รางวัลทุนหมุนเวียนดีเด่น

30 มิ.ย. – “กรมบัญชีกลาง” ไม่เพียงแต่ทำหน้าที่ตาม พ.ร.บ.การบริหารทุนหมุนเวียน พ.ศ.2558 กำหนดเฉพาะด้านการกำกับ ติดตามการดำเนินงานของทุนหมุนเวียน กรมบัญชีกลางยังมีบทบาทอื่นๆ เพื่อเสริมสร้างประสิทธิภาพการทำงานทุนหมุนเวียน เพื่อให้มีผลการดำเนินงานสอดคล้องตามเป้าหมายกำหนด และเป็นเครื่องมือในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศอย่างยั่งยืน


กรมบัญชีกลาง ยังกำหนดให้มีกลไกในการยกย่อง เชิดชู ทุนหมุนเวียนที่มีผลการดำเนินงานในระดับดีเลิศในด้านต่างๆ ผ่านการมอบรางวัลทุนหมุนเวียนดีเด่นเป็นประจำทุกปี โดยที่ได้ดำเนินการต่อเนื่องตั้งแต่ปี พ.ศ. 2551 หรือเป็นเวลานานกว่า 15 ปี “คณะอนุกรรมการตัดสินรางวัลทุนหมุนเวียนดีเด่น” ได้มีหน้าที่ในการกำหนดประเภทรางวัล และหลักเกณฑ์การพิจารณาในแต่ละรางวัล ทั้งนี้ในปี 2564 ได้มีการกำหนดรางวัลทุนหมุนเวียนดีเด่นทั้งสิ้น 5 รางวัล ประกอบด้วย
(1) รางวัลเกียรติยศ มอบให้แก่ทุนหมุนเวียนที่เคยได้รับรางวัลผลการดำเนินงานดีเด่นต่อเนื่อง 3 ปี
(2) รางวัลผลการดำเนินงานดีเด่น มอบให้แก่ทุนหมุนเวียนที่มีผลการดำเนินงานดีเด่นในทุกด้านๆ เช่น ผลการดำเนินงานด้านการเงิน ผลการดำเนินงานด้านการสนองประโยชน์ต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ผลการดำเนินงานเกี่ยวกับบทบาทและภารกิจหลักของทุนหมุนเวียน ผลการดำเนินงานด้านการบริหารจัดการองค์กร เป็นต้น
(3) รางวัลพัฒนาดีเด่น มอบให้แก่ทุนหมุนเวียนที่มีผลการดำเนินงานที่มีการพัฒนาอย่างโดดเด่น ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสำคัญต่อการปฏิบัติงานอย่างมุ่งมั่นของผู้บริหารและผู้ปฏิบัติงานทุนหมุนเวียน
(4) รางวัลประสิทธิภาพด้านการบริหารจัดการดีเด่น มอบให้แก่ทุนหมุนเวียนที่มีผลการดำเนินงานด้านการบริหารจัดการองค์กรที่ดี เช่น การบริหารความเสี่ยง การบริหารจัดการสารสนเทศและดิจิทัล การบริหารทรัพยากรบุคคล เป็นต้น
(5) รางวัลผู้บริหารทุนหมุนเวียนดีเด่น มอบให้แก่ผู้บริหารทุนหมุนเวียนที่สามารถผลักดันผลการดำเนินงานของทุนหมุนเวียนให้อยู่ในระดับดีมากได้

การมอบรางวัลทุนหมุนเวียนดีเด่นเป็นแรงขับเคลื่อนที่สำคัญต่อการพัฒนาทุนหมุนเวียนให้มีประสิทธิภาพในการบริหารจัดการการดำเนินงานให้เป็นไปอย่างมีมาตรฐาน ซึ่งจะสามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจและพัฒนากลไกโดยเป็นการร่วมมือระหว่างภาครัฐ เอกชน ประชาชน และประชาสังคม รวมทั้งสนับสนุนและส่งเสริมการเข้าถึงระบบโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อผลักดันให้ประเทศไทยสู่อนาคตวิถีใหม่


เมื่อวันที่ 15 กันยายน 2565 กรมบัญชีกลางได้จัดงานมอบรางวัลทุนหมุนเวียนดีเด่น ประจำปีบัญชี 2563 และ 2564 ภายใต้ชื่อ “สานต่อนโยบายรัฐ ต่อยอดเศรษฐกิจ สู่อนาคตวิถีใหม่” ณ ห้องจูปิเตอร์ อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี

โดยคณะอนุกรรมการตัดสินรางวัลทุนหมุนเวียนดีเด่น ซึ่งประกอบด้วย ผู้เชี่ยวชาญและผู้ทรงคุณวุฒิในสาขาต่างๆ ได้กำหนดกรอบหลักเกณฑ์การพิจารณาตัดสินรางวัล และประเมินผลการดำเนินงานทุนหมุนเวียนประจำปีบัญชี 2563 และ 2564 มีทุนหมุนเวียนที่ได้รับรางวัลจำนวนทั้งสิ้น 28 รางวัล ในจำนวนนั้นมี “กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา” สามารถคว้ารางวัลได้มากที่สุดถึง 3 รางวัล ประกอบด้วย
1.รางวัลประสิทธิภาพด้านการบริหารจัดการดีเด่น ประจำปีบัญชี 2563
2.รางวัลผู้บริหารทุนหมุนเวียนดีเด่น ประจำปีบัญชี 2563
และ 3. รางวัลผลการดำเนินงานดีเด่น ประจำปีบัญชี 2564

“รางวัลที่ได้รับถือเป็นเกียรติยศ และความภาคภูมิใจของ กยศ. ที่ได้เป็นส่วนสำคัญในการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ด้วยการสร้างโอกาสทางการศึกษาให้แก่นักเรียน นักศึกษาที่ขาดแคลนทุนทรัพย์”


นายชัยณรงค์ กัจฉปานันท์ ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.)

นายชัยณรงค์ กัจฉปานันท์ ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) เปิดเผยว่า กยศ. เป็นกองทุนหมุนเวียนที่ให้โอกาสทางการศึกษา เพื่อพัฒนาทุนมนุษย์ และสร้างอนาคตให้คนไทยอย่างยั่งยืน ด้วยระบบบริหารจัดการที่ดีและทันสมัย ซึ่งรางวัลที่ได้รับถือเป็นเกียรติยศ และความภาคภูมิใจของ กยศ. ที่ได้เป็นส่วนสำคัญในการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ด้วยการสร้างโอกาสทางการศึกษาให้แก่นักเรียน นักศึกษาที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ ตลอดจนการสนับสนุนการพัฒนาทุนมนุษย์ เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดแรงงาน เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศอย่างยั่งยืน

“ครั้งแรกที่ผมรู้จักกับรางวัลทุนหมุนเวียนดีเด่น ต้องย้อนไปเมื่อปี 2560 ซึ่งเป็นปีแรกที่ผมได้รับตำแหน่งผู้จัดการ กยศ. และได้รับเชิญให้เข้าร่วมงานรางวัลทุนหมุนเวียนดีเด่นในปี พ.ศ.2560 ที่ทำเนียบรัฐบาล พอเห็นคนอื่นได้รับรางวัล ก็มีความรู้สึกว่า ทำไมเราไม่ได้ ทั้งๆ ที่ กยศ. เป็นทุนหมุนเวียนขนาดใหญ่ มีสินทรัพย์มูลค่าสูงเป็นอันดับ 3 ของกลุ่มทุนหมุนเวียน จากวันนั้นจึงเป็นแรงผลักดัน ทำให้เราได้ทบทวนว่าต้องทำอะไรบ้าง เพื่อให้การบริหารกองทุนประสบความสำเร็จ ซึ่งเป็นความร่วมแรงร่วมใจของทุกภาคส่วนจึงทำให้มีวันนี้ แม้ว่า กยศ. จะมีข่าวในเชิงลบออกมาหลายครั้ง แต่ด้วยความมุ่งมั่นของกองทุนฯ ที่จะเป็นหลักประกันให้ทุกครอบครัวว่าน้องๆ นักเรียน นักศึกษาที่ขาดแคลนสามารถกู้เงินได้ทุกคนโดยไม่มีข้อจำกัด เพื่อให้โอกาสทุกคนอย่างเท่าเทียมในการเข้าถึงการศึกษา” ผู้จัดการ กยศ. กล่าว

ผู้จัดการ กยศ. ยังกล่าวอีกว่า รางวัลทุนหมุนเวียนดีเด่น ประจำปี 2563 และ 2564 ที่ กยศ. คว้ามาได้ถึง 3 รางวัล นับเป็นความภาคภูมิใจอย่างยิ่งของชาว กยศ. เพราะเป็นการสะท้อนให้เห็นถึงพัฒนาการในการทำงานที่มีประสิทธิภาพและมีประสิทธิผล มีการบริหารจัดการการดำเนินงานให้เป็นไปอย่างมีมาตรฐาน จนสามารถผ่านตัวชี้วัด ผ่านเกณฑ์มาตรฐานต่างๆ จนนำมาซึ่งรางวัลเหล่านี้

และแม้ว่าจะมีรางวัลเป็นเครื่องยืนยันประสิทธิภาพการดำเนินงาน แต่กองทุนฯ ก็จะไม่หยุดนิ่ง มุ่งมั่นพัฒนาต่อยอดการดำเนินงานให้มีประสิทธิภาพและมีประสิทธิผลสูงสุด เพื่อช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ตลอดจนผลักดันให้ประเทศไทยสู่อนาคตวิถีใหม่

จากตัวอย่างของกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา แสดงให้เห็นว่ารางวัลทุนหมุนเวียนดีเด่น เป็นกลไกที่มีประสิทธิภาพ มีส่วนช่วยในการสร้างขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติงานแก่กรรมการบริหารทุนหมุนเวียน ผู้บริหาร ตลอดจนบุคลากรปฏิบัติงาน เพื่อร่วมปฏิบัติงานและผลักดันให้ทุนหมุนเวียนมีผลการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพ ตอบสนองประโยชน์ต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาเศรฐกิจและสังคมของประเทศไทยเติบโตให้อย่างยั่งยืน.

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

“วัดพระบาทน้ำพุ” แจงเงินวัด เข้าแล้วออกไปไหน

ลพบุรี 8 ส.ค. – หลังจากมีกระแสข่าวเกี่ยวกับวัดพระบาทน้ำพุ ก็มีเสียงสะท้อนออกมาหลายแง่มุม ขณะที่บางส่วนตั้งคำถามเกี่ยวกับเงินวัดที่มีการเปิดรับบริจาค และการดูแลผู้ป่วยเอชไอวี ว่ายังมีความจำเป็นหรือไม่.-สำนักข่าวไทย

บุกจับเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.-กำนัน ทุจริตที่ดินเอื้อนายทุน

สระบุรี 8 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” นำกำลังบุกจับเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.สระบุรี-กำนัน ร่วมกันทุจริตออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก. 600-700 ไร่ เอื้อประโยชน์นายทุนสร้างบ้านพักหรู พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พร้อมด้วย นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ที่ปรึกษาด้านกฎหมายฯ รมว.เกษตรและสหกรณ์ นำกำลังเข้าจับกุมนายวิชยุตม์ อายุ 42 ปี นายช่างสำรวจชำนาญงาน ขณะกำลังนั่งปฏิบัติหน้าที่อยู่ในห้องทำงาน ที่สำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดสระบุรี และนายสิปปกร อายุ 57 ปี กำนัน ต.หนองย่างเสือ อ.หมวกเหล็ก ตามหมายจับศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 ข้อหาเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เป็นเจ้าหน้าที่รัฐร่วมกันปฏิบัติหรือเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เป็นเจ้าพนักงานแต่กลับร่วมกันกระทำการรับรองเอกสารอันเป็นเท็จ หลังพบใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบเอื้อประโยชน์ให้กับนายทุนเข้าบุกรุกหรือครอบครองที่ป่าไม้ในพื้นที่ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้มีการตรวจสอบพบคาเฟ่ รีสอร์ตหรูแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ก่อสร้างบุกรุกผืนป่า จึงเร่งขยายตรวจสอบที่ไปที่มาของการเข้าครอบครองที่ดินดังกล่าว กระทั่งพบว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐบางส่วนใช้อำนาจหน้าที่เอื้อประโยชน์ให้กับนายทุน ด้วยการออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก.4-01 เพื่อใช้อ้างสิทธิเข้าครอบครอง […]

ยิงกำนันเล้น

ออกหมายจับ “ไอ้ ด.” มือปืนขาเป๋ ยิงถล่มกำนันเล้น ตร.ไล่ล่ากระชั้นชิด

ตรัง 8 ส.ค. – ออกหมายจับ ไอ้ ด. มือปืนขาเป๋ ยิง M16 ถล่มดับกำนันเล้น จ.ตรัง เผยปมสังหารจากคนเคยช่วยเหลือกลับขัดแย้ง-ขู่ฆ่า ผู้การตรังเผยแกะรอยเบาะแสไล่ล่าเป็นประโยชน์ ติดตามตัวแบบหายใจรดต้นคอ ลั่นต้องจับให้ได้ ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดตรังเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2568 ว่า จากกรณีคนร้ายชายในชุดดำสวมหมวกกันน็อกปิดบังใบหน้า ใช้อาวุธสงคราม M16 ยิงถล่มนายบัณฑิต รองพล หรือ กำนันเล้น อายุ 57 ปี กำนันตำบลนาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง และประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอห้วยยอด จนเสียชีวิต กระสุนเจาะประตูรถฝั่งคนขับพรุน 15 นัด ปลอกกระสุนขนาด 5.56 ตกกระจายเกลื่อน เหตุเกิดช่วงเวลาประมาณ 01.00 น. วันที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมา บริเวณหน้าบ้านของนายบัณฑิต พื้นที่หมู่ 9 ต.นาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ซึ่งเป็นช่วงระหว่างที่นายบัณฑิตเดินทางกลับจากงานเลี้ยงงานแต่งงาน […]

“บุ๋ม ปนัดดา” พร้อมชน “มาลี”

กรุงเทพฯ 8 ส.ค. – ฮือฮาและเป็นที่พูดถึงอย่างมาก สำหรับการแต่งตั้ง “ดร.บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี” นั่งโฆษก ศบ.ทก.จิตอาสา ด้าน “บุ๋ม” เปิดใจ เป็นคนชัดเจน ตรงไปตรงมา พร้อมชน “มาลี” ลั่นไม่กลัวเฟคนิวส์.-สำนักข่าวไทย