ห่วง “โชห่วยไทย” ปรับตัวสู้น้อย

กรุงเทพฯ 26 มี.ค.-จับตาโชห่วยไทย จะรอดได้อย่างไรในยุคการค้าออนไลน์มาแรง ขณะที่ภาครัฐพยายามหามาตรการช่วยเหลือเต็มที่


เชื่อว่าทุกคนคงเคยซื้อของในร้านค้าที่เรียกกันว่า “โชห่วย” มากบ้างน้อยบ้างแล้วแต่สถานการณ์ ซึ่งร้านโชห่วยอยู่คู่กับสังคมไทยมาอย่างยาวนาน แม้จะมีร้านค้าปลีกสมัยใหม่เข้ามามากมายที่ดึงดูดลูกค้าและมีสินค้าที่ครบครันกว่า รวมทั้งการซื้อขายสินค้าผ่านออนไลน์ที่เติบโตมาก 


ปัจจุบันจากตัวเลขของสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ สสว. ระบุว่า ร้านโชห่วยมีจำนวน 395,006 ราย กระจายอยู่ทุกภูมิภาคทั่วประเทศ ขณะที่มีข้อมูลของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ระบุว่า ร้านค้าปลีกที่มีการจดทะเบียนในรูปนิติบุคคลทั่วประเทศ ประมาณ 64,000 ราย อย่างไรก็ตาม มีผลสำรวจจากมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ร้านโชห่วยก็ยอมรับว่า เจอกับปัญหาคล้ายกัน คือ มีคู่แข่งใหม่ทั้งร้านค้าปลีกขนาดเล็กและใหญ่ ค้าขายออนไลน์ และโมเดิร์นเทรด พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไป ขาดความรู้ด้านการตลาด บัญชี ต้นทุนสินค้าสูงขึ้น แต่รายได้ลดลง


โดยร้านโชห่วยกลุ่มตัวอย่างที่สำรวจ 1,246 ราย พบว่าเกือบ 86% ทำธุรกิจในรูปแบบบุคคลธรรมดา และ 14% รูปแบบนิติบุคคล โดย 90% เป็นเจ้าของคนเดียว มีรายได้เฉลี่ย กว่า 51,000 บาท/เดือน และต้องดูแลสมาชิกในครอบครัวเฉลี่ยประมาณ 4 คน ขณะที่ประมาณ 1 ใน 3 จะใช้บ้านทำเป็นร้าน และ 28% ตั้งอยู่ในตัวเมืองจังหวัด 61% จะขายสินค้าจิปาถะ ที่ซื้อจากห้างหรือซูเปอร์มาร์เก็ต และร้านค้าส่งขนาดใหญ่ในตัวเมือง

 นอกจากนี้ยังพบว่าช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ร้านโชห่วยเกือบ 25% ไม่มีการปรับตัวใด ๆ เลย เพราะคิดว่า ไม่จำเป็นและมีทุนจำกัด และเกือบ 40% ปรับตัวน้อย เพราะบอกว่ามีลูกค้าเก่าอยู่แล้วกับไม่มีทุนจะพัฒนามีเพียง 13% ปรับตัว

ห่วง “โชห่วยไทย” อย่างมากเพื่อจะยกระดับธุรกิจ ปรับเปลี่ยนร้านให้ทันสมัย สร้างความประทับใจแก่ลูกค้า เช่น ปรับปรุงร้านใหม่ เพิ่มโปรโมชั่นหรือบริการเสริมต่างๆ มีการระบุราคาที่ชัดเจน และมีสินค้าหลากหลาย ตรวจสอบคุณภาพสินค้าเสมอ นอกจากนี้ 23.97% มีการค้าขายออนไลน์เสริม เพราะเห็นถึงพฤติกรรมลูกค้าเปลี่ยนไป 

ด้านสถานภาพธุรกิจร้านโชห่วยปัจจุบัน ส่วนใหญ่บอกว่ายอดขายเท่าเดิม และคิดว่าอีก 6 เดือนข้างหน้ายังเท่าเดิม โดย 53% มีภาระหนี้สิน เฉลี่ยต่อราย 462,000 บาท ซึ่งภายใน 1 ปีนี้ เกือบ 48% บอกว่ามีความต้องการสินเชื่อ และแทบทั้งหมดต้องการสินเชื่อในระบบ เพื่อเพิ่มสภาพคล่องธุรกิจ วงเงินเฉลี่ยที่ต้องการ คือ 182,500 บาท 

ขณะที่ภาครัฐเองก็มีโครงการปรับปรุงร้านโชห่วยเพื่อให้แข่งขันได้ เช่น โครงการปรับภาพลักษณ์ร้านโชห่วยให้มีการจัดร้านรูปแบบ “5ส” คือ สวย –สว่าง –สะอาด–สะดวก –สบาย เพราะเชื่อว่าร้านโชห่วยมีความได้เปรียบร้านค้าใหญ่ๆ ในเรื่องการแบ่งขาย ซึ่งหากทำให้สามารถเลือกซื้อได้สะดวก ดูสะอาด ก็จะช่วยดึงดูดลูกค้าได้และโครงการโชห่วยออนไลน์ โดยพัฒนาช่องทางการสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ ในรูปแพลตฟอร์มในการสั่งซื้อสินค้าจากร้านโชห่วยไปยังผู้ผลิตสินค้าโดยตรง อย่างกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน อาทิ ยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดิ้ง สยามแม็คโคร เอสเอ็มอีแบงก์ ธนาคารกรุงไทย สมาคมการค้าส่ง-ปลีกไทย และสมาคมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ไทย พัฒนาศักยภาพร้านโชห่วยเริ่มตั้งแต่ปรับทัศนคติในการทำธุรกิจแบบสมัยใหม่ ให้ความรู้บริหารจัดการธุรกิจ สนับสนุนด้านทรัพยากรและแหล่งเงินทุน 

ส่วนเอสเอ็มอีแบงก์ ก็มีโครงการ “เติมทักษะ” คือให้ความรู้ เช่น ด้านบริหารจัดการค้าปลีกสมัยใหม่ ระบบบัญชีและขยายตลาดออนไลน์ ตามด้วยการ “เติมทุน” ผ่านโครงการ “สินเชื่อเพื่อยกระดับเศรษฐกิจชุมชน” สนับสนุนร้านโชห่วย ค้าปลีกค้าส่ง รวมถึงธุรกิจเกษตรแปรรูปอาชีพอิสระ ใช้เป็นทุนหมุนเวียน ยกระดับธุรกิจให้สะดวกทันสมัย โดยคิดดอกเบี้ยต่ำ ผ่อนนานถึงสูงสุด 7 ปี บุคคลธรรมดา 3 ปีแรก 0.42% ต่อเดือน ปีที่ 4-7 อัตราดอกเบี้ย MLR ต่อปี และหากยกระดับเป็นนิติบุคคล อัตราดอกเบี้ยจะถูกลงไปอีก 3 ปีแรก 0.25% ต่อเดือน ปีที่ 4-7 อัตราดอกเบี้ย MLR ต่อปี นอกจากนั้น “เติมคุณภาพชีวิต” สนับสนุนให้ผู้ประกอบการร้านโชห่วยและครอบครัวเข้าถึงสวัสดิการภาครัฐ สร้างความมั่นคงในชีวิต นำไปสู่สังคมอยู่ดีมีความสุข.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รับชันสูตรศพ “ผกก.โจ้” ยาก เหตุศพไม่อยู่สภาพเดิม

ผู้ช่วย ผบ.ตร. รับชันสูตรศพ ผกก.โจ้ ยาก เพราะศพไม่อยู่ในสภาพเดิม ยันดูวงจรปิดไม่พบพิรุธ ยังยิ้มแย้มทักทายผู้ต้องขัง ยกมือไหว้ผู้คุม แต่พบเลือดหยดข้างศพ และแขนซ้ายมีรอยกัดของสัตว์ขนาดเล็ก

โผล่อีก 2 ราย! เหยื่อสาวแบงก์แอบถอนเงินลูกค้า

กรณีสาวแบงก์ แอบถอนเงินลูกค้า 8 ล้านบาท สารภาพเอาไปซื้อบ้าน-รถ และส่งลูกเรียนต่างประเทศ ล่าสุด เหยื่อโผล่แจ้งความเพิ่มอีก 2 ราย วงเงิน 2 ล้าน ยอดรวมเสียหายถึง 10 ล้านบาท

ผบ.ทบ. สั่งระดมทหารช่วยเหตุเพลิงไหม้ รพ.รามาธิบดี

ผบ.ทบ. สั่งระดมทหาร พร้อมกำลังพลจิตอาสากองทัพบก เข้าช่วยอำนวยความสะดวกด้านการจราจร และอพยพผู้ป่วย จากเหตุเพลิงไหม้ รพ.รามาธิบดี

ข่าวแนะนำ

ทลายเครือข่ายเบิกงบซ่อมรถทิพย์ ทุจริตงบ กทม.

คดีการจับกุม 7 เจ้าหน้าที่กองการกีฬา สำนักวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว กรุงเทพมหานคร ที่ร่วมกันทุจริตปลอมใบเสนอราคาเบิกเงินซ่อมรถบัส ในชั้นสอบสวนได้ให้การปฏิเสธและได้รับการประกันตัวไป ขณะที่เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการขยายผลเพิ่มเติม หลังตำรวจออกมาเผยว่ามีความเกี่ยวข้องกับโครงการจัดซื้อเครื่องออกกำลังกายที่ถูกตรวจสอบไปก่อนหน้านี้

กระบะตัดหน้ารถไฟ ชนสนั่น ตาย 4 เจ็บ 6

กระบะขนคนงานจับกุ้งกุลาดำ ขับตัดหน้ารถไฟ ก่อนพุ่งชนสนั่น ตายคาที่ 4 ศพ เจ็บระนาวอีก 6 ราย ขณะที่คนขับไร้อาการบาดเจ็บ อ้างไม่ได้ยินเสียงสัญญาณเตือน ตำรวจคุมตัวตรวจพบฉี่ม่วง เจ้าตัวยอมรับเสพยาบ้า ก่อนแจ้ง 2 ข้อหาหนัก

ผลตรวจดีเอ็นเอ “ผกก.โจ้” ออกแล้ว ส่งให้ สน.ประชาชื่น

ออกแล้ว ผลตรวจผ้าขนหนู คดี “ผกก.โจ้” ไม่พบดีเอ็นเอของบุคคลอื่น เตรียมส่งผลให้พนักงานสอบสวน สน.ประชาชื่น ดำเนินการต่อ

นายกฯ อารมณ์ดีฮัมเพลง บอก “ผู้ชายคนนั้น” แฟร์ดี

นายกฯ อารมณ์ดีฮัมเพลง บอก “ผู้ชายคนนั้น” แฟร์ดี หลังฝ่ายค้านถอนชื่อ “ทักษิณ” จากญัตติซักฟอก โยนถามผู้รู้เหมาะหรือไม่หากใช้คำว่า “พ่อ” แทน ยันฝ่ายค้านขอ 30 ชม. ก็พร้อม