ทหารตำรวจแถลงจุดยืน พร้อมทำงานทุกพรรคที่เป็นรัฐบาล

กทม.28 มี.ค.-ทหารตำรวจแถลงจุดยืน  ‘เพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์’ เป็นกลไกรัฐ พร้อมทำงานร่วมทุกรัฐบาล แจงริบคืนรางวัลจักรดาวทักษิณ ไม่รู้ที่ต่ำที่สูง 


พล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ ปลัดกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วย พล.อ.พรพิพัฒน์ เบญญศรี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก พล.ร.อ.ลือชัย รุดดิษฐ์ ผู้บัญชาการทหารเรือ พล.อ.อ.ชัยพฤกษ์ ดิษยะศริน ผู้บัญชาการทหารอากาศ และ พล.ต.อ.จักรทิพย์ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ร่วมกันแถลงข่าวจุดยืนกองทัพ โดยผู้บัญชาการทหารสูงสุด กล่าวว่า จุดยืนต่อบทบาทและหน้าที่ในการปกป้องสถาบันหลักของชาติของทหารและตำรวจไม่เคยเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม คือชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และความอยู่ดีมีสุขของประชาชน ส่วนบทบาทความเป็นคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และความเป็นแม่น้ำ 5 สายมีโรดแมปกำหนดระยะเวลาอยู่ ไม่มีเรื่องต้องกังวล การบริหารงานของรัฐบาลต่อไปเป็นไปตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด


เมื่อถามว่าผู้บัญชาการเหล่าทัพวิเคราะห์สถานการณ์การเมืองหลังเลือกตั้งอย่างไร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด กล่าวว่า ต้องขอบคุณทุกพรรคการเมืองที่ทำให้การเลือกตั้งเรียบร้อยทั้งก่อนและหลัง ขณะที่ผู้บัญชาการทหารบกในฐานะเลขาธิการคสช.ได้คลายความกังวล เพราะทุกอย่างเป็นไปตามโรดแมป ผลของการเลือกตั้งเท่าที่ติดตามในฐานะประชาชนทุกอย่างเป็นปกติ

ผู้บัญชาการทหารสูงสุด กล่าวว่า ส่วนความพยายามที่จะร่วมกันจัดตั้งรัฐบาล ขอให้เป็นเรื่องของฝ่ายการเมือง  ทหารตำรวจจะปฏิบัติหน้าที่รักษาความสงบและป้องกันเอกราชอธิปไตยของประเทศชาติตามปกติ ทหารตำรวจเป็นกลไกราชการที่ต้องปฏิบัติงานตามคำสั่งของรัฐบาล ไม่ว่าพรรคการเมืองใดที่จะมาเป็นรัฐบาล ทหารและตำรวจต้องปฏิบัติตามนโยบายและแนวทางของรัฐบาล


เมื่อถามว่า ในฐานะที่กองทัพเป็นส่วนหนึ่งของคสช.แต่ 7 พรรคการเมือง ลงสัตยาบันหยุดสืบทอดอำนาจคสช.และปฏิรูปกองทัพ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด กล่าวว่า คสช.ต้องยุติบทบาทตาม โรดแมป เมื่อเลือกตั้งและตั้งรัฐบาลใหม่แล้ว ความเป็น คสช.ก็พ้นไปโดยธรรมชาติ ไม่เห็นจะเป็นการสืบทอดอำนาจตามวาทะที่พูดกัน ส่วนการปฏิรูปกองทัพ ถ้าคำสั่งแนวทางนโยบายแห่งรัฐเป็นเรื่องที่รัฐบาลใคร่ครวญอย่างเหมาะสมแล้วและทำให้ประเทศชาติมั่นคง มีเสถียรภาพ ไม่ถูกรุกรานจากประเทศภายนอก ทุกอย่างเป็นไปตามที่รัฐบาลกำหนดนโยบายให้กับกองทัพและตำรวจปฏิบัติ

ส่วนจะปฏิบัติตามพระบรมราโชวาทให้คนดีมาปกครองบ้านเมืองได้หรือไม่ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด กล่าวว่า คือสิ่งที่เป็นความเร่งด่วนสุดที่กองทัพและสำนักงานตำรวจแห่งชาติพยายามพูดทุกครั้ง ทุกโอกาส พยายามดำเนินการทุกประการ พระราชดำรัสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ถือว่ามีความลึกซึ้งและเป็นปรัชญาสูงสุด เราไม่สามารถทําให้ทุกคนเป็นคนดี แต่เราเลือกคนดีเข้ามาบริหาร มีอำนาจได้ แล้วเราทุกคนในสังคมต่าง ๆ ทหารตำรวจพยายามยึดมั่นในแนวปฏิบัตินี้ คือพยายามให้ทุกคนที่เป็นคนดีขึ้นมาเป็นผู้ปกครองบังคับบัญชา

เมื่อถามว่า เป็นห่วงเรื่องการทุจริตเลือกตั้งหรือไม่ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด กล่าวว่า ต้องให้เวลากับคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ต้องเชื่อมั่นกลไกของรัฐ แม้เราอาจเห็นว่าการทำงานของกกต.ในกระบวนการจัดการเลือกตั้งไม่เรียบร้อย แต่ต้องเชื่อใจว่า กกต.มีหลักปฏิบัติและพยายามทำให้ดีที่สุด เมื่อพบข้อบกพร่องต้องแก้ไข ซึ่งต้องใช้เวลาพอสมควร ต้องให้โอกาสกกต.มากกว่าจู่โจมด้วยคำพูด จนไม่สามารถตั้งตัวได้และทำลายความน่าเชื่อถือ ต้องให้ความเป็นธรรมกกต.ด้วย

เมื่อถามว่าหากพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาไม่ได้กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีก กองทัพมีจุดยืนอย่างไร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด กล่าวว่า กองทัพและสำนักงานตำรวจแห่งชาติอยู่ภายใต้การนำของรัฐบาลมาเป็น 100 ปี จึงไม่มีปัญหา ไม่ว่าใครจะมาเป็นรัฐบาลหรือนายกรัฐมนตรี

เมื่อถามว่าหากการเลือกตั้งไม่ได้ข้อสรุปที่ดี จะเกิดการรัฐประหารหรือไม่ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด กล่าวว่า อย่าไปตั้งเป้าว่าจบไม่ดี คนไทยต้องคิดบวก เราเดินตามโรดแมปมาถึงขั้นนี้แล้ว มีการเลือกตั้ง คะแนนที่ได้ก็มาจากการเลือกตั้ง ขอให้กกต.ประกาศยืนยันผลเป็นทางการทุกอย่าง การฟอร์มรัฐบาลอย่างเป็นทางการก็จะเกิดขึ้น ซึ่งในที่สุดจะมีรัฐบาลเสียงข้างมากได้

“เรื่องการถอดชื่อนายทักษิณ ชินวัตร ออกจากศิษย์เก่าดีเด่นและริบรางวัลเกียรติยศจักรดาว เป็นการดำเนินการของคณะกรรมการมูลนิธิศิษย์เก่าโรงเรียนเตรียมทหาร ซึ่งเป็นผู้แทนจากศิษย์เก่ารุ่นต่าง ๆ และเป็นเรื่องภายใน รางวัลเกียรติยศจักรดาวเป็นรางวัลเกียรติยศ ผู้รับย่อมต้องรักษาเกียรติแห่งรางวัลนั้นไว้ ถ้ามีข้อมูลในทางใดที่ผู้รับไม่สามารถจะรักษาเกียรติแห่งรางวัลนั้นไว้ได้ก็ต้องเรียกคืน” ผู้บัญชาการทหารสูงสุด กล่าว 

ผู้สื่อข่าวได้ขอให้ยกตัวอย่างพฤติกรรมของนายทักษิณที่ไม่สมควรที่จะได้รับรางวัลนี้ต่อไป ผู้บัญชาการทหารสูงสุด กล่าวว่า สื่อมวลชนและคนไทยทราบข้อมูลอยู่แล้ว ที่ปรากฎอยู่ในเว็บไซด์และโลกโซเชียลต่างๆ แต่สิ่งที่รบกวนจรรยาบรรณของทหารและหลักนิยมของทางทหารคือการใดที่เป็นการจาบจ้วง ไม่รู้ที่สูงที่ต่ำ จึงถึงเวลาต้องตัดสินใจ ส่วนข้อสงสัยที่เลือกช่วงเวลานี้ การพิจารณาช้าหรือเร็วเป็นเรื่องปกติ เมื่อพบว่ามีอะไรที่สมควรก็ถึงเวลาต้องดำเนินการ เพื่อให้จบกระบวนการขั้นตอนไป

“ส่วนจะเกี่ยวข้องกับภาพเหตุการณ์ที่ฮ่องกงหรือไม่นั้น ตอบเลยว่าไม่ใช่ เป็นเรื่องทั่ว ๆ ไป เมื่อข้อมูลมาถึงจุด ๆ หนึ่งก็ต้องดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่ง เราต้องเลือกระยะเวลาที่เหมาะสม และไม่อยากให้เป็นผลกระทบที่ส่งไปถึงทางการเมือง” ผู้บัญชาการทหารสูงสุด กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่านายทักษิณเป็นคนแรกของโรงเรียนที่ถูกถอดชื่อและริบรางวัล  ผู้บัญชาการทหารสูงสุด กล่าวว่า ส่วนใหญ่ผู้ที่ได้รับรางวัล เขาก็สามารถรักษาเกียรติแห่งรางวัลนั้นไว้ได้ทุกคน ซึ่งศิษย์เก่าโรงเรียนเตรียมทหารและคนที่เป็นทหาร ตำรวจ เป็นคนไทยทุกคน จะมีมาตรฐานทางจริยธรรมและมาตรฐานของความจงรักภักดี เป็นหลักปฏิบัติที่เรายึดถือ และรู้ระมัดระวัง ที่จะไม่ล่วงเกินในทางใดทางหนึ่ง หากผู้ใดกระทำล่วงละเมิด ล่วงเกิน ไม่รู้ว่าอะไรสูง อะไรต่ำก็ต้องใช้มาตรการทางใดทางหนึ่ง และหวังว่าสิ่งเหล่านี้จะเป็นมาตรฐานที่คนไทยทุกคนพึงปฏิบัติ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เก๋งซิ่งแหกโค้งชนเสาเหล็ก ไฟลุกไหม้คลอกคนขับดับสลด

ลพบุรี 6 มิ.ย. – เก๋งหรูซิ่งเสียงดังลั่น หมุนโชว์กลางสี่แยก ก่อนแหกโค้งชนเสาเหล็กป้ายข้างทางไฟลุกไหม้เสียหายทั้งคัน คลอกคนขับดับสลด เมื่อเวลา 03.30 น.ที่ผ่านมา ร.ต.ท.ชาตรี ทรัพย์นิยมพงศ์ ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองลพบุรี รับแจ้งรถเก๋งชนเสาข้างถนน ไฟลุกไหม้ทั้งคัน บนถนนทางเข้าบ้านหนองน้ำทิพย์ หมู่ 7 ต.เขาพระงาม อ.เมืองลพบุรี พร้อมแจ้งรถน้ำดับเพลิงป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลตำบลเขาพระงาม รุดไปดับไฟ และเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบ จุดเกิดเหตุพบไฟกำลังลุกไหม้โหมทั่วไปทั้งคันรถ สังเกตดูเบื้องต้นคนขับติดอยู่ที่เบาะนั่งสภาพหมดสติ เจ้าหน้าที่เร่งระดมฉีดน้ำใช้เวลาประมาณ 15 นาที เพลิงสงบ จากการตรวจสอบด้านซ้ายรถชนอัดอยู่กับเสาเหล็กป้ายบอกทาง สภาพเหลือแต่ซาก เบื้องต้นพบเป็นรถเก๋งยี่ห้อยี่ห้อบีเอ็มดับเบิลยู ไม่ทราบสี-ทะเบียน ถูกไฟไหม้ เหลืออยู่ครึ่งป้าย ภายในรถพบร่างชายถูกไฟไหม้เกรียม ยังไม่ทราบชื่อว่าเป็นใครมาจากไหน สอบถามนางเล็ก ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองนั่งเฝ้าเครื่องสูบน้ำใกล้จุดเกิดเหตุ ได้ยินเสียงรถเก๋งคันดังกล่าวขับซิ่งมาจากแยกเขาพระงาม มุ่งหน้าไปทางโคกสำโรง เสียงท่ออย่างดังลั่น พอมาถึงสามแยกบ้านหนองน้ำทิพย์ ได้หมุนโชว์กลางแยก 1 รอบ จากนั้นขับไปยูเทิร์นกลับมาอีกรอบ เลี้ยวเข้าทางแยกหนองน้ำทิพย์ได้ประมาณ 300 เมตร […]

ตำรวจเร่งตามหาเจ้าของเงิน 12 ล้าน วางทิ้งข้างถังขยะ

นนทบุรี 6 มิ.ย. – ตำรวจเร่งตามหาเจ้าของเงินสด 12 ล้าน ในกล่องพลาสติก วางทิ้งข้างถังขยะคอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี จากกรณีพลเมืองดีพบธนบัตรไทยจำนวนมาก ถูกซุกซ่อนอยู่ภายในกล่องพลาสติก บริเวณคอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี จ.นนทบุรี เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบเอกสารเกี่ยวกับหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายและซองจดหมาย ปรากฏชื่อบุคคลและหน่วยงานรัฐในเอกสาร จึงได้ยึดธนบัตรดังกล่าวมาที่ สภ.ปากเกร็ด เพื่อพิสูจน์ว่าเป็นเงินอะไร ได้มาถูกต้องหรือไม่ และใครเป็นเจ้าของที่แท้จริง เบื้องต้นพบเป็นเงินสดจำนวน 12 ล้านบาท และเมื่อเจ้าหน้าที่นำสายรัดของธนบัตรดังกล่าวไปตรวจสอบ พบว่ามีการจ่ายเงินออกมาจำนวนดังกล่าวตั้งแต่ปี 2563    พลเมืองดีเล่าว่า เวลาประมาณ 20.00 น. ของเมื่อวานนี้ (5 มิ.ย.) ตนและเพื่อนเดินไปลิฟต์ที่ชั้น 4 ซึ่งข้างลิฟต์เป็นที่ทิ้งขยะ เห็นกล่องสภาพดีวางอยู่ ก็จะเก็บไปใช้ ซึ่งกล่องถูกเปิดแง้มเอาไว้และมีเสื้อผ้าวางทับด้านบน จึงเปิดดูพบเงินสดฉบับละ 1,000 บาท เป็นมัดๆ จำนวนมาก จึงโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบ ความคืบหน้าในการติดตามหาตัวคนที่นำกล่องเงินมาทิ้ง ตำรวจสืบสวน สภ.ปากเกร็ด ได้ลงพื้นที่ไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณจุดที่พบเพื่อหาเบาะแสคนที่นำกล่องพลาสติกมาทิ้ง เบื้องต้นยังไม่พบผู้ต้องสงสัย นอกจากนี้ยังได้พยายามติดต่อกับ นายทวีวัฒน์ […]

น้ำมันรั่วลงทะเล

สั่งเจ้าท่าระงับเหตุน้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar

ชลบุรี 6 มิ.ย.- “มนพร” สั่งการกรมเจ้าท่าตั้งศูนย์ประสานงานแก้ไขปัญหาและควบคุมสถานการณ์น้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar บริเวณท่าเรือบริษัทไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ศรีราชา จังหวัดชลบุรี นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม สั่งการให้ นายกริชเพชร ชัยช่วย อธิบดีกรมเจ้าท่า ดำเนินการจัดตั้งศูนย์ประสานงานป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมัน เพื่อ ระงับเหตุน้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar ซึ่งเป็นเรือบรรทุกน้ำมันดิบสัญชาติสิงคโปร์ หมายเลข IMO 9828962 โดยเหตุเกิดบริเวณทุ่นรับน้ำมันกลางทะเล (SBM2) ของบริษัทไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ในเขตพื้นที่ศรีราชา จังหวัดชลบุรี เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลา 00.54 น. โดยมีสาเหตุมาจากท่อส่งน้ำมันที่ชำรุด ส่งผลให้น้ำมันดิบรั่วไหลลงสู่ทะเลในปริมาณประมาณ 20 คิว หรือราว 20 ตัน กรมเจ้าท่าได้ดำเนินการประเมินสถานการณ์โดยเร่งดำเนินการจัดตั้งศูนย์ประสานงานฯ ณ โรงกลั่นน้ำมันของบริษัทไทยออยล์ จังหวัดชลบุรี เพื่อเป็นศูนย์กลางในการควบคุมเหตุการณ์ ทั้งนี้กรมเจ้าท่าในฐานะเลขานุการศูนย์ประสานงาน ได้ประสานกองทัพเรือจัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ในการขจัดคราบน้ำมัน จากการสำรวจพื้นที่ พบว่าลักษณะของคราบน้ำมันเป็นคราบสีดำหรือน้ำตาลบาง ๆ […]

นักศึกษาเจอคอลเซ็นเตอร์ปั่นหัวถือมีดบุกโรงพัก

เชียงใหม่ 5 มิ.ย. – แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกนักศึกษาเชียงใหม่ สูญกว่า 2 ล้านบาท พ่อแม่เครียดหมดเนื้อหมดตัว บางรายถูกปั่นหัวให้ถือมีดบุกโรงพักเย้ยตำรวจ พบเฉพาะ สภ.ภูพิงค์ฯ มีเหยื่อโดนหลอกลักษณะนี้แล้วกว่า 300 ราย กล้องวงจรปิดบันทึกภาพนักศึกษาสาว ชั้นปีที่ 4 ขี่รถจักรยานยนต์มาจอดภายใน สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ จากนั้นเดินไปเข็นวีลแชร์ที่อยู่ตรงหัวมุมอาคาร แล้วก็เข็นไปเข็นมาอยู่อย่างนั้น ก่อนจะถือมีดไปที่บริเวณห้องรับแจ้งความ และอ้างว่า จะมาขอพบตำรวจนายหนึ่ง แต่ไม่มีชื่อนี้อยู่ที่โรงพัก จึงขอพบ พันตำรวจเอก มนัสชัย อินทร์เถื่อน ผู้กำกับ สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ เพราะไปฆ่าคนตายมา ขณะนั้น ตำรวจสืบสวนสังเกตเห็นว่า นักศึกษาสาวมีท่าทางหวาดระแวงใส่หูฟังเหมือนกับทำตามคำสั่งใครสักคนที่สั่งการจากปลายสาย ด้านตำรวจจึงชวนพูดคุยสอบถามสักพัก จนยอมวางมีดลง จากนั้น ตำรวจจึงขอให้ดึงหูฟังออก ปรากฏว่า นักศึกษาสาวกลับได้สติขึ้นมาว่า ชายที่สั่งการทางโทรศัพท์ไม่ใช่ตำรวจจริง เป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ สั่งให้มาป่วนตำรวจ เนื่องจากไม่มีเงินโอนให้ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 มิ.ย. ที่ผ่านมา ตำรวจจึงตรวจสอบพบว่า ในวันเดียวกัน […]

ข่าวแนะนำ

ลอบวางระเบิด 2 จุด กลางตลาดโต้รุ่งเมืองปัตตานี

ปัตตานี 8 มิ.ย. – คนร้ายลอบวางระเบิดกลางตลาดโต้รุ่ง เขตเทศบาลเมืองปัตตานี รถจักรยานยนต์เสียหาย 2 คัน เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต วันที่ 8 มิ.ย.68 เวลา 20.00 น. เกิดเหตุคนร้ายไม่ทราบกลุ่มจำนวน ลอบวางระเบิดแสวงเครื่อง จำนวน 2 ลูก โดยจุดแรก วางระเบิดในถังขยะ หน้าร้านทอง บริเวณตลาดโต้รุ่ง เขตเทศบาลเมืองปัตตานี เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต รถจักรยานยนต์ได้รับความเสียหาย จำนวน 2 คัน และจุดที่ 2 วางระเบิดในถังขยะ บริเวณในซอยข้างโรงแรม หลังตลาดโต้รุ่ง เขตเทศบาลเมืองปัตตานี เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต การก่อเหตุครั้งนี้ คาดว่าเป็นการก่อเหตุเพื่อสร้างสถานการณ์ให้เกิดขึ้นในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ตามข้อมูลข่าวสารที่หน่วย ส.จว.ปัตตานี ได้ออกข่าวแจ้งเตือนไปแล้ว เมื่อวันที่ 26 พ.ค.68 เวลา 15.00 น. ปรากฏข่าวสารว่า นายมะกอเซ็ง หม้าแอ สมาชิก ผกร.ระดับปฏิบัติการ และสมาชิกจำนวน […]

นายกฯ เผยหารือกัมพูชา ตกลงปรับกำลังทหารทั้ง 2 ฝ่าย ลดเผชิญหน้า

ทำเนียบรัฐบาล 8 มิ.ย. – นายกฯ เผยหารือกับรัฐบาลกัมพูชา ทั้ง 2 ฝ่ายตกลงจะร่วมกันปรับกำลังทหาร จุดที่มีการกระทบกระทั่ง เพื่อลดการเผชิญหน้า เดินหน้าใช้กลไก JBC 14 มิ.ย.นี้ นำพาความสัมพันธ์เข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็ว น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่า ความพยายามคลี่คลายสถานการณ์ความขัดแย้งตามแนวชายแดน โดยการปฏิบัติงานของทั้งระดับนโยบาย โดยรัฐบาล ฝ่ายความมั่นคง กองทัพ กระทรวงการต่างประเทศ และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีพัฒนาการในทางที่ดีขึ้นเป็นลำดับค่ะ ดิฉันได้หารือกับรัฐบาลกัมพูชา มีข้อสรุปที่ส่งผลดีต่อสถานการณ์ โดยทั้ง 2 ฝ่ายตกลงจะร่วมกันปรับกำลังทหาร ณ จุดที่มีการกระทบกระทั่ง เพื่อลดบรรยากาศการเผชิญหน้า และจะพัฒนาความร่วมมือโดยใช้กลไก JBC ในวันที่ 14 มิถุนายนนี้ และจะมีการพูดคุยกันในทุกระดับ เพื่อนำพาความสัมพันธ์ของทั้ง 2 ประเทศเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็วค่ะ ขอให้พี่น้องประชาชนติดตามสถานการณ์และข้อเท็จจริงจากรัฐบาล พร้อมทั้งเป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานจนประสบผลสำเร็จต่อไป สุดท้ายนี้ ขอให้พี่น้องประชาชนได้โปรดคลายความกังวล และมีความมั่นใจในการแก้ไขปัญหาของรัฐบาลว่า จะไม่มีเหตุกระทบกระทั่งที่รุนแรงเกิดขึ้นแน่นอนค่ะ.-316-สำนักข่าวไทย

โฆษก ทบ. ยันทหารกัมพูชายอมถอนกำลัง-กลบคูเลต ลดตึงเครียด

8 มิ.ย. – โฆษก ทบ. ยืนยันทหารกัมพูชายอมถอนกำลังกลับไปอยู่จุดเดิม พร้อมกลบคูเลตให้คืนสู่สภาพเดิม หลังบรรลุข้อตกลงการหารือ เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ในพื้นที่พิพาทบริเวณช่องบก ลดความตึงเครียด วันนี้ (8 มิ.ย.68)​ พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ฝ่ายกัมพูชา นำโดย พล.ท.สรัย ดึก รองผู้บัญชาการทหารบก และผู้บัญชาการกองพลสนับสนุนที่ 3 ได้เชิญฝ่ายทหารไทย โดย พล.ต.สมภพ ภาระเวช ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี เข้าร่วมหารือ เพื่อเจรจาเกี่ยวกับกรณีปัญหาการรุกล้ำดินแดนในพื้นที่พิพาทบริเวณช่องบก จากการหารือเบื้องต้น ทั้งสองฝ่ายได้บรรลุข้อตกลงในประเด็นสำคัญ คือ ฝ่ายทหารกัมพูชายินยอมถอนกำลังกลับไปยังจุดที่เคยประจำการอยู่เดิม ซึ่งอยู่ห่างจากบริเวณที่เกิดเหตุปะทะ หรือแนวต้นพญาสัตบรรณ ลึกเข้าไปในเขตแดนของประเทศกัมพูชา จุดดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่ฝ่ายกัมพูชาเคยใช้เป็นแนววางกำลังฐานมาโดยตลอดในอดีต นอกจากนี้ ฝ่ายกัมพูชายังแสดงความยินยอมที่จะดำเนินการกลบคูเลตให้กลับคืนสู่สภาพธรรมชาติตามเดิม ตามข้อเสนอของฝ่ายไทย เพื่อเป็นการลดความตึงเครียด และสร้างบรรยากาศแห่งความร่วมมือ ภายหลังจากนี้ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องร่วมกันที่จะใช้กลไกระดับคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่น เป็นช่องทางในการหารือแนวทางบริหารจัดการพื้นที่อย่างเหมาะสมและยั่งยืนต่อไป.-313-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 สั่งกองกำลังสุรนารี ปรับเวลาเปิด-ปิด จุดผ่านแดนกัมพูชา 

8 มิ.ย.- เกาะติดสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา แม่ทัพภาค 2 ลงนามคำสั่งให้อำนาจผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี พิจารณาปรับเวลาเปิด-ปิด ด่านถาวรและจุดผ่อนปรนการค้า 4 ด่าน มีผลทันทีเมื่อคืนนี้ กองทัพภาคที่ 2 ออกหนังสือคำสั่ง การควบคุมการเปิด-ปิดจุดผ่านแดนทุกประเภทตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังสุรนารี ตามคำสั่งกองทัพบก เพื่อความปลอดภัยของประชาชน ให้กองทัพภาคที่ 2 โดยกองกำลังกำลังสุรนารีมีอำนาจการควบคุมการเปิด-ปิดจุดผ่านแดนทุกประเภทตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังสุรนารี วิธีการและเงื่อนไขหรือเงื่อนเวลา ที่จำเป็นเหมาะสม ในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังสุรนารี ดังนี้