กองทุนเพื่อโครงการอาหารกลางวันในโรงเรียนประถมศึกษา

29 มิ.ย. – “เด็กไทยสุขภาพดี สมวัย ก้าวไกลด้วยนวัตกรรมการจัดการอาหาร” กองทุนเพื่อโครงการอาหารกลางวันในโรงเรียนประถมศึกษา


หนึ่งใน “ทุนหมุนเวียน” ภายใต้การกำกับดูแลของระบบการบริหารทุนหมุนเวียน คือ “กองทุนเพื่อโครงการอาหารกลางวันในโรงเรียนประถมศึกษา” ซึ่งมีเป้าหมาย เด็กไทยสุขภาพดี สมวัย ก้าวไกลด้วยนวัตกรรมการจัดการอาหาร

อาหารเป็น 1 ในปัจจัยสำคัญต่อการดำรงชีวิต ไม่ว่าวัยเด็กหรือวัยผู้ใหญ่ ก็ควรได้รับอาหารตามหลักโภชนาการ เพื่อสุขภาพกาย สุขภาพจิตใจที่ดี โดยเฉพาะเด็กในวัยเรียน เพื่อให้พวกเขาเจริญเติบโต มีสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์ ทั้งทางร่างกาย จิตใจ อารมณ์ มีพัฒนาการด้านการเรียนรู้ จดจำ ทั้งยังเป็นการเสริมสร้างภูมิต้านทานโรคต่างๆ


สำหรับครอบครัวที่พอมีกำลัง เรื่องโภชนาการที่ดีของเด็กในวัยเรียน คงไม่ใช่ปัญหา แล้วเด็กกลุ่มไหนล่ะ ที่มีความเสี่ยงเรื่องนี้

ปฏิเสธไม่ได้ว่า ในมุมหนึ่งมีเด็กไทยอีกหลายคนกำลังประสบปัญหาขาดโภชนาการที่ดี แม้ว่าจะได้รับอาหารครบทั้ง 3 มื้อ แต่สารอาหารที่ได้กลับไม่เพียงพอ เมื่อคุณค่าทางโภชนาการต่ำก็ย่อมส่งผลกระทบต่อพัฒนาการและการเรียนรู้

ในสังคมไทยมีทั้งคนรวย คนที่มีฐานะปานกลาง และคนยากจน เป็นเรื่องจริงที่ไม่อาจปฏิเสธได้ ครอบครัวยากจน หรือกลุ่มเปราะบางที่รายรับไม่สมดุลกับรายจ่าย ทางเลือกการกินก็คงมีไม่มากและคงหนีไม่พ้นคำว่า “กินตามมีตามเกิด” มีอะไรก็กินอย่างนั้น ยิ่งมีการแพร่ระบาดของโควิด-19 เข้ามาซ้ำเติม ทำให้หลายครอบครัวประสบปัญหาความไม่มั่นคงด้านอาหารและความอดอยากยิ่งขึ้นไปอีก เรื่องหลักที่ต้องช่วยเหลือเร่งด่วนคือของใช้ที่จำเป็น อาหาร น้ำดื่ม และค่าเดินทาง


เมื่อสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 คลี่คลายลง ทุกโรงเรียนกลับมาเปิดการเรียนการสอนตามปกติ โครงการอาหารกลางวันของโรงเรียนจึงได้กลับมาทำหน้าที่ตัวช่วยสำคัญที่จะทำให้เด็กในวัยเรียนได้รับอาหารดีมีประโยชน์ ถูกหลักโภชนาการอย่างเต็มรูปแบบอีกครั้ง แม้จะเป็นเพียงอาหารกลางวัน 1 มื้อ แต่หากเป็นมื้อที่มีคุณภาพ ก็จะช่วยให้เด็กในวัยเรียนได้รับสารอาหารที่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย ที่จะใช้ในการเรียน พัฒนาสมอง พัฒนาร่างกาย พัฒนาสภาพจิตใจ รวมถึงช่วยให้มีแรงทำกิจกรรมในช่วงครึ่งวันบ่าย

“ความเป็นมาของกองทุนเพื่อโครงการอาหารกลางวันในโรงเรียนประถมศึกษา”
โครงการอาหารกลางวันของเด็กนักเรียนในประเทศไทย มีมาอย่างยาวนาน เพราะการส่งเสริมการเจริญเติบโตให้กับเด็กไทย เพื่อให้มีสุขภาพสมบูรณ์ตามวัยถือเป็นหน้าที่หลักของรัฐบาลที่ต้องให้ความสำคัญ และส่งเสริมให้เด็กไทยทุกคนได้รับสารอาหารที่ครบถ้วนตามหลักโภชนาการ เพื่อลดปัญหาภาวะทุพโภชนาการของเด็ก ซึ่งจะเป็นพื้นฐานในการพัฒนาด้านร่างกายและสติปัญญา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็กในวัยเรียนระดับประถมศึกษา ดังนั้นรัฐบาล จึงกำหนดให้มีการจัดโครงการอาหารกลางวันในโรงเรียนประถมศึกษาขึ้นตั้งแต่ปี 2495 เพื่อมุ่งแก้ปัญหาภาวะทุพโภชนาการในเด็ก โดยพบว่านักเรียนประถมศึกษาจำนวนมากขาดแคลนอาหารกลางวัน หรือมีอาหารกลางวันแต่ปริมาณไม่เพียงพอ หรืออาหารมีคุณค่าทางโภชนาการต่ำ ทำให้ภาวะการเจริญเติบโตไม่เป็นไปตามเกณฑ์ของกระทรวงสาธารณสุข

กระทรวงศึกษาธิการได้ทดลองจัดอาหารกลางวันแก่นักเรียนในสังกัด ซึ่งพบว่าโรงเรียนขาดงบประมาณในการดำเนินงาน ทำให้ไม่สามารถจัดอาหารกลางวันให้นักเรียนขาดแคลนได้อย่างทั่วถึง


ในปี พ.ศ.2530 สำนักงานคณะกรรมการการประถมศึกษาแห่งชาติ ได้เล็งเห็นความสำคัญของโครงการอาหารกลางวัน จึงกำหนดนโยบาย ให้โรงเรียนดำเนินโครงการอาหารกลางวันทุกโรงเรียนก่อนวันที่ 5 ธันวาคม 2530 ภายใต้คำขวัญ 60 พรรษามหาราชา เด็กประถมศึกษาไม่หิวโหย


ต่อมาในช่วงปลายปีงบประมาณ 2534 รัฐบาลเร่งรัดช่วยเหลือเด็กในระดับประถมศึกษาที่มีภาวะทุพโภชนาการ และขาดแคลนอาหารกลางวัน กำหนดให้มีกฎหมาย พระราชบัญญัติกองทุนเพื่อโครงการอาหารกลางวันในโรงเรียนประถมศึกษา พ.ศ.2535 จัดตั้งกองทุนเพื่อโครงการอาหารกลางวันในโรงเรียนประถมศึกษา วงเงิน 6,000 ล้านบาท โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นทุนหมุนเวียนและใช้จ่ายสำหรับการสนับสนุนและช่วยเหลือภาวะโภชนาการของนักเรียนในโรงเรียนประถมศึกษา และการประชาสัมพันธ์ปัญหาภาวะทุพโภชนาการของเด็ก

ในปี พ.ศ. 2542 รัฐบาลได้ตระหนักถึงความสำคัญของอาหาร ปัญหา อุปสรรคต่างๆ ที่โรงเรียนไม่สามารถดำเนินการแต่ลำพังได้ ส่งผลกระทบต่อนักเรียนขาดแคลนอีกจำนวนหนึ่งยังไม่ได้รับประทานอาหารกลางวัน คณะรัฐมนตรีจึงได้มีมติ เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2542 ให้ถือว่าการส่งเสริมให้นักเรียนทุกคนได้รับประทานอาหารกลางวันอิ่มทุกวัน เป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาล โดยเห็นชอบให้มีความร่วมมือในการส่งเสริมและสนับสนุนให้นักเรียนทุกคนได้รับประทานอาหารอิ่มทุกวัน ระหว่างกระทรวงศึกษาธิการกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และเห็นชอบให้กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข และทุกกระทรวง ทบวง กรม ให้การสนับสนุนการดำเนินงานตามโครงการ

ปีงบประมาณ 2544 กระทรวงศึกษาธิการ ได้ถ่ายโอนงบประมาณค่าอาหารกลางวัน ไปให้กระทรวงมหาดไทย ตามพระราชบัญญัติกำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2542

ในปี พ.ศ. 2551 คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้เพิ่มเงินอุดหนุนสำหรับอาหารกลางวันนักเรียนระดับประถมศึกษาเป็นวันละ 10 บาทต่อคน ในปี 2552 ให้เพิ่มเป็นวันละ 13 บาทต่อคน ปี พ.ศ. 2556 ได้ปรับเพิ่มเป็นวันละ 20 บาทต่อคน และในปี พ.ศ.2564 คณะรัฐมนตรีเห็นชอบหลักการของการปรับค่าอาหารกลางวันของนักเรียนเพิ่มอีกร้อยละ 5 เป็นวันละ 21 บาทต่อคน ตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ให้กับโรงเรียน เพื่อดำเนินงานโครงการอาหารกลางวันนักเรียนในโรงเรียนประถมศึกษาให้แก่นักเรียนตั้งแต่ชั้นอนุบาล 1 ถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6

พันธกิจกองทุนโครงการอาหารกลางวันในโรงเรียนประถมศึกษา
1.ส่งเสริม สนับสนุนให้นักเรียนในโรงเรียนประถมศึกษามีภาวะโภชนาการดี สูงดี สมส่วน
2.ส่งเสริม สนับสนุนให้นักเรียนในโรงเรียนประถมศึกษามีความรู้ด้านโภชนาการและอาหารที่ปลอดภัย
3.เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการกองทุนอย่างเป็นระบบตามหลักธรรมาภิบาล
4.เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการ ระบบสารสนเทศ สื่อสารประชาสัมพันธ์ปัญหาภาวะทุพโภชนาการ พัฒนาบุคลากร สนับสนุนการนิเทศ กำกับติดตามและประเมินผล

5.ประสานเครือข่ายความร่วมมือในการจัดการภาวะโภชนาการและสุขภาพอนามัยนักเรียน จากหน่วยงานรัฐ องค์กรปกครองท้องถิ่น ภาคเอกชนและเครือข่าย

กองทุนเพื่อโครงการอาหารกลางวันในโรงเรียนประถมศึกษา ได้นำเงินดอกผลไปใช้ในการบริหารงานโดยผ่านคณะกรรมการบริหารกองทุนเพื่อโครงการอาหารกลางวันในโรงเรียนประถมศึกษา คณะอนุกรรมการกองทุนเพื่อโครงการอาหารกลางวันในโรงเรียนประถมศึกษา และใช้จ่ายให้เป็นไปตามแผนยุทธศาสตร์และแผนปฏิบัติการประจำปี เพื่อช่วยให้นักเรียนระดับประถมศึกษาทุกคนมีอาหารกลางวันที่มีคุณภาพรับประทานทุกวัน ครบ 200 วัน ในหนึ่งปีการศึกษา จนสามารถลดปัญหาทุพโภชนาการในนักเรียนได้อย่างต่อเนื่อง

นอกจากกองทุนฯ จะมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาร่างกายของนักเรียนให้มีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง และมีน้ำหนักส่วนสูงเป็นไปตามเกณฑ์แล้ว ยังช่วยปลูกฝังนิสัยการกินที่ถูกต้องให้กับนักเรียน เพื่อให้คำนึงถึงเรื่องสุขภาพมากขึ้น

ความสำเร็จของ “กองทุนเพื่อโครงการอาหารกลางวันในโรงเรียนประถมศึกษา”
ตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมา กองทุนเพื่อโครงการอาหารกลางวันในโรงเรียนประถมศึกษา ได้ปฏิบัติภารกิจในการส่งเสริมสนับสนุนการจัดการศึกษา และเสริมสร้างสุขอนามัยแก่เด็กและเยาวชนอย่างต่อเนื่อง ดังจะเห็นได้จากนักเรียนในโรงเรียนที่กองทุนฯ ให้การสนับสนุนมีภาวะโภชนาการด้านต่างๆ ลดลง ได้แก่
1.จำนวนนักเรียนที่มีน้ำหนักต่อส่วนสูงต่ำกว่าเกณฑ์ หรือ ภาวะผอม ลดลง
2.นักเรียนที่มีส่วนสูงต่ออายุต่ำกว่าเกณฑ์ หรือ ภาวะเตี้ย ลดลง
3.นักเรียนที่มีน้ำหนักตัวต่อส่วนสูงสูงกว่าเกณฑ์ หรือ ภาวะอ้วน ลดลง

และนี่คือผลงานส่วนหนึ่งของการกำกับดูแลการบริหาร “ทุนหมุนเวียน” ให้มีประสิทธิภาพ เพื่อเป็นกลไกในการพัฒนา ส่งเสริม ทั้งด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์ และสังคม แก่เด็กตั้งแต่วัยอนุบาลไปจนถึงวัยประถมศึกษา ซึ่งเป็นช่วงวัยแห่งการพัฒนาด้านต่างๆ ของร่างกาย การส่งเสริมให้เด็กได้รับสารอาหารครบทั้ง 5 หมู่ ก็เท่ากับได้สร้างชีวิตที่สมบูรณ์ที่จะเติบโตเป็นทรัพยากรที่มีคุณภาพในสังคมต่อไป ดังนั้น โภชนาการที่ดี คือรากฐานของการเจริญเติบโตของผู้ที่จะเป็นอนาคตของชาติ.

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ไฟไหม้รถยนต์ อดีต สส.ศิริโชค วอดทั้งคัน

สงขลา 5 ก.ค.-“ศิริโชค” อดีต สส.ปชป. เผยเหตุระทึก รถยนต์ PHEV ไฟลุกไหม้วอดทั้งคันกลางดึก ทั้งที่ไม่ได้ชาร์จ ภาพคลิปเหตุการณ์ไฟไหม้รถยนต์ส่วนตัวของนายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งจอดอยู่บริเวณบ้านพักที่ อ.นาทวี จ.สงขลา ช่วงตี 3 เมื่อเช้ามืดที่ผ่านมา (5 ก.ค.68) โดยเพจเฟซบุ๊ก “ศิริโชค โสภา” ได้โพสต์คลิปเหตุการณ์ พร้อมระบุข้อความว่า “อุทาหรณ์สยอง! ผมตื่นมากับเปลวเพลิงกลางดึก-ไฟลุกท่วมรถ PHEV ทั้งคัน ทั้งที่ไม่ได้ชาร์จ! เช้ามืดวันนี้ ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาพร้อมเสียง “ปะทุ” ดังสนั่นกลางความเงียบของตีสาม…เมื่อรีบวิ่งออกมาดู สิ่งที่ผมเห็นคือเปลวไฟสีส้มแดงกำลังลุกโชนอย่างบ้าคลั่งจากรถยนต์ PHEV ที่จอดนิ่งหน้าบ้าน ตอนนั้นผมไม่ได้เสียบชาร์จไว้ด้วยซ้ำ-จอดไว้เฉยๆ แต่จู่ๆ ไฟกลับลุกขึ้นมาเอง โดยไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้าแม้แต่นิดเดียว รถดับเพลิงต้องใช้เวลาหลายนาทีกว่าจะควบคุมเพลิงได้ และเมื่อไฟดับลง… สิ่งที่เหลืออยู่คือซากรถที่ไหม้เกรียมทั้งคันนี่ไม่ใช่แค่ความเสียหาย แต่คือคำเตือนที่น่ากลัวสำหรับผู้ใช้รถ EV และ PHEVแม้ไม่ได้ชาร์จ แม้จอดนิ่ง แบตเตอรี่ก็ยังมีโอกาสลุกไหม้ได้เองโดยไม่ทันตั้งตัว ไฟฟ้าเงียบ-แต่มันเผาผลาญทุกอย่างได้ในพริบตา ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ […]

ตาขับรถทับศีรษะหลานวัย 1 ขวบ ดับสลด

สุราษฎร์ธานี 5 ก.ค. – สุดสลด ตาขับรถกระบะไม่ทันดู เหยียบศีรษะหลานสาว วัย 1 ขวบ 5 เดือนเสียชีวิตคาที่ ตายายร้องไห้แทบขาดใจ สุดสลด ตาขับรถกระบะไม่ทันดู เหยียบศีรษะหลานสาว วัย 1 ขวบ 5 เดือนเสียชีวิตคาที่ หลังจากที่ตากลับจากซื้อของที่ตลาด เมื่อมาถึงบ้านซึ่งเปิดเป็นร้านขายของชำในอำเภอพระแสง จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ขนของลงจากรถเสร็จ ระหว่างจะนำรถไปจอดไม่ทันสังเกตว่าหลานวิ่งอ้อมรถมา รู้อีกทีล้อรถหน้าด้านคนขับเหยียบเข้าที่ศีรษะของหลานแล้ว ทำให้หลานเสียชีวิตทันที เมื่อเห็นร่างหลาน ตาและยายร้องไห้แทบขาดใจ เพราะเลี้ยงหลานคนนี้มาตั้งแต่เล็กๆ ก่อนนำร่างส่งชันสูตรที่โรงพยาบาลพระแสงต่อไป.- สำนักข่าวไทย

อ.อ๊อด ชี้เป็นเหตุการณ์ที่ไม่ปกติ กรณีรถยนต์ไฟฟ้า อดีตสส.สงขลา ไฟไหม้

นครปฐม 5 ก.ค. – อาจารย์อ๊อด นักวิชาการสาขาเคมีอินทรีย์ แสดงความคิดเห็นว่า กรณีรถยนต์ไฟฟ้าของนายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา เกิดไฟไหม้ ถือเป็นเหตุการณ์ไม่ปกติ และแบตเตอรี่อาจจะมีปัญหา จากกรณีเพจเฟซบุ๊ก Sirichok Sopha หรือ นายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ แชร์ประสบการณ์ โดยระบุข้อความว่า “เช้ามืดวันนี้ ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาพร้อมเสียง “ปะทุ” ดังสนั่นกลางความเงียบของตีสาม…เมื่อรีบวิ่งออกมาดู สิ่งที่ผมเห็นคือเปลวไฟสีส้มแดงกำลังลุกโชนอย่างบ้าคลั่งจากรถยนต์ PHEV ที่จอดนิ่งหน้าบ้าน รถคันนี้ซื้อจากศูนย์หาดใหญ่เมื่อ 2 ปีก่อน ผมใช้งานตามปกติ และที่สำคัญคือ ตอนนั้นผมไม่ได้เสียบชาร์จไว้ด้วยซ้ำ-จอดไว้เฉยๆแต่จู่ๆ ไฟกลับลุกขึ้นมาเอง โดยไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้าแม้แต่นิดเดียวรถดับเพลิงต้องใช้เวลาหลายนาทีกว่าจะควบคุมเพลิงได้ และเมื่อไฟดับลง… สิ่งที่เหลืออยู่คือ ซากรถที่ไหม้เกรียมทั้งคันนี่ไม่ใช่แค่ความเสียหาย แต่คือคำเตือนที่น่ากลัวสำหรับผู้ใช้รถ EV และ PHEVแม้ไม่ได้ชาร์จ แม้จอดนิ่ง แบตเตอรี่ก็ยังมีโอกาสลุกไหม้ได้เองโดยไม่ทันตั้งตัวไฟฟ้าเงียบ-แต่มันเผาผลาญทุกอย่างได้ในพริบตา” รศ.ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ หรือ อาจารย์อ๊อด นักวิชาการสาขาเคมีอินทรีย์ ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายนวัตกรรมและกิจการเพื่อสังคม […]

สพฐ. จัดทีมนิติกรช่วยครูการเงิน

กทม. 5 ก.ค.-สพฐ. จัดทีมนิติกรช่วยครูการเงิน กรณีถูกชี้มูลร่วมลงชื่อเบิกจ่ายค่าอาหารกลางวัน วันที่ 4 กรกฎาคม 2568 ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เปิดเผยว่า ตามที่มีรายงานข่าวผ่านสื่อสังคมออนไลน์ กรณีข้าราชการครูผู้รับผิดชอบงานการเงินของโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดกาญจนบุรี ได้ร้องขอความเป็นธรรมภายหลังถูกชี้มูลความผิดร่วมกับอดีตผู้อำนวยการโรงเรียน จากการลงนามในเอกสารเบิกจ่ายค่าอาหารกลางวัน โดยยืนยันว่าไม่ได้มีส่วนร่วมในการกระทำความผิดนั้น สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงร่วมกับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาต้นสังกัด และยืนยันว่า ขณะนี้ยังไม่มีคำสั่งลงโทษทางวินัยออกโดยเขตพื้นที่ฯ แต่อย่างใด สำหรับการดำเนินการในขั้นต่อไป สพฐ. ได้จัดเตรียมนิติกรจากส่วนกลาง เพื่อสนับสนุนการให้คำปรึกษาทางกฎหมายและการรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ครูสามารถใช้สิทธิในการอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (คณะกรรมการ ป.ป.ช.) ตามมาตรา 99 แห่งพระราชบัญญัติ ป.ป.ช. พ.ศ. 2561 ได้อย่างเต็มที่ เลขาธิการ กพฐ. ระบุว่า กรณีนี้สะท้อนถึงความจำเป็นที่ต้องทบทวนบทบาทภาระงานของครูในภารกิจที่ไม่เกี่ยวข้องกับการจัดการเรียนการสอน โดยเฉพาะงานด้านการเงินและพัสดุ ซึ่งมีความซับซ้อนและมีความเสี่ยงเชิงกฎหมายสูง สพฐ. จึงอยู่ระหว่างการปรับปรุงระบบสนับสนุนภายในโรงเรียน เพื่อให้โครงสร้างงานสนับสนุนมีความเหมาะสมกับวิชาชีพครูมากยิ่งขึ้น “ข้าราชการครูที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความสุจริตจะไม่ต้องเผชิญกระบวนการตามลำพัง สพฐ. พร้อมอยู่เคียงข้างและสนับสนุนในทุกขั้นตอน เพื่อให้สามารถใช้สิทธิและเข้าถึงความเป็นธรรมได้อย่างมั่นใจครับ” เลขาธิการ กพฐ. กล่าว.-416.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ไทยยื่นหนังสือถึงสหประชาชาติปมชายแดนไทย-กัมพูชาเช่นกัน

5 ก.ค. – โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ชี้แจงไทยยื่นหนังสือถึงสหประชาชาติเรื่องปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชาเช่นกัน เพื่อชี้แจงท่าทีของประเทศไทย ตามที่มีการสอบถามจากสื่อต่าง ๆ เรื่องในสื่อออนไลน์ เกี่ยวกับหนังสือของเอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรกัมพูชา ณ นครนิวยอร์ก ถึงเลขาธิการสหประชาชาติต้องการจะฟ้องร้องประเด็นชายแดนระหว่างไทยกับกัมพูชาต่อ ICJ หรือศาลยุติธรรมระหว่างประเทศนั้น นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ชี้แจงว่า

ปลัด อบต. ถูกหลอกลงทุน สูญ 4 ล้าน

บุรีรัมย์ 5 ก.ค. – ปลัด อบต.สาวชาว ถูกมิจฉาชีพอ้างเป็นหมอเกษียณ ทักมาจีบ แล้วหลอกร่วมลงทุนอ้างผลตอบแทนสูง หลงเชื่อสูญ 4 ล้าน นำที่ดินไปจำนอง รถเข้าไฟแนนซ์ นส.ปลา ปลัด อบต.สาว แห่งหนึ่ง ในจังหวัดศรีสะเกษ นำข้อความแชตสนทนาและรูปโปร์ไฟล์ของชายคนหนึ่งอ้างตัวเป็นแพทย์ รพ.ชื่อดัง ชื่อ เจ ซึ่งปัจจุบันเกษียณอายุราชการแล้วออกมาร้องสื่อมวลชน ในจังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อขอความช่วยเหลือโดยอ้างว่า ถูก นายแพทย์คนดังกล่าวหลอกลวง ด้วยวิธีการทักเฟซบุ๊กมาจีบ เมื่อ 21 พ.ย.67 ก่อนจะขอแอดไลน์ระหว่างนั้นมีการพูดคุยวิดีโอคอนสานสัมพันธ์กัน ผ่านไปไม่นานก็หลอกล่อให้ร่วมลงทุนผ่านแอปฯ อ้างว่าจะได้ผลตอบแทนสูงยิ่งลงทุนมากยิ่งผลตอบแทนมาก จนหลงเชื่อร่วมลงทุน     ครั้งแรก หมอเจ ชักชวนให้ลองลงทุน เป็นเงิน 50,000 บาท มีการเติมเงินเข้าระบบ และลองเล่นที่ห้องที่ 1 ตามที่หมอเจแนะนำ จนเสร็จสิ้นขั้นตอนการเล่น ปรากฏว่าได้ผลตอนแทน เป็นเงิน 54,000 บาทจริง ต่อมาหมอเจ ก็โน้มน้าวต่อ หากอยากเล่นแบบมีรายได้เยอะกว่านี้ ก็ให้เติมเงินเข้าระบบไปเล่นที่ห้อง 2-10 ตนเห็นว่าครั้งแรกได้เงินจริง […]

ไฟไหม้รถยนต์ อดีต สส.ศิริโชค วอดทั้งคัน

สงขลา 5 ก.ค.-“ศิริโชค” อดีต สส.ปชป. เผยเหตุระทึก รถยนต์ PHEV ไฟลุกไหม้วอดทั้งคันกลางดึก ทั้งที่ไม่ได้ชาร์จ ภาพคลิปเหตุการณ์ไฟไหม้รถยนต์ส่วนตัวของนายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งจอดอยู่บริเวณบ้านพักที่ อ.นาทวี จ.สงขลา ช่วงตี 3 เมื่อเช้ามืดที่ผ่านมา (5 ก.ค.68) โดยเพจเฟซบุ๊ก “ศิริโชค โสภา” ได้โพสต์คลิปเหตุการณ์ พร้อมระบุข้อความว่า “อุทาหรณ์สยอง! ผมตื่นมากับเปลวเพลิงกลางดึก-ไฟลุกท่วมรถ PHEV ทั้งคัน ทั้งที่ไม่ได้ชาร์จ! เช้ามืดวันนี้ ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาพร้อมเสียง “ปะทุ” ดังสนั่นกลางความเงียบของตีสาม…เมื่อรีบวิ่งออกมาดู สิ่งที่ผมเห็นคือเปลวไฟสีส้มแดงกำลังลุกโชนอย่างบ้าคลั่งจากรถยนต์ PHEV ที่จอดนิ่งหน้าบ้าน ตอนนั้นผมไม่ได้เสียบชาร์จไว้ด้วยซ้ำ-จอดไว้เฉยๆ แต่จู่ๆ ไฟกลับลุกขึ้นมาเอง โดยไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้าแม้แต่นิดเดียว รถดับเพลิงต้องใช้เวลาหลายนาทีกว่าจะควบคุมเพลิงได้ และเมื่อไฟดับลง… สิ่งที่เหลืออยู่คือซากรถที่ไหม้เกรียมทั้งคันนี่ไม่ใช่แค่ความเสียหาย แต่คือคำเตือนที่น่ากลัวสำหรับผู้ใช้รถ EV และ PHEVแม้ไม่ได้ชาร์จ แม้จอดนิ่ง แบตเตอรี่ก็ยังมีโอกาสลุกไหม้ได้เองโดยไม่ทันตั้งตัว ไฟฟ้าเงียบ-แต่มันเผาผลาญทุกอย่างได้ในพริบตา ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ […]

เด้ง 5 เสือ สน.บางเขน เซ่นจับบ่อนสะพานใหม่

กทม. 5 ก.ค. – สั่งเด้ง 5 เสือ สน.บางเขน เซ่นจับบ่อนสะพานใหม่ ขณะที่เช้านี้เจ้าหน้าที่คุมตัว 72 นักพนัน ไปฝากขังศาลแขวงดอนเมือง พบส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.เสกสิทธิ์ สุภาอ้วน รอง ผบก.น.2 รรท.ผบก.น.2 ลงนามในคำสั่ง กองบังคับการตำรวจนครบาล 2 ที่ 183/2568 เรื่อง ให้ข้าราชการตำรวจปฏิบัติราชการ และแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีเมื่อวันที่ 4 ก.ค.68 เวลาประมาณ 14.00 น. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้เข้าทำการสืบสวนสถานที่ต้องสงสัย ซึ่งคาดว่าเป็นบ่อนการพนัน บริเวณอาคารพาณิชย์ กลางซอยพหลโยธิน 52 แยก 3 แขวงคลงถนน เขตสายไหม กรุงเทพมหานคร และได้จับกุมผู้ต้องหากับพวกในข้อหา “ร่วมกันเป็นผู้จัดให้มีการเล่นการพนันไฮโล เพื่อพนันเอาทรัพย์สินกัน โดยไม่ได้รับอนุญาต”และ “ร่วมกันเข้าเล่นหรือเล่นการพนันโฮโลเพื่อพนันเอาทรัพย์สินกันโดยไม่ได้รับอนุญาต” ซึ่งเหตุดังกล่าวเป็นเขตพื้นที่รับผิดชอบของสน.บางเขน เพื่อให้การบริหารงานในภาพรวมของ กองบังคับการตำรวจนครบาล 2 เป็นไปอย่างต่อเนื่อง และเรียบร้อย […]