กทม. 2 เม.ย. – กรณีแฟลตการเคหะพังถล่มลงมาระหว่างรื้อถอน ทำให้รถยนต์ 2 คัน และรถจักรยนต์ 5 คัน ถูกทับเสียหาย แต่ไม่มีผู้เสียชีวิตหรือบาดเจ็บ ด้าน ผอ.เขตดินแดง เตรียมแจ้งความดำเนินคดีกับผู้รับเหมาที่รื้อถอน
เมื่อช่วงเย็นวันนี้ (2 เม.ย.) เกิดเหตุอาคารที่อยู่ระหว่างการรื้อถอนทรุดตัว บริเวณเคหะชุมชนดินแดง แฟลต 18-20 ถนนจตุรทิศ เศษซากอาคารความสูงขนาดตึก 4 ชั้น พังถล่มลงมา ทำให้รถยนต์ 2 คัน รถจักรยานยนต์ 5 คัน ที่จอดอยู่ได้รับความเสียหาย รวมถึงเสาไฟฟ้าอีก 2 ต้นหักจนไฟฟ้าดับเป็นบริเวณกว้าง
นางจันทร์กานต์ สาสุภา รองประธานชุมชนริมคลองสามเสน ผู้เห็นเหตุการณ์ บอกว่า ก่อนเกิดเหตุ เห็นผู้รับเหมาใช้รถแบ็กโฮขนาดใหญ่พยายามเจาะทำลายเสาของอาคารด้านล่าง เพื่อหวังให้อาคาร พังถล่มลงมายังพื้นที่ด้านในเขตรื้อถอน แต่ตัวอาคารกลับพังถล่มลงมาอีกด้าน ก่อนหน้านี้พยายามจะเตือนผู้รับเหมาให้ใช้ความระมัดระวัง แต่กลับถูกเพิกเฉย เคราะห์ดีที่เหตุการณ์นี้ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
ด้าน น.ส.ปัญชพัฒน์ หลักดี ผู้อำนวยการเขตดินแดง เปิดเผยว่า บริเวณดังกล่าว สำนักงานเขตได้มีคำสั่งระงับการก่อสร้างกับการเคหะแห่งชาติไปแล้วตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เนื่องจากพบว่ารื้อถอนไม่เป็นไปตามแบบที่จะได้รับอนุญาต ไม่มีแนวรั้วป้องกันอันตราย ประกอบกับได้รับการร้องเรียนจากประชาชน เรื่องฝุ่นและเศษวัสดุ อย่างไรก็ตาม ผู้รับเหมากลับฝ่าฝืนเข้าพื้นที่ รื้อถอนต่อเนื่องจนเกิดเหตุขึ้น จึงเตรียมให้เจ้าหน้าที่แจ้งความดำเนินคดีกับผู้รับเหมาใน 2 ข้อหา คือ รื้อถอนผิดแบบจากที่รับอนุญาต และฝ่าฝืนคำสั่งระงับการรื้อถอนตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร ต่อไป
ขณะที่นายวิวัฒน์ เชาวน์เทศ ผู้อำนวยการกองพัฒนาโครงการชุมชนดินแดงการเคหะแห่งชาติ ระบุว่า การเคหะฯ ขอเวลาตรวจสอบสาเหตุที่อาคารถล่ม เบื้องต้นเข้าใจว่าอาจเป็นการรื้อทำลายผิดแบบ หรือผิดจุด ส่วนเรื่องการฝ่าฝืนคำสั่งรื้อถอน เข้าใจว่าผู้รับเหมามีความพยายามในการปรับปรุงแก้ไขและยื่นเรื่องขอรื้อถอนต่อแล้ว สำหรับอาคารทั้ง 3 หลัง การเคหะฯ เปิดให้ผู้รับเหมาประมูลรื้อถอนร่วมกับอาคารอีก 2 หลัง ในราคาประมาณ 600,000 บาท เพื่อก่อสร้างอาคารใหม่. – สำนักข่าวไทย