กองทุนเพื่อโครงการอาหารกลางวันในโรงเรียนประถมศึกษา

29 มิ.ย. – “เด็กไทยสุขภาพดี สมวัย ก้าวไกลด้วยนวัตกรรมการจัดการอาหาร” กองทุนเพื่อโครงการอาหารกลางวันในโรงเรียนประถมศึกษา


หนึ่งใน “ทุนหมุนเวียน” ภายใต้การกำกับดูแลของระบบการบริหารทุนหมุนเวียน คือ “กองทุนเพื่อโครงการอาหารกลางวันในโรงเรียนประถมศึกษา” ซึ่งมีเป้าหมาย เด็กไทยสุขภาพดี สมวัย ก้าวไกลด้วยนวัตกรรมการจัดการอาหาร

อาหารเป็น 1 ในปัจจัยสำคัญต่อการดำรงชีวิต ไม่ว่าวัยเด็กหรือวัยผู้ใหญ่ ก็ควรได้รับอาหารตามหลักโภชนาการ เพื่อสุขภาพกาย สุขภาพจิตใจที่ดี โดยเฉพาะเด็กในวัยเรียน เพื่อให้พวกเขาเจริญเติบโต มีสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์ ทั้งทางร่างกาย จิตใจ อารมณ์ มีพัฒนาการด้านการเรียนรู้ จดจำ ทั้งยังเป็นการเสริมสร้างภูมิต้านทานโรคต่างๆ


สำหรับครอบครัวที่พอมีกำลัง เรื่องโภชนาการที่ดีของเด็กในวัยเรียน คงไม่ใช่ปัญหา แล้วเด็กกลุ่มไหนล่ะ ที่มีความเสี่ยงเรื่องนี้

ปฏิเสธไม่ได้ว่า ในมุมหนึ่งมีเด็กไทยอีกหลายคนกำลังประสบปัญหาขาดโภชนาการที่ดี แม้ว่าจะได้รับอาหารครบทั้ง 3 มื้อ แต่สารอาหารที่ได้กลับไม่เพียงพอ เมื่อคุณค่าทางโภชนาการต่ำก็ย่อมส่งผลกระทบต่อพัฒนาการและการเรียนรู้

ในสังคมไทยมีทั้งคนรวย คนที่มีฐานะปานกลาง และคนยากจน เป็นเรื่องจริงที่ไม่อาจปฏิเสธได้ ครอบครัวยากจน หรือกลุ่มเปราะบางที่รายรับไม่สมดุลกับรายจ่าย ทางเลือกการกินก็คงมีไม่มากและคงหนีไม่พ้นคำว่า “กินตามมีตามเกิด” มีอะไรก็กินอย่างนั้น ยิ่งมีการแพร่ระบาดของโควิด-19 เข้ามาซ้ำเติม ทำให้หลายครอบครัวประสบปัญหาความไม่มั่นคงด้านอาหารและความอดอยากยิ่งขึ้นไปอีก เรื่องหลักที่ต้องช่วยเหลือเร่งด่วนคือของใช้ที่จำเป็น อาหาร น้ำดื่ม และค่าเดินทาง


เมื่อสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 คลี่คลายลง ทุกโรงเรียนกลับมาเปิดการเรียนการสอนตามปกติ โครงการอาหารกลางวันของโรงเรียนจึงได้กลับมาทำหน้าที่ตัวช่วยสำคัญที่จะทำให้เด็กในวัยเรียนได้รับอาหารดีมีประโยชน์ ถูกหลักโภชนาการอย่างเต็มรูปแบบอีกครั้ง แม้จะเป็นเพียงอาหารกลางวัน 1 มื้อ แต่หากเป็นมื้อที่มีคุณภาพ ก็จะช่วยให้เด็กในวัยเรียนได้รับสารอาหารที่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย ที่จะใช้ในการเรียน พัฒนาสมอง พัฒนาร่างกาย พัฒนาสภาพจิตใจ รวมถึงช่วยให้มีแรงทำกิจกรรมในช่วงครึ่งวันบ่าย

“ความเป็นมาของกองทุนเพื่อโครงการอาหารกลางวันในโรงเรียนประถมศึกษา”
โครงการอาหารกลางวันของเด็กนักเรียนในประเทศไทย มีมาอย่างยาวนาน เพราะการส่งเสริมการเจริญเติบโตให้กับเด็กไทย เพื่อให้มีสุขภาพสมบูรณ์ตามวัยถือเป็นหน้าที่หลักของรัฐบาลที่ต้องให้ความสำคัญ และส่งเสริมให้เด็กไทยทุกคนได้รับสารอาหารที่ครบถ้วนตามหลักโภชนาการ เพื่อลดปัญหาภาวะทุพโภชนาการของเด็ก ซึ่งจะเป็นพื้นฐานในการพัฒนาด้านร่างกายและสติปัญญา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็กในวัยเรียนระดับประถมศึกษา ดังนั้นรัฐบาล จึงกำหนดให้มีการจัดโครงการอาหารกลางวันในโรงเรียนประถมศึกษาขึ้นตั้งแต่ปี 2495 เพื่อมุ่งแก้ปัญหาภาวะทุพโภชนาการในเด็ก โดยพบว่านักเรียนประถมศึกษาจำนวนมากขาดแคลนอาหารกลางวัน หรือมีอาหารกลางวันแต่ปริมาณไม่เพียงพอ หรืออาหารมีคุณค่าทางโภชนาการต่ำ ทำให้ภาวะการเจริญเติบโตไม่เป็นไปตามเกณฑ์ของกระทรวงสาธารณสุข

กระทรวงศึกษาธิการได้ทดลองจัดอาหารกลางวันแก่นักเรียนในสังกัด ซึ่งพบว่าโรงเรียนขาดงบประมาณในการดำเนินงาน ทำให้ไม่สามารถจัดอาหารกลางวันให้นักเรียนขาดแคลนได้อย่างทั่วถึง


ในปี พ.ศ.2530 สำนักงานคณะกรรมการการประถมศึกษาแห่งชาติ ได้เล็งเห็นความสำคัญของโครงการอาหารกลางวัน จึงกำหนดนโยบาย ให้โรงเรียนดำเนินโครงการอาหารกลางวันทุกโรงเรียนก่อนวันที่ 5 ธันวาคม 2530 ภายใต้คำขวัญ 60 พรรษามหาราชา เด็กประถมศึกษาไม่หิวโหย


ต่อมาในช่วงปลายปีงบประมาณ 2534 รัฐบาลเร่งรัดช่วยเหลือเด็กในระดับประถมศึกษาที่มีภาวะทุพโภชนาการ และขาดแคลนอาหารกลางวัน กำหนดให้มีกฎหมาย พระราชบัญญัติกองทุนเพื่อโครงการอาหารกลางวันในโรงเรียนประถมศึกษา พ.ศ.2535 จัดตั้งกองทุนเพื่อโครงการอาหารกลางวันในโรงเรียนประถมศึกษา วงเงิน 6,000 ล้านบาท โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นทุนหมุนเวียนและใช้จ่ายสำหรับการสนับสนุนและช่วยเหลือภาวะโภชนาการของนักเรียนในโรงเรียนประถมศึกษา และการประชาสัมพันธ์ปัญหาภาวะทุพโภชนาการของเด็ก

ในปี พ.ศ. 2542 รัฐบาลได้ตระหนักถึงความสำคัญของอาหาร ปัญหา อุปสรรคต่างๆ ที่โรงเรียนไม่สามารถดำเนินการแต่ลำพังได้ ส่งผลกระทบต่อนักเรียนขาดแคลนอีกจำนวนหนึ่งยังไม่ได้รับประทานอาหารกลางวัน คณะรัฐมนตรีจึงได้มีมติ เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2542 ให้ถือว่าการส่งเสริมให้นักเรียนทุกคนได้รับประทานอาหารกลางวันอิ่มทุกวัน เป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาล โดยเห็นชอบให้มีความร่วมมือในการส่งเสริมและสนับสนุนให้นักเรียนทุกคนได้รับประทานอาหารอิ่มทุกวัน ระหว่างกระทรวงศึกษาธิการกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และเห็นชอบให้กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข และทุกกระทรวง ทบวง กรม ให้การสนับสนุนการดำเนินงานตามโครงการ

ปีงบประมาณ 2544 กระทรวงศึกษาธิการ ได้ถ่ายโอนงบประมาณค่าอาหารกลางวัน ไปให้กระทรวงมหาดไทย ตามพระราชบัญญัติกำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2542

ในปี พ.ศ. 2551 คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้เพิ่มเงินอุดหนุนสำหรับอาหารกลางวันนักเรียนระดับประถมศึกษาเป็นวันละ 10 บาทต่อคน ในปี 2552 ให้เพิ่มเป็นวันละ 13 บาทต่อคน ปี พ.ศ. 2556 ได้ปรับเพิ่มเป็นวันละ 20 บาทต่อคน และในปี พ.ศ.2564 คณะรัฐมนตรีเห็นชอบหลักการของการปรับค่าอาหารกลางวันของนักเรียนเพิ่มอีกร้อยละ 5 เป็นวันละ 21 บาทต่อคน ตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ให้กับโรงเรียน เพื่อดำเนินงานโครงการอาหารกลางวันนักเรียนในโรงเรียนประถมศึกษาให้แก่นักเรียนตั้งแต่ชั้นอนุบาล 1 ถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6

พันธกิจกองทุนโครงการอาหารกลางวันในโรงเรียนประถมศึกษา
1.ส่งเสริม สนับสนุนให้นักเรียนในโรงเรียนประถมศึกษามีภาวะโภชนาการดี สูงดี สมส่วน
2.ส่งเสริม สนับสนุนให้นักเรียนในโรงเรียนประถมศึกษามีความรู้ด้านโภชนาการและอาหารที่ปลอดภัย
3.เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการกองทุนอย่างเป็นระบบตามหลักธรรมาภิบาล
4.เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการ ระบบสารสนเทศ สื่อสารประชาสัมพันธ์ปัญหาภาวะทุพโภชนาการ พัฒนาบุคลากร สนับสนุนการนิเทศ กำกับติดตามและประเมินผล

5.ประสานเครือข่ายความร่วมมือในการจัดการภาวะโภชนาการและสุขภาพอนามัยนักเรียน จากหน่วยงานรัฐ องค์กรปกครองท้องถิ่น ภาคเอกชนและเครือข่าย

กองทุนเพื่อโครงการอาหารกลางวันในโรงเรียนประถมศึกษา ได้นำเงินดอกผลไปใช้ในการบริหารงานโดยผ่านคณะกรรมการบริหารกองทุนเพื่อโครงการอาหารกลางวันในโรงเรียนประถมศึกษา คณะอนุกรรมการกองทุนเพื่อโครงการอาหารกลางวันในโรงเรียนประถมศึกษา และใช้จ่ายให้เป็นไปตามแผนยุทธศาสตร์และแผนปฏิบัติการประจำปี เพื่อช่วยให้นักเรียนระดับประถมศึกษาทุกคนมีอาหารกลางวันที่มีคุณภาพรับประทานทุกวัน ครบ 200 วัน ในหนึ่งปีการศึกษา จนสามารถลดปัญหาทุพโภชนาการในนักเรียนได้อย่างต่อเนื่อง

นอกจากกองทุนฯ จะมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาร่างกายของนักเรียนให้มีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง และมีน้ำหนักส่วนสูงเป็นไปตามเกณฑ์แล้ว ยังช่วยปลูกฝังนิสัยการกินที่ถูกต้องให้กับนักเรียน เพื่อให้คำนึงถึงเรื่องสุขภาพมากขึ้น

ความสำเร็จของ “กองทุนเพื่อโครงการอาหารกลางวันในโรงเรียนประถมศึกษา”
ตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมา กองทุนเพื่อโครงการอาหารกลางวันในโรงเรียนประถมศึกษา ได้ปฏิบัติภารกิจในการส่งเสริมสนับสนุนการจัดการศึกษา และเสริมสร้างสุขอนามัยแก่เด็กและเยาวชนอย่างต่อเนื่อง ดังจะเห็นได้จากนักเรียนในโรงเรียนที่กองทุนฯ ให้การสนับสนุนมีภาวะโภชนาการด้านต่างๆ ลดลง ได้แก่
1.จำนวนนักเรียนที่มีน้ำหนักต่อส่วนสูงต่ำกว่าเกณฑ์ หรือ ภาวะผอม ลดลง
2.นักเรียนที่มีส่วนสูงต่ออายุต่ำกว่าเกณฑ์ หรือ ภาวะเตี้ย ลดลง
3.นักเรียนที่มีน้ำหนักตัวต่อส่วนสูงสูงกว่าเกณฑ์ หรือ ภาวะอ้วน ลดลง

และนี่คือผลงานส่วนหนึ่งของการกำกับดูแลการบริหาร “ทุนหมุนเวียน” ให้มีประสิทธิภาพ เพื่อเป็นกลไกในการพัฒนา ส่งเสริม ทั้งด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์ และสังคม แก่เด็กตั้งแต่วัยอนุบาลไปจนถึงวัยประถมศึกษา ซึ่งเป็นช่วงวัยแห่งการพัฒนาด้านต่างๆ ของร่างกาย การส่งเสริมให้เด็กได้รับสารอาหารครบทั้ง 5 หมู่ ก็เท่ากับได้สร้างชีวิตที่สมบูรณ์ที่จะเติบโตเป็นทรัพยากรที่มีคุณภาพในสังคมต่อไป ดังนั้น โภชนาการที่ดี คือรากฐานของการเจริญเติบโตของผู้ที่จะเป็นอนาคตของชาติ.

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

อดีตครูจำใจสร้างห้องขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา

สลด! อดีตครูวัย 64 ปี จำใจจ้างช่างทำห้องคล้ายกรงขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา-พนันออนไลน์ หลังส่งตัวบำบัดกว่า 10 ครั้ง แต่ออกมาก็เหมือนเดิม

หนุ่มใหญ่ควบเก๋งเผลอเหยียบผิดพุ่งทะลุกำแพงอาคารจอดรถดิ่งตกจากชั้น 2

หนุ่มใหญ่ควบเก๋งเผลอเหยียบผิดพุ่งทะลุกำแพงอาคารจอดรถดิ่งตกจากชั้น 2 โชคดีบาดเจ็บเล็กน้อย เจ้าหน้าที่ส่งรักษาตัวที่ รพ.เจ้าพระยา

อาม่าแจ้งความ “หมอดูฮวงจุ้ยชื่อดัง” หลอกทำพิธีสูญ 60 ล้าน

อาม่าวัย 77 ปี โร่แจ้งความเอาผิด “หมอดูฮวงจุ้ยชื่อดัง” หลอกทำพิธี-แนะซื้อวัตถุมงคลแล้วไม่ได้รับของ สูญเงินกว่า 60 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

ทนายตั้ม

“ทนายตั้ม” ปรากฏตัวแล้ว บอกไม่สบายใจมี ตร.เฝ้าหน้าบ้าน

ปรากฏตัวแล้ว “ทนายตั้ม” พบตำรวจเหตุมีเจ้าหน้าที่ไปเฝ้าที่บ้าน พร้อมแจงปมเงิน 39 ล้านบาท ค่าศิลปินจีน ที่แท้เป็นมิจฉาชีพหลอก “เจ๊อ้อย” ปฏิเสธพบคู่กรณี บอกยังไม่พร้อมคุย

เกาะกูด

“ภูมิธรรม” ย้ำจะรักษาผลประโยชน์ทางทะเลของไทยไว้เท่าชีวิต

“ภูมิธรรม” มอง MOU44 คือกลไกที่ดีที่สุด ก่อนย้อนกลุ่มการเมือง พปชร.ไปถามหัวหน้าพรรคตัวเอง เพราะเป็นคนนำเจรจาในปี 57 ยันไม่เคยยกเลิกในสมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์ ย้ำรัฐบาลจะรักษาดินแดน-ผลประโยชน์ทางทะเลของไทยไว้เท่าชีวิต

US election

ทรัมป์-แฮร์ริส หาเสียงวันสุดท้าย ก่อนหย่อนบัตรวันนี้

ขณะนี้เหลือไม่ถึง 24 ชั่วโมงก็จะถึงวันเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ 5 พฤศจิกายน ผลสำรวจความเห็นประชาชนต่างชี้ว่านายโดนัลด์ ทรัมป์ และนางคอมมาลา แฮร์ริส