พัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เชื่อมไทย เชื่อมโลก ด้วย “เงินทุนค่าธรรมเนียมผ่านทาง”

24 มิ.ย. – หนึ่งใน “ทุนหมุนเวียน” ภายใต้การกำกับดูแลของระบบการบริหารทุนหมุนเวียนกลุ่มประเภทเพื่อการบริการ มีภารกิจ “พัฒนาโครงข่าย เชื่อมโยงระบบขนส่งสู่ภูมิภาค สร้างความประทับใจ สะดวก ปลอดภัย ด้วยนวัตกรรม” คือ “เงินทุนค่าธรรมเนียมผ่านทาง”


เมื่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 คลี่คลาย ภาคการท่องเที่ยวและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องก็ฟื้นตัวขึ้นตามลำดับ ทั้งจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ รวมถึงนักท่องเที่ยวชาวไทย เห็นได้จากภาพความหนาตาของนักท่องเที่ยวตามแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นน้ำตก ภูเขา หรือ ทะเล

เอ่ยถึงทะเลแล้ว ก็อยากจะไปนั่งชิลริมทะเลพัทยา และทานอาหารทะเลสดๆ จากหมู่บ้านชาวประมงบางเสร่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ขึ้นมาทันที


จะช้าอยู่ทำไม ไปกันเลยค่ะ จากกรุงเทพฯ ถึงพัทยา และเดินทางต่อไปยังหมู่บ้านชาวประมงบางเสร่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ใช้เวลาไม่นานค่ะ เพราะใช้เส้นทางมอเตอร์เวย์ หรือ ทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 7 (กรุงเทพ-ชลบุรี-พัทยา-มาบตาพุด) ขับเรื่อยๆ ประมาณ 1.30 ชั่วโมง ก็ถึงพัทยาแล้ว และหากจะเดินทางต่อไปยังหมู่บ้านชาวประมงบางเสร่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ก็ใช้เวลาไม่นาน เพราะมีมอเตอร์เวย์ ส่วนต่อขยายสาย 7 ช่วงพัทยา-มาบตาพุด นั่นเองค่ะ

มอเตอร์เวย์ หรือ ทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 7 เป็นทางสายหลักที่ส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาพื้นที่และการลงทุนภาคอุตสาหกรรมในบริเวณพื้นที่ภาคตะวันออก (ชลบุรี ฉะเชิงเทรา และระยอง) ซึ่งเมื่อปี 2563 กรมทางหลวงได้เปิดให้บริการมอเตอร์เวย์ ส่วนต่อขยายสาย 7 ช่วงพัทยา-มาบตาพุด ให้เป็นเส้นทางคมนาคมสายใหม่ ซึ่งช่วยลดระยะเวลาเดินทาง เชื่อมต่อเข้าสู่พื้นที่ของโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก EEC อีกทั้งยังเป็นโครงการที่เชื่อมต่อโครงข่ายการคมนาคมขนส่งในทุกระบบ ทั้งทางบก ทางน้ำ ทางอากาศ และทางราง

นายภัทรเทพ ศิลปาจารย์ ผู้อำนวยการฝ่ายกำหนดกลยุทธ์และแผนงาน กองทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง เล่าว่า ทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 7 มีจุดเริ่มต้นเชื่อมต่อเส้นทางสายชลบุรี – พัทยา บริเวณทางแยกต่างระดับมาบประชัน มุ่งไปทางทิศใต้ผ่าน อ.บางละมุง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ไปสิ้นสุดที่บริเวณบรรจบทางหลวงหมายเลข 3 เทศบาลเมืองมาบตาพุด อ.บ้านฉาง จ.ระยอง ระยะทางรวม 32 กม. ตลอดเส้นทางสามารถใช้ความเร็วได้สูงสุดถึง 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ช่วยลดระยะเวลาการเดินทางจากทางแยกต่างระดับมาบประชัน ถึงสนามบินอู่ตะเภาได้ถึง 30 นาที โดยตลอดแนวเส้นทาง มีด่านเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทาง 3 แห่ง ได้แก่ ด่านฯ ห้วยใหญ่ เชื่อมสู่บ้านอำเภอเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี, ด่านฯ เขาชีโอน เชื่อมสู่ทางหลวงหมายเลข 331 อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี และด่านฯ อู่ตะเภา เชื่อมสู่ถนนสุขุมวิท อำเภอเมือง และ อำเภอบ้านฉาง จังหวัดระยอง


นอกจากเชื่อมโยงเขตส่งเสริมอุตสาหกรรมแล้ว ยังเชื่อมโยงเขตพื้นที่ผลิตสินค้าการเกษตร สินค้าประมง เรียกว่าเป็นเส้นทางหลักที่มีความสำคัญต่อระบบคมนาคมขนส่งระหว่างภาคกลางและภาคตะวันออก โดยเฉพาะภาคการส่งออกที่จะสามารถเชื่อมโยงไปสู่ประตูการค้าระหว่างประเทศ

“เส้นทางสายนี้ ช่วยขยายโอกาสการค้าการลงทุน กระจายรายได้สู่ท้องถิ่น โดยเฉพาะการขนส่งสินค้าเกษตร ผลไม้ต่างๆ จากภาคตะวันออกเข้ากรุงเทพฯ ได้รวดเร็วขึ้น ทั้งยังส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่พัทยา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด ที่สำคัญยังช่วยประหยัดเวลาสำหรับเดินทางไปยังสนามบินอู่ตะเภา และในอนาคต ยังมีโครงการ มอเตอร์เวย์สาย 7 ส่วนต่อขยายเชื่อมต่อสนามบินอู่ตะเภา ซึ่งจะมีจุดสิ้นสุดโครงการที่แนวเขตทางเข้า-ออกสนามบินอู่ตะเภา ก็ยิ่งจะเพิ่มความสะดวก ย่นระยะเวลาให้แก่ผู้ที่จะเดินทางเข้า-ออกสนามบินอู่ตะเภาได้มากยิ่งขึ้น” นายภัทรเทพ กล่าว

ทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 7 ส่วนต่อขยายช่วงพัทยา-มาบตาพุด เป็นหนึ่งในผลงานสำคัญของทุนหมุนเวียนค่าธรรมเนียมผ่านทาง ที่จัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติเงินคงคลัง พ.ศ. 2549 เพื่อนำเงินค่าธรรมเนียมผ่านทางไปใช้จ่ายบำรุงบูรณะสายทาง ที่มีการเก็บเงินค่าธรรมเนียมผ่านทาง ทั้งนี้ กองทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง กรมทางหลวง เป็นผู้บริหารเงินทุนฯ อาศัยอำนาจตามประกาศกรมทางหลวง และกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการกรม ทั้งการศึกษาพัฒนา และบริหารจัดการโครงข่ายทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง ทั้งในส่วนของทางหลวงพิเศษและทางหลวงสัมปทาน บำรุงและรักษาทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง ดำเนินงานส่วนที่เกี่ยวกับการจัดเก็บค่าธรรมเนียมการใช้ยานยนต์บนทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง เป็นต้น

แก้ปัญหาจราจรแออัดหน้าด่านเก็บเงินด้วย M-Flow
“ผู้ใช้รถยนต์ที่ขับขี่ผ่าน M-Flow ไม่ต้องหยุด หรือชะลอรถ สามารถใช้ความเร็วได้ถึง 120 กม./ชม. ปัจจุบันมีสมาชิกกว่า 510,000 ราย จำนวนรถทั้งหมดรวม 619,000 คัน”

อีก 1 ผลงานเด่นของเงินทุนหมุนเวียนธรรมเนียมค่าผ่านทาง คือ การอำนวยความสะดวกให้กับผู้ที่ใช้ทางด้วย M-Flow หรือระบบจัดเก็บค่าผ่านทางอัตโนมัติแบบไม่มีไม้กั้น (Free Flow) เพื่อแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัดบนมอเตอร์เวย์ โดยการใช้เทคโนโลยี AI มาพัฒนาระบบจัดเก็บค่าผ่านทางด้วยกล้องตรวจบันทึกภาพป้ายทะเบียนรถ ด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลแบบ Video Tolling แทนการเก็บค่าผ่านทางอัตโนมัติแบบระบบไม้กั้น ทําให้ผู้ใช้รถสามารถขับขี่ผ่านบริเวณด่านฯ โดยไม่ต้องหยุดหรือชะลอรถ สามารถใช้ความเร็วได้ถึง 120 กม./ชม. ระบายรถได้ 2,000 – 2,500 คัน/ชม./ช่องทาง รองรับการใช้งานกับรถยนต์ทุกประเภทที่ได้รับอนุญาตให้วิ่งบนทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหรือทางพิเศษ

โดยชำระค่าธรรมเนียมผ่านวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ หลังการใช้บริการรวมไปถึงการชำระผ่านเว็บไซต์หรือโมบายแอปพลิเคชันของระบบ M-Flow ตลอดจนการชำระด้วยระบบ QR Code และการชำระผ่านระบบตัดเงินอัตโนมัติ

M-Flow เปิดให้ใช้บริการเต็มรูปแบบบนทางหลวงพิเศษหมายเลข 9 ตั้งแต่ 15 กุมภาพันธ์ 2565 ประกอบไปด้วย ด่านฯ ทับช้าง 1 ด่านฯ ทับช้าง 2 ด่านฯ ธัญบุรี 1 และด่านฯ ธัญบุรี 2

“ด้วยความสะดวก รวดเร็ว ผู้ใช้รถยนต์ ไม่ต้องหยุดหรือชะลอรถ ทำให้มีผู้ใช้บริการ M-Flow เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ปัจจุบันมีสมาชิกกว่า 510,000 ราย จำนวนรถทั้งหมดรวม 619,000 คัน ทั้งภาคธุรกิจขนส่ง ประชาชน และนักท่องเที่ยว ซึ่งทางกองทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองได้เตรียมขยายผลไปใช้กับทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองและทางพิเศษในเส้นทางอื่นๆ ต่อไป” นายภัทรเทพ กล่าว

ล่าสุด M-Flow ได้รับ 2 รางวัล จากเวที LINE THAILAND AWARDS 2022 ได้แก่ รางวัล Best Display Advertising of the Year in Public Sector สุดยอดองค์กรภาครัฐด้านโฆษณายอดเยี่ยมแห่งปี และรางวัล Best Smart Channel in Public Sector

นอกจากนี้ยังมีงานติดตั้งระบบแสดงระยะเวลาในการเดินทางอัตโนมัติ (Dynamic Travel Time Information System) ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้เส้นทางสามารถรับทราบข้อมูลได้อย่างทันท่วงที เพื่อเลือกเส้นทาง หลีกเลี่ยงสภาพจราจรที่ติดขัด

จะเห็นว่ากองทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง มุ่งมั่นพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารให้มีความทันสมัย เพื่อให้สามารถสนับสนุนการบริหารจัดการ และการจัดเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทางบนโครงข่ายทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง อันจะก่อให้เกิดความสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัยแก่ผู้รับบริการ เพื่อให้มีความสอดคล้องกับแผนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม 20 ปี ปี (2559-2579) ที่กล่าวว่า “ปฏิรูปประเทศไทยสู่ดิจิทัลไทยแลนด์”

และนี่คือผลงานส่วนหนึ่งของการกำกับดูแลการบริหารทุนหมุนเวียนให้มีประสิทธิภาพเป็นกลไกในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เชื่อมไทย เชื่อมโลก เพื่อให้ไทยเป็นประตูการค้า การลงทุนและยุทธศาสตร์ทางโลจิสติกส์ ที่สำคัญของภูมิภาค.

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]