วิกฤติฝุ่นภาคเหนือ ยังต้องสวมหน้ากากอนามัยป้องกัน

สธ.2เม.ย.-กรมอนามัยกำชับศูนย์อนามัยพื้นที่ภาคเหนือเฝ้าระวังสุขภาพประชาชนในพื้นที่เสี่ยง สื่อสารสร้างความรู้ในการป้องกันตนเองด้วยการสวมหน้ากากอนามัย พร้อมสนับสนุนพื้นที่ศูนย์อนามัยจัดทำห้องสะอาด ปลอดฝุ่น (Clean Room) ช่วยให้ประชาชนและเจ้าหน้าที่ใช้เป็นที่พักสูดอากาศสะอาดช่วงวิกฤติฝุ่น


พญ.พรรณพิมล  วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า สถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ในพื้นที่ภาคเหนือยังมีแนวโน้มที่รุนแรง ส่งผลกระทบต่อสุขภาพประชาชนในวงกว้าง โดยเฉพาะกลุ่มสี่ยง ได้แก่ เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ หญิงตั้งครรภ์และผู้มีโรคประจำตัว กรมอนามัยจึงได้มอบให้ศูนย์อนามัยที่ 1 เชียงใหม่ และศูนย์อนามัยที่ 2 พิษณุโลก ซึ่งดูแลรับผิดชอบในพื้นที่ภาคเหนือได้เฝ้าระวังสุขภาพประชาชนอย่างต่อเนื่อง โดยประสานการทำงานและข้อมูลสถานการณ์รายวันร่วมกับทางจังหวัดและสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด เพื่อจะได้ดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหาสุขภาพของประชาชนได้อย่างทันท่วงที 


พร้อมทั้งเน้นให้มีการสื่อสารสร้างความรู้ให้กับประชาชนทุกระดับพื้นที่ให้รู้จักป้องกันตนเองด้วยการเช็คค่าฝุ่นละอองจากแอพพลิเคชั่น Air4Thai ของกรมควบคุมมลพิษหรือติดตามข่าวสารของทางราชการในพื้นที่ทุกครั้งก่อนออกจากบ้าน และสวมหน้ากากอนามัยในพื้นที่เสี่ยงฝุ่นสูง 

นอกจากนี้มอบให้ศูนย์อนามัยที่1เชียงใหม่ จัดสถานที่ภายในศูนย์อนามัยเป็นห้องสะอาด ปลอดฝุ่น (Clean Room) เพื่อป้องกันและลดสัมผัสฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ให้กับเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานและประชาชนกลุ่มเสี่ยงหรือกลุ่มที่แพทย์ให้คำแนะนำ 


พญ.พรรณพิมล กล่าวต่อไปว่า แนวทางการจัดทำห้องสะอาด ปลอดฝุ่น (Clean Room)นั้น หากเป็นห้องธรรมดา ไม่มีเครื่องปรับอากาศ ควรเลือกห้องที่มีประตูหน้าต่างน้อยที่สุดและต้องปิดให้มิดชิดทำความสะอาดห้อง อยู่เสมอ โดยใช้ผ้าชุบน้ำหมาดๆ ไม่ควรใช้ไม้กวาด หรือเครื่องดูดฝุ่น เพราะจะทำให้ฝุ่นฟุ้งกระจาย และไม่ควรทำกิจกรรมที่จะก่อให้เกิดฝุ่นหรือควันเพิ่มขึ้น เช่น จุดเทียน จุดธูป สูบบุหรี่ หรือกิจกรรมอื่นที่เป็นแหล่งกำเนิดควัน เป็นต้น สำหรับห้องที่มีเครื่องปรับอากาศ ควรตรวจสอบและทำความสะอาดแผ่นกรองทุกเดือน  ล้างเครื่องปรับอากาศอย่างน้อย 6 เดือนต่อครั้ง ซึ่งห้องสะอาดสามารถทำได้ตั้งแต่ในบ้าน ที่ทำงาน และ  ในพื้นที่ชุมชน

“ประชาชนพื้นที่ภาคเหนือจึงต้องดูแลสุขภาพตนเองให้แข็งแรง กินอาหารให้ครบ 5 หมู่ ดื่มน้ำสะอาดอย่างน้อย 6-8 แก้วต่อวัน พักผ่อนให้เพียงพอ และที่สำคัญควรมีการเฝ้าติดตามสถานการณ์ปัญหาฝุ่นละอองและปฏิบัติตนตามคำแนะนำของหน่วยงานภาครัฐอย่างใกล้ชิด” อธิบดีกรมอนามัย กล่าว .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เมียติด GPS รถผัว ตามง้อถึงบ้าน ฝ่ายชายเมิน ยิงดับ

ภรรยาติด GPS รถสามี ตามง้อไม่สำเร็จ ซัดด้วยลูกโม่ตายคาใต้ถุนบ้าน คาดปมทะเลาะหึงหวง คิดจบชีวิตตัวเองตาม แต่พ่อสามียึดปืนไว้ทัน

ครูสูญเงิน 1.2 ล้านบาท มิจฉาชีพหลอกเป็นที่ดิน-จนท.ธนาคาร

ครูสาวชาวอุบลราชธานี ถูกมิจฉาชีพอ้างตัวเป็นหน่วยงานราชการ และเจ้าหน้าที่ธนาคาร ใช้เบอร์ธนาคารโทรหาจึงหลงเชื่อ สูญเงินกว่า 1.2 ล้านบาท

สุราษฎร์ฯ คลื่นลมแรง น้ำทะเลหนุนสูงท่วมบ้าน-รีสอร์ต

ฝนตกหนัก-คลื่นลมแรง น้ำทะเลหนุนสูงซัดบ้านพัก-รีสอร์ต อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี พังเสียหาย 4 หลัง เตือนเรือประมงงดออกจากฝั่ง

New threats in Los Angeles as wildfire switches direction

ไฟป่าแอลเอเปลี่ยนทิศสร้างปัญหาใหม่

ลอสแอนเจลิส 12 ม.ค.- รัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐเกิดภัยคุกคามใหม่วานนี้ เมื่อไฟป่าที่โหมไหม้เผาหลายพื้นที่ทั่วเทศมณฑลลอสแอนเจลิสหรือแอลเอเคาน์ตี้ได้เปลี่ยนทิศทาง ทำให้ต้องสั่งอพยพประชาชนเพิ่มเติม และกลายเป็นปัญหาท้าทายใหม่สำหรับทีมนักดับเพลิง พื้นที่เขตแคลิฟอร์เนียใต้เผชิญไฟป่ามาตั้งแต่วันที่ 7 มกราคม โดยเกิดไฟป่าพร้อมกัน 6 จุดทั่วแอลเอเคาน์ตี้ ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 11 คน  ผู้สูญหาย 13 คน  บ้านเรือนและสิ่งปลูกสร้างเสียหายหรือถูกทำลายรวมแล้วกว่า 10,000 หลัง คาดว่าความเสียหายทั้งต่อชีวิตและทรัพย์สินจะเพิ่มขึ้นอีก เมื่อเจ้าหน้าที่สามารถเข้าตรวจสอบพื้นที่ประสบภัยได้อย่างละเอียด ขณะนี้ยังคงมีประชาชน 153,000 คนอยู่ภายใต้คำสั่งอพยพ และอีก 166,800 คน เสี่ยงต้องอพยพเนื่องจากมีการประกาศเคอร์ฟิวในทุกพื้นที่ที่มีการอพยพประชาชนหนีไฟป่า ขณะเดียวกันเครื่องบินกองทัพอากาศของเม็กซิโกได้ออกเดินทางมุ่งหน้าสู่รัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐเมื่อวานนี้ เพื่อนำทีมบุคคลากร 74 คนจากกองทัพบกและคณะกรรมาธิการป่าไม้แห่งชาติ ไปช่วยปฏิบัติการดับไฟป่าที่กำลังลุกไหม้ลามไม่หยุดทั่วเขตแคลิฟอร์เนียใต้ ภารกิจด้านมนุษยธรรมดังกล่าวครอบคลุมทั้งปฏิบัติการดับไฟป่าและปกป้องพลเรือน ขณะที่กงสุลเม็กซิโกในเมืองแอลเอประกาศไม่ปิดทำการและเสนอให้ที่พักพิงกับผู้ประสบภัยชาวเม็กซิโก ไม่ว่าจะมีสถานะเป็นผู้อพยพหรือไม่ ปัจจุบันมีชาวเม็กซิโกหรือลูกหลานชาวเม็กซิโกอาศัยอยู่ในรัฐแคลิฟอร์เนียคิดเป็นเกือบร้อยละ 30 ของประชากรทั้งรัฐ.-820(814).-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

สส.ศรีสะเกษ เพื่อไทย เล่านาทีกระป๋องนมเฉี่ยวไปนิดเดียว

“สส.ศรีสะเกษ เพื่อไทย” เล่านาทีระทึก กระป๋องนมเฉี่ยวไปนิดเดียว เชื่อมีคนเขวี้ยงมาแน่ บอกมันดังมากเลยนะ งง! จะหล่นมาจากฝ้าได้อย่างไร ด้าน “เลขาฯ สภา” แจงแล้ว ตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบตกจากเพดาน คาดคนงานขึ้นไปซ่อมฝ้า ดื่มนมแล้วทิ้งไว้

เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์

รมช.คลัง เร่งดัน กม.สถานบันเทิงครบวงจร ยันไร้เส้นสาย-เกี้ยเซียะ

‘รมช.คลัง’ ลั่นเร่งดันกฎหมายเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ บอกทุนจดทะเบียนหมื่นล้าน ไม่จำกัดสัญชาติ แต่ต้องมีคุณภาพ ยันไม่มีเส้นสาย-เกี้ยเซียะในรัฐบาล

แอปเงินกู้มือถือ

ยังคุยไม่เคลียร์ “ประเสริฐ” เรียก OPPO-Realme เเจงเพิ่ม

“ประเสริฐ” เตรียมเรียก OPPO-Realme มาเเจงเพิ่ม หลังคุยไม่เคลียร์ พร้อมถกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเเจ้งต้นทางแอปฯ เงินกู้ผิดปกติ