูกย้ายไปช่วยราชการที่สำนักงานรัฐมนตรีกลาโหม ขณะเดียวกัน พล.อ.อ.สุกำพล ยังยอมรับด้วยตัวเองว่า หากไม่มีอำนาจแทรกแซง แล้วจะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีทำไม
ขณะที่พล.อ.อ.สุกำพล อ้างว่า ในที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้พล.อ.ทนงศักดิ์ เป็นปลัดกระทรวงกลาโหมด้วยคะแนน 4 ต่อ 1 เสียง พร้อมยืนยันว่า การพิจารณาแต่งตั้งนายทหารชั้นนายพลนั้น ขึ้นตรงต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และการประชุมเพื่อเห็นชอบบัญชีปรับย้ายครั้งสุดท้ายเป็นไปตามข้อบังคับทุกประการ ซึ่งตนมีเสียงเดียวในการลงคะแนนในที่ประชุม ดังนั้น จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะผลักดันคนของตนเองให้ได้ตำแหน่ง อย่างไรก็ตาม หากที่ประชุม สนช.สงสัยในสิ่งที่ชี้แจง ก็ให้สอบถามกับพล.ร.อ.สุรศักดิ์ หรุ่นเริงรมย์ สมาชิก สนช.ที่ทราบเรื่องเป็นอย่างดี
จากนั้น ที่ประชุมได้ตั้งคณะกรรมาธิการ ซักถามคู่กรณี 7 คน โดยสมาชิก สนช.สามารถ เสนอญัตติซักถามได้ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 1 กันยายนนี้ และนัดซักถามคู่กรณีทั้งสองฝ่ายในวันที่ 9 กันยายน .-สำนักข่าวไทย