รางวัลทุนหมุนเวียนดีเด่น

30 มิ.ย. – “กรมบัญชีกลาง” ไม่เพียงแต่ทำหน้าที่ตาม พ.ร.บ.การบริหารทุนหมุนเวียน พ.ศ.2558 กำหนดเฉพาะด้านการกำกับ ติดตามการดำเนินงานของทุนหมุนเวียน กรมบัญชีกลางยังมีบทบาทอื่นๆ เพื่อเสริมสร้างประสิทธิภาพการทำงานทุนหมุนเวียน เพื่อให้มีผลการดำเนินงานสอดคล้องตามเป้าหมายกำหนด และเป็นเครื่องมือในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศอย่างยั่งยืน


กรมบัญชีกลาง ยังกำหนดให้มีกลไกในการยกย่อง เชิดชู ทุนหมุนเวียนที่มีผลการดำเนินงานในระดับดีเลิศในด้านต่างๆ ผ่านการมอบรางวัลทุนหมุนเวียนดีเด่นเป็นประจำทุกปี โดยที่ได้ดำเนินการต่อเนื่องตั้งแต่ปี พ.ศ. 2551 หรือเป็นเวลานานกว่า 15 ปี “คณะอนุกรรมการตัดสินรางวัลทุนหมุนเวียนดีเด่น” ได้มีหน้าที่ในการกำหนดประเภทรางวัล และหลักเกณฑ์การพิจารณาในแต่ละรางวัล ทั้งนี้ในปี 2564 ได้มีการกำหนดรางวัลทุนหมุนเวียนดีเด่นทั้งสิ้น 5 รางวัล ประกอบด้วย
(1) รางวัลเกียรติยศ มอบให้แก่ทุนหมุนเวียนที่เคยได้รับรางวัลผลการดำเนินงานดีเด่นต่อเนื่อง 3 ปี
(2) รางวัลผลการดำเนินงานดีเด่น มอบให้แก่ทุนหมุนเวียนที่มีผลการดำเนินงานดีเด่นในทุกด้านๆ เช่น ผลการดำเนินงานด้านการเงิน ผลการดำเนินงานด้านการสนองประโยชน์ต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ผลการดำเนินงานเกี่ยวกับบทบาทและภารกิจหลักของทุนหมุนเวียน ผลการดำเนินงานด้านการบริหารจัดการองค์กร เป็นต้น
(3) รางวัลพัฒนาดีเด่น มอบให้แก่ทุนหมุนเวียนที่มีผลการดำเนินงานที่มีการพัฒนาอย่างโดดเด่น ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสำคัญต่อการปฏิบัติงานอย่างมุ่งมั่นของผู้บริหารและผู้ปฏิบัติงานทุนหมุนเวียน
(4) รางวัลประสิทธิภาพด้านการบริหารจัดการดีเด่น มอบให้แก่ทุนหมุนเวียนที่มีผลการดำเนินงานด้านการบริหารจัดการองค์กรที่ดี เช่น การบริหารความเสี่ยง การบริหารจัดการสารสนเทศและดิจิทัล การบริหารทรัพยากรบุคคล เป็นต้น
(5) รางวัลผู้บริหารทุนหมุนเวียนดีเด่น มอบให้แก่ผู้บริหารทุนหมุนเวียนที่สามารถผลักดันผลการดำเนินงานของทุนหมุนเวียนให้อยู่ในระดับดีมากได้

การมอบรางวัลทุนหมุนเวียนดีเด่นเป็นแรงขับเคลื่อนที่สำคัญต่อการพัฒนาทุนหมุนเวียนให้มีประสิทธิภาพในการบริหารจัดการการดำเนินงานให้เป็นไปอย่างมีมาตรฐาน ซึ่งจะสามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจและพัฒนากลไกโดยเป็นการร่วมมือระหว่างภาครัฐ เอกชน ประชาชน และประชาสังคม รวมทั้งสนับสนุนและส่งเสริมการเข้าถึงระบบโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อผลักดันให้ประเทศไทยสู่อนาคตวิถีใหม่


เมื่อวันที่ 15 กันยายน 2565 กรมบัญชีกลางได้จัดงานมอบรางวัลทุนหมุนเวียนดีเด่น ประจำปีบัญชี 2563 และ 2564 ภายใต้ชื่อ “สานต่อนโยบายรัฐ ต่อยอดเศรษฐกิจ สู่อนาคตวิถีใหม่” ณ ห้องจูปิเตอร์ อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี

โดยคณะอนุกรรมการตัดสินรางวัลทุนหมุนเวียนดีเด่น ซึ่งประกอบด้วย ผู้เชี่ยวชาญและผู้ทรงคุณวุฒิในสาขาต่างๆ ได้กำหนดกรอบหลักเกณฑ์การพิจารณาตัดสินรางวัล และประเมินผลการดำเนินงานทุนหมุนเวียนประจำปีบัญชี 2563 และ 2564 มีทุนหมุนเวียนที่ได้รับรางวัลจำนวนทั้งสิ้น 28 รางวัล ในจำนวนนั้นมี “กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา” สามารถคว้ารางวัลได้มากที่สุดถึง 3 รางวัล ประกอบด้วย
1.รางวัลประสิทธิภาพด้านการบริหารจัดการดีเด่น ประจำปีบัญชี 2563
2.รางวัลผู้บริหารทุนหมุนเวียนดีเด่น ประจำปีบัญชี 2563
และ 3. รางวัลผลการดำเนินงานดีเด่น ประจำปีบัญชี 2564

“รางวัลที่ได้รับถือเป็นเกียรติยศ และความภาคภูมิใจของ กยศ. ที่ได้เป็นส่วนสำคัญในการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ด้วยการสร้างโอกาสทางการศึกษาให้แก่นักเรียน นักศึกษาที่ขาดแคลนทุนทรัพย์”


นายชัยณรงค์ กัจฉปานันท์ ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.)

นายชัยณรงค์ กัจฉปานันท์ ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) เปิดเผยว่า กยศ. เป็นกองทุนหมุนเวียนที่ให้โอกาสทางการศึกษา เพื่อพัฒนาทุนมนุษย์ และสร้างอนาคตให้คนไทยอย่างยั่งยืน ด้วยระบบบริหารจัดการที่ดีและทันสมัย ซึ่งรางวัลที่ได้รับถือเป็นเกียรติยศ และความภาคภูมิใจของ กยศ. ที่ได้เป็นส่วนสำคัญในการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ด้วยการสร้างโอกาสทางการศึกษาให้แก่นักเรียน นักศึกษาที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ ตลอดจนการสนับสนุนการพัฒนาทุนมนุษย์ เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดแรงงาน เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศอย่างยั่งยืน

“ครั้งแรกที่ผมรู้จักกับรางวัลทุนหมุนเวียนดีเด่น ต้องย้อนไปเมื่อปี 2560 ซึ่งเป็นปีแรกที่ผมได้รับตำแหน่งผู้จัดการ กยศ. และได้รับเชิญให้เข้าร่วมงานรางวัลทุนหมุนเวียนดีเด่นในปี พ.ศ.2560 ที่ทำเนียบรัฐบาล พอเห็นคนอื่นได้รับรางวัล ก็มีความรู้สึกว่า ทำไมเราไม่ได้ ทั้งๆ ที่ กยศ. เป็นทุนหมุนเวียนขนาดใหญ่ มีสินทรัพย์มูลค่าสูงเป็นอันดับ 3 ของกลุ่มทุนหมุนเวียน จากวันนั้นจึงเป็นแรงผลักดัน ทำให้เราได้ทบทวนว่าต้องทำอะไรบ้าง เพื่อให้การบริหารกองทุนประสบความสำเร็จ ซึ่งเป็นความร่วมแรงร่วมใจของทุกภาคส่วนจึงทำให้มีวันนี้ แม้ว่า กยศ. จะมีข่าวในเชิงลบออกมาหลายครั้ง แต่ด้วยความมุ่งมั่นของกองทุนฯ ที่จะเป็นหลักประกันให้ทุกครอบครัวว่าน้องๆ นักเรียน นักศึกษาที่ขาดแคลนสามารถกู้เงินได้ทุกคนโดยไม่มีข้อจำกัด เพื่อให้โอกาสทุกคนอย่างเท่าเทียมในการเข้าถึงการศึกษา” ผู้จัดการ กยศ. กล่าว

ผู้จัดการ กยศ. ยังกล่าวอีกว่า รางวัลทุนหมุนเวียนดีเด่น ประจำปี 2563 และ 2564 ที่ กยศ. คว้ามาได้ถึง 3 รางวัล นับเป็นความภาคภูมิใจอย่างยิ่งของชาว กยศ. เพราะเป็นการสะท้อนให้เห็นถึงพัฒนาการในการทำงานที่มีประสิทธิภาพและมีประสิทธิผล มีการบริหารจัดการการดำเนินงานให้เป็นไปอย่างมีมาตรฐาน จนสามารถผ่านตัวชี้วัด ผ่านเกณฑ์มาตรฐานต่างๆ จนนำมาซึ่งรางวัลเหล่านี้

และแม้ว่าจะมีรางวัลเป็นเครื่องยืนยันประสิทธิภาพการดำเนินงาน แต่กองทุนฯ ก็จะไม่หยุดนิ่ง มุ่งมั่นพัฒนาต่อยอดการดำเนินงานให้มีประสิทธิภาพและมีประสิทธิผลสูงสุด เพื่อช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ตลอดจนผลักดันให้ประเทศไทยสู่อนาคตวิถีใหม่

จากตัวอย่างของกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา แสดงให้เห็นว่ารางวัลทุนหมุนเวียนดีเด่น เป็นกลไกที่มีประสิทธิภาพ มีส่วนช่วยในการสร้างขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติงานแก่กรรมการบริหารทุนหมุนเวียน ผู้บริหาร ตลอดจนบุคลากรปฏิบัติงาน เพื่อร่วมปฏิบัติงานและผลักดันให้ทุนหมุนเวียนมีผลการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพ ตอบสนองประโยชน์ต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาเศรฐกิจและสังคมของประเทศไทยเติบโตให้อย่างยั่งยืน.

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ชัยชนะ” บอกไม่ทราบ ข่าว สส.ดังนครศรีฯ ยกพวกรุมทำร้ายผู้รับเหมา

กทม. 30 พ.ค.-“ชัยชนะ” บอกไม่ทราบ-ไม่รู้ ข่าว สส.ดัง จ.นครศรีธรรมราช ยกพวกรุมทำร้ายผู้รับเหมากลางงานบวช ยืนยันไม่เป็นความจริง นายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกระแสข่าว สส.ชื่อดัง จ.นครศรีธรรมราช ยกพวกรุมทำร้ายผู้รับเหมา กลางงานบวชลูกชายของนายก อบต. ต่อหน้าชาวบ้านนับร้อยคน โดยนายชัยชนะ ได้ปฏิเสธข่าวบอก ไม่รู้ ไม่ทราบข่าว พร้อมบอกผู้สื่อข่าวว่า ต้องไปถามที่มาของข่าว เมื่อถามว่า เป็นคนรู้จัก หรือคนใกล้ชิดหรือไม่ นายชัยชนะ ระบุว่า ตนไม่ทราบเหมือนกัน เพราะตอนนี้ยังไม่ทราบข่าวเลย ก่อนย้ำอีกครั้งว่า ต้องไปถามที่มาของข่าว เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ยืนยันว่า ไม่เป็นความจริงใช่หรือไม่ นายชัยชนะ ตอบว่า “ครับผม” เมื่อถามว่า ไม่ได้เข้าไปในพื้นที่เลยใช่หรือไม่ นายชัยชนะ ระบุว่า ตนลงพื้นที่วันละหลายงาน และเมื่อถามทิ้งท้ายว่า ไม่มีเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทใช่หรือไม่ นายชัยชนะ ยืนยันว่า “ไม่มี“.-315.-สำนักข่าวไทย

รวบพระเอกลิเกทุบหัวลูกเลี้ยงออทิสติกดับ

นครราชสีมา 30 พ.ค. – รวบแล้ว พระเอกลิเกทุบหัวลูกเลี้ยงออทิสติกเสียชีวิต และล่วงละเมิดลูกเลี้ยงผู้หญิงคนเล็กอายุ 11 ขวบ เจ้าตัวยังปากแข็ง แต่จำนนด้วยหลักฐาน ตำรวจ สภ.เมืองนครราชสีมา บุกรวบตัว นายกิติทัช อายุ 48 ปี พระเอกลิเก “ลักยิ้มทับทิมสยาม” ได้คาบ้านพักแห่งหนึ่งในพื้นที่อำเภอละหานทราย จังหวัดบุรีรัมย์ ตั้งแต่เมื่อคืนนี้ โดยขณะนี้คุมตัวอยู่ในห้องขัง สภ.เมืองนครราชสีมา ขณะจับกุมตัวผู้ต้องหากำลังเตรียมหลบหนีไปประเทศกัมพูชา เบื้องต้นแจ้งข้อหา “ฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา” และ “ข่มขืนกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 13 ปี” ขณะนี้กำลังเค้นสอบปากคำ เนื่องจากผู้ต้องหายังปากแข็ง แต่จำนวนด้วยหลักฐาน ก่อนเตรียมนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ คาดว่าเป็นช่วงบ่ายวันนี้ คดีนี้สืบเนื่องจาก น.ส.หมิว อายุ 46 ปี นางเอกลิเก พาลูกสาวอายุ 11 ปี เข้าร้องทุกข์ต่อ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี หลังลูกชายคนโต อายุ 18 ปี ซึ่งป่วยออทิสติก […]

“สมศักดิ์” วีโต้แล้ว! มติแพทยสภาให้ลงโทษ 3 หมอ คดีชั้น 14

สธ. 29 พ.ค. – “สมศักดิ์” วีโต้แล้ว! ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข เผย “สมศักดิ์” สภานายกพิเศษ ส่งคำตอบให้มติแพทยสภาให้ลงโทษ 3 แพทย์ กรณีชั้น 14 รพ.ตำรวจเมื่อวานนี้ ขออย่าใช้คำว่า วีโต้ ให้ใช้คำว่าเห็นด้วย-ไม่เห็นด้วย นายกองตรีธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการเสนอความเห็นสภานายกพิเศษเพื่อพิจารณาตามมาตรา 25 แห่งพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) วิชาชีพเวชกรรม พ.ศ.2525 ได้ยื่นรายงานความเห็นจากคณะกรรมการฯ ต่อมติแพทยสภาให้ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะสภานายกพิเศษ แพทยสภา เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคมที่ผ่านมา ล่าสุดเมื่อวานนี้ (28 พ.ค.) สภานายกพิเศษฯ ได้ทำหนังสือตอบกลับไปยังแพทยสภาแล้ว เมื่อเวลา 16.00 น. โดยที่ตนเองก็ยังไม่ทราบว่า มีเนื้อหาบ้าง แต่ขออย่าใช้คำว่า วีโต้ ขอให้ใช้คำว่ามีส่วนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย เบื้องต้นเป็นความส่งความเห็นกลับต่อมติของแพทยสภา ซึ่งมีการพิจารณาเรื่องร้องเรียนแพทย์จำนวน 4 […]

จับแล้ว! “สามีภรรยา” คนสนิทอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง

29 พ.ค.- จับแล้ว! สองสามีภรรยา คนสนิทอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง มือคุมบัญชีประมูลร้านค้างานประจำปี – ร้านค้าสวัสดิการ หลังศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ออกหมายจับ วันนี้ ( 29 พ.ค.68) เวลา 16.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปปป. สนธิกำลังร่วมเจ้าหน้าที่ กก.5 บก.ป. นำกำลังเข้าจับกุม สองสามีภรรยา คนสนิทนายแย้ม อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง หลังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง อนุมัติออกหมายจับ ในความผิดฐาน ข้อหาฟอกเงิน และ เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานที่มีหน้าที่ซื้อหรือการรักษาทรัพย์ แต่กลับเบียดบังหรือทุจริตทรัพย์นั้นมาเป็นของตน, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบและเป็นเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต” โดยสามารถจับกุมตัวทั้งสองได้ภายในค่ายลูกเสือพระพุทธศาสนา มูลนิธิหลวงพ่อวัดไร่ขิง อ.สามพราน จ.นครปฐม ก่อนควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย มาสอบปากคำยัง กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ขณะเดียวมีรายงานว่า นอกเหนือจากผู้ต้องหาทั้งสองรายนี้ พนักงานสอบสวนยังได้ขออำนาจศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง อนุมัติออกหมายจับอดีตพระลูกวัดคนสนิท ทิดแย้ม ซึ่งถูกจับกุมก่อนหน้านี้ และถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ โดย พนักงานสอบสวน เตรียมประสานไปยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพ […]

ข่าวแนะนำ

ภูมิต้านภัย : จับตาทุจริตงบซ่อม ฮ.ตำรวจ

กรุงเทพฯ 31 พ.ค. – คอลัมน์ “ภูมิต้านภัย” ตรวจสอบหาสาเหตุเฮลิคอปเตอร์สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตก 2 เหตุการณ์ในรอบ 1 เดือน หลังถูกตั้งข้อสังเกตถึงการนำ ฮ.ที่เสีย มาตั้งงบซ่อมแบบไม่ได้มาตรฐาน ทำให้นักบินต้องเสี่ยงชีวิตทุกครั้งที่ยก ฮ.ขึ้นน่านฟ้า. – สำนักข่าวไทย

นายกฯ บอกวันนี้ยังไม่มีอะไรเปลี่ยน ลั่นปรับ ครม. อะไรก็เกิดขึ้นได้

รัฐสภา 31 พ.ค.-นายกฯ บอกวันนี้ยังไม่มีอะไรเปลี่ยน ลั่นปรับ ครม. อะไรก็เกิดขึ้นได้ ส่วนโยกกระทรวงให้ถาม “ทักษิณ” คนพูด ปมดึง มท. มาดูเอง ย้ำครอบงำไม่ได้ แต่พ่อให้คำปรึกษา ลูกรับไว้พิจารณา เผยยกหูหากลางห้องประชุมแล้ว นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรีหลังที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรมีมติรับหลักการร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2569 ว่า วันนี้ยังเหมือนเดิมไม่มีอะไร ถ้าจะมีการปรับเปลี่ยนอะไร หากเป็นรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยเดี๋ยวตนจะคุยเอง เห็นเป็นกระแสข่าวออกไปหลายอย่างมาก ทำให้รัฐมนตรีทุกคนรู้สึกหวั่นไหวและท้อใจ ซึ่งตนไม่อยากให้เป็นอย่างนั้น ซึ่งตนพยายามสื่อสารในพรรคเพื่อไทยว่าอย่างไรเดี๋ยวจะคุยเอง ส่วนคำพูดของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำให้บั่นทอนจิตใจพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่นั้น นายกฯ กล่าวว่า ไม่ เมื่อสักครู่ก็นั่งอยู่ข้างๆ กันไม่ได้มีอะไร ไม่มีใครถามถึงเรื่องนี้เลย เมื่อถามว่ากระทรวงมหาดไทยทำงานไม่ดีจริงหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นั่นเป็นความคิดเห็นของนายทักษิณ แต่ตนยังไม่ได้ประเมินอะไร เดี๋ยวก็รอดู ส่วนมีการพูดคุยกับนายทักษิณ หรือไม่ว่าเหตุใดจึงให้สัมภาษณ์ นายกรัฐมนตรี ยอมรับว่า คุยกันทุกวัน หากถ่ายรูปมา เมื่อสักครู่ได้ตนก็คุยโทรศัพท์กับคุณพ่อ ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่าตอนนี้ถูกมองว่าเป็นการครอบงำพรรคเพื่อไทย นายกรัฐมนตรี […]

สภาผ่านฉลุย รับหลักการงบฯ 69 นายกฯ เชื่อยกระดับคุณภาพชีวิตคนไทย

รัฐสภา 31 พ.ค.-สภาผ่านฉลุย รับหลักการงบฯ 69 วาระแรก เสียงท่วม 322 เสียง ตั้ง กมธ. 73 คน พบ “อนุดิษฐ์” โผล่เป็น กมธ.โควตารัฐบาล ด้านนายกฯ ขอบคุณสภาฯ ยันรัฐบาลจัดลำดับความสำคัญงบฯ ตามสถานการณ์ เชื่องบประมาณที่เสนอไปจะยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนคนไทยทุกคน ตั้งใจใช้เป็นเครื่องมือสำคัญขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันสุดท้ายของการประชุมสภาผู้แทนราษฎร นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 เป็นประธานการประชุม โดยหลังจากใช้เวลากว่า 3 วัน รวม 41 ชั่วโมง ที่ประชุมมีมติรับหลักการร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 ด้วยคะแนน 322 ต่อ 158 เสียง ไม่ลงคะแนน 2 เสียง และตั้งคณะกรรมาธิการ จำนวน 73 คน ทั้งนี้ เป็นที่สังเกตว่า มีชื่อ […]

โฆษก ทบ. ยันสถานการณ์ไทย-กัมพูชา ยังไม่ถึงขั้นต้องปิดด่าน

กองทัพบก 31 พ.ค.-โฆษก ทบ. ยืนยันสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ยังไม่ถึงขั้นต้องปิดด่าน แต่ยอมรับว่า แนวทางการปิดด่านเป็นแผนส่วนหนึ่งที่หน่วยงานระดับพื้นที่อาจพิจารณาใช้ เพื่อดูแลความมั่นคงและความปลอดภัยประชาชน พลตรีวินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ระบุถึงกรณีกระแสข่าวการพิจารณาปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชาบางจุดว่า ปกติจะเป็นส่วนหนึ่งของแผน สำหรับใช้ในการบริหารจัดการต่อสถานการณ์ ที่อาจส่งผลกระทบความมั่นคง และความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน ของหน่วยงานในระดับพื้นที่ปัจจุบัน ซึ่งในขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานแต่อย่างใด ที่ผ่านมา การปิดด่านจะดำเนินการต่อเมื่อมีความจำเป็นจริง โดยในอดีตจะดำเนินการเฉพาะต่อเมื่อสถานการณ์ในพื้นที่นั้นๆ มีปัญหาที่อาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศในระดับที่น่ากังวลสูง โดยเฉพาะข่าวสารที่น่าเชื่อว่าจะมีการใช้อาวุธระยะไกล ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยต่อพี่น้องประชาชน สำหรับสถานการณ์ปัจจุบัน หากพิจารณาในภาพรวม ส่วนใหญ่มีความเรียบร้อย มีเพียงบางจุดบางพื้นที่เท่านั้นที่อาจมีปัญหาอยู่บ้าง แต่ก็ยังอยู่ในระดับที่ไม่ก่อให้เกิดความน่ากังวลมากนัก เนื่องจากทั้งสองฝ่ายได้อาศัยกลไกที่มีอยู่ในระดับพื้นที่เพื่อแก้ไขปัญหาร่วมกัน ภายใต้กรอบข้อตกลงที่ทั้งสองฝ่ายได้ยึดถือกันอยู่อย่างเคร่งครัด.-313.-สำนักข่าวไทย