พัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เชื่อมไทย เชื่อมโลก ด้วย “เงินทุนค่าธรรมเนียมผ่านทาง”

24 มิ.ย. – หนึ่งใน “ทุนหมุนเวียน” ภายใต้การกำกับดูแลของระบบการบริหารทุนหมุนเวียนกลุ่มประเภทเพื่อการบริการ มีภารกิจ “พัฒนาโครงข่าย เชื่อมโยงระบบขนส่งสู่ภูมิภาค สร้างความประทับใจ สะดวก ปลอดภัย ด้วยนวัตกรรม” คือ “เงินทุนค่าธรรมเนียมผ่านทาง”


เมื่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 คลี่คลาย ภาคการท่องเที่ยวและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องก็ฟื้นตัวขึ้นตามลำดับ ทั้งจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ รวมถึงนักท่องเที่ยวชาวไทย เห็นได้จากภาพความหนาตาของนักท่องเที่ยวตามแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นน้ำตก ภูเขา หรือ ทะเล

เอ่ยถึงทะเลแล้ว ก็อยากจะไปนั่งชิลริมทะเลพัทยา และทานอาหารทะเลสดๆ จากหมู่บ้านชาวประมงบางเสร่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ขึ้นมาทันที


จะช้าอยู่ทำไม ไปกันเลยค่ะ จากกรุงเทพฯ ถึงพัทยา และเดินทางต่อไปยังหมู่บ้านชาวประมงบางเสร่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ใช้เวลาไม่นานค่ะ เพราะใช้เส้นทางมอเตอร์เวย์ หรือ ทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 7 (กรุงเทพ-ชลบุรี-พัทยา-มาบตาพุด) ขับเรื่อยๆ ประมาณ 1.30 ชั่วโมง ก็ถึงพัทยาแล้ว และหากจะเดินทางต่อไปยังหมู่บ้านชาวประมงบางเสร่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ก็ใช้เวลาไม่นาน เพราะมีมอเตอร์เวย์ ส่วนต่อขยายสาย 7 ช่วงพัทยา-มาบตาพุด นั่นเองค่ะ

มอเตอร์เวย์ หรือ ทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 7 เป็นทางสายหลักที่ส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาพื้นที่และการลงทุนภาคอุตสาหกรรมในบริเวณพื้นที่ภาคตะวันออก (ชลบุรี ฉะเชิงเทรา และระยอง) ซึ่งเมื่อปี 2563 กรมทางหลวงได้เปิดให้บริการมอเตอร์เวย์ ส่วนต่อขยายสาย 7 ช่วงพัทยา-มาบตาพุด ให้เป็นเส้นทางคมนาคมสายใหม่ ซึ่งช่วยลดระยะเวลาเดินทาง เชื่อมต่อเข้าสู่พื้นที่ของโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก EEC อีกทั้งยังเป็นโครงการที่เชื่อมต่อโครงข่ายการคมนาคมขนส่งในทุกระบบ ทั้งทางบก ทางน้ำ ทางอากาศ และทางราง

นายภัทรเทพ ศิลปาจารย์ ผู้อำนวยการฝ่ายกำหนดกลยุทธ์และแผนงาน กองทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง เล่าว่า ทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 7 มีจุดเริ่มต้นเชื่อมต่อเส้นทางสายชลบุรี – พัทยา บริเวณทางแยกต่างระดับมาบประชัน มุ่งไปทางทิศใต้ผ่าน อ.บางละมุง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ไปสิ้นสุดที่บริเวณบรรจบทางหลวงหมายเลข 3 เทศบาลเมืองมาบตาพุด อ.บ้านฉาง จ.ระยอง ระยะทางรวม 32 กม. ตลอดเส้นทางสามารถใช้ความเร็วได้สูงสุดถึง 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ช่วยลดระยะเวลาการเดินทางจากทางแยกต่างระดับมาบประชัน ถึงสนามบินอู่ตะเภาได้ถึง 30 นาที โดยตลอดแนวเส้นทาง มีด่านเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทาง 3 แห่ง ได้แก่ ด่านฯ ห้วยใหญ่ เชื่อมสู่บ้านอำเภอเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี, ด่านฯ เขาชีโอน เชื่อมสู่ทางหลวงหมายเลข 331 อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี และด่านฯ อู่ตะเภา เชื่อมสู่ถนนสุขุมวิท อำเภอเมือง และ อำเภอบ้านฉาง จังหวัดระยอง


นอกจากเชื่อมโยงเขตส่งเสริมอุตสาหกรรมแล้ว ยังเชื่อมโยงเขตพื้นที่ผลิตสินค้าการเกษตร สินค้าประมง เรียกว่าเป็นเส้นทางหลักที่มีความสำคัญต่อระบบคมนาคมขนส่งระหว่างภาคกลางและภาคตะวันออก โดยเฉพาะภาคการส่งออกที่จะสามารถเชื่อมโยงไปสู่ประตูการค้าระหว่างประเทศ

“เส้นทางสายนี้ ช่วยขยายโอกาสการค้าการลงทุน กระจายรายได้สู่ท้องถิ่น โดยเฉพาะการขนส่งสินค้าเกษตร ผลไม้ต่างๆ จากภาคตะวันออกเข้ากรุงเทพฯ ได้รวดเร็วขึ้น ทั้งยังส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่พัทยา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด ที่สำคัญยังช่วยประหยัดเวลาสำหรับเดินทางไปยังสนามบินอู่ตะเภา และในอนาคต ยังมีโครงการ มอเตอร์เวย์สาย 7 ส่วนต่อขยายเชื่อมต่อสนามบินอู่ตะเภา ซึ่งจะมีจุดสิ้นสุดโครงการที่แนวเขตทางเข้า-ออกสนามบินอู่ตะเภา ก็ยิ่งจะเพิ่มความสะดวก ย่นระยะเวลาให้แก่ผู้ที่จะเดินทางเข้า-ออกสนามบินอู่ตะเภาได้มากยิ่งขึ้น” นายภัทรเทพ กล่าว

ทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 7 ส่วนต่อขยายช่วงพัทยา-มาบตาพุด เป็นหนึ่งในผลงานสำคัญของทุนหมุนเวียนค่าธรรมเนียมผ่านทาง ที่จัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติเงินคงคลัง พ.ศ. 2549 เพื่อนำเงินค่าธรรมเนียมผ่านทางไปใช้จ่ายบำรุงบูรณะสายทาง ที่มีการเก็บเงินค่าธรรมเนียมผ่านทาง ทั้งนี้ กองทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง กรมทางหลวง เป็นผู้บริหารเงินทุนฯ อาศัยอำนาจตามประกาศกรมทางหลวง และกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการกรม ทั้งการศึกษาพัฒนา และบริหารจัดการโครงข่ายทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง ทั้งในส่วนของทางหลวงพิเศษและทางหลวงสัมปทาน บำรุงและรักษาทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง ดำเนินงานส่วนที่เกี่ยวกับการจัดเก็บค่าธรรมเนียมการใช้ยานยนต์บนทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง เป็นต้น

แก้ปัญหาจราจรแออัดหน้าด่านเก็บเงินด้วย M-Flow
“ผู้ใช้รถยนต์ที่ขับขี่ผ่าน M-Flow ไม่ต้องหยุด หรือชะลอรถ สามารถใช้ความเร็วได้ถึง 120 กม./ชม. ปัจจุบันมีสมาชิกกว่า 510,000 ราย จำนวนรถทั้งหมดรวม 619,000 คัน”

อีก 1 ผลงานเด่นของเงินทุนหมุนเวียนธรรมเนียมค่าผ่านทาง คือ การอำนวยความสะดวกให้กับผู้ที่ใช้ทางด้วย M-Flow หรือระบบจัดเก็บค่าผ่านทางอัตโนมัติแบบไม่มีไม้กั้น (Free Flow) เพื่อแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัดบนมอเตอร์เวย์ โดยการใช้เทคโนโลยี AI มาพัฒนาระบบจัดเก็บค่าผ่านทางด้วยกล้องตรวจบันทึกภาพป้ายทะเบียนรถ ด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลแบบ Video Tolling แทนการเก็บค่าผ่านทางอัตโนมัติแบบระบบไม้กั้น ทําให้ผู้ใช้รถสามารถขับขี่ผ่านบริเวณด่านฯ โดยไม่ต้องหยุดหรือชะลอรถ สามารถใช้ความเร็วได้ถึง 120 กม./ชม. ระบายรถได้ 2,000 – 2,500 คัน/ชม./ช่องทาง รองรับการใช้งานกับรถยนต์ทุกประเภทที่ได้รับอนุญาตให้วิ่งบนทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหรือทางพิเศษ

โดยชำระค่าธรรมเนียมผ่านวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ หลังการใช้บริการรวมไปถึงการชำระผ่านเว็บไซต์หรือโมบายแอปพลิเคชันของระบบ M-Flow ตลอดจนการชำระด้วยระบบ QR Code และการชำระผ่านระบบตัดเงินอัตโนมัติ

M-Flow เปิดให้ใช้บริการเต็มรูปแบบบนทางหลวงพิเศษหมายเลข 9 ตั้งแต่ 15 กุมภาพันธ์ 2565 ประกอบไปด้วย ด่านฯ ทับช้าง 1 ด่านฯ ทับช้าง 2 ด่านฯ ธัญบุรี 1 และด่านฯ ธัญบุรี 2

“ด้วยความสะดวก รวดเร็ว ผู้ใช้รถยนต์ ไม่ต้องหยุดหรือชะลอรถ ทำให้มีผู้ใช้บริการ M-Flow เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ปัจจุบันมีสมาชิกกว่า 510,000 ราย จำนวนรถทั้งหมดรวม 619,000 คัน ทั้งภาคธุรกิจขนส่ง ประชาชน และนักท่องเที่ยว ซึ่งทางกองทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองได้เตรียมขยายผลไปใช้กับทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองและทางพิเศษในเส้นทางอื่นๆ ต่อไป” นายภัทรเทพ กล่าว

ล่าสุด M-Flow ได้รับ 2 รางวัล จากเวที LINE THAILAND AWARDS 2022 ได้แก่ รางวัล Best Display Advertising of the Year in Public Sector สุดยอดองค์กรภาครัฐด้านโฆษณายอดเยี่ยมแห่งปี และรางวัล Best Smart Channel in Public Sector

นอกจากนี้ยังมีงานติดตั้งระบบแสดงระยะเวลาในการเดินทางอัตโนมัติ (Dynamic Travel Time Information System) ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้เส้นทางสามารถรับทราบข้อมูลได้อย่างทันท่วงที เพื่อเลือกเส้นทาง หลีกเลี่ยงสภาพจราจรที่ติดขัด

จะเห็นว่ากองทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง มุ่งมั่นพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารให้มีความทันสมัย เพื่อให้สามารถสนับสนุนการบริหารจัดการ และการจัดเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทางบนโครงข่ายทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง อันจะก่อให้เกิดความสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัยแก่ผู้รับบริการ เพื่อให้มีความสอดคล้องกับแผนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม 20 ปี ปี (2559-2579) ที่กล่าวว่า “ปฏิรูปประเทศไทยสู่ดิจิทัลไทยแลนด์”

และนี่คือผลงานส่วนหนึ่งของการกำกับดูแลการบริหารทุนหมุนเวียนให้มีประสิทธิภาพเป็นกลไกในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เชื่อมไทย เชื่อมโลก เพื่อให้ไทยเป็นประตูการค้า การลงทุนและยุทธศาสตร์ทางโลจิสติกส์ ที่สำคัญของภูมิภาค.

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สมุทรปราการอ่วม! ปิด 25 โรงเรียนหนีน้ำท่วม

สมุทรปราการ 8 ก.ย.- สมุทรปราการอ่วม! ระดับน้ำยังท่วมสูง หลังฝนตกหนักทั้งคืน ด้าน สพท. สั่งปิดแล้ว 25 โรงเรียน ปรับให้สอนแบบออนไลน์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา หรือ สพท. สั่งปิด 25 โรงเรียนจังหวัดสมุทรปราการ 1 วัน พร้อมปรับการเรียนเป็นแบบออนไลน์ เพื่อความปลอดภัยของนักเรียนและผู้ปกครอง หลังฝนตกหนักทั้งคืน ถนนสายสำคัญหลายเส้นถูกน้ำท่วม บางแห่งสูงกว่า 30 เซนติเมตร รวมถึงตรอกซอกซอยต่าง ๆ โดยบางพื้นที่น้ำได้ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ขณะเดียวกันหลายจุดยังคงมีน้ำท่วมขัง ระบายออกไม่ได้ เนื่องจากระดับน้ำในคลองสายหลักสูง ประกอบกับน้ำทะเลหนุน เจ้าหน้าที่เร่งระบายน้ำ หากฝนไม่ตกลงมาซ้ำ คาดว่าบ่ายวันนี้สถานการณ์จะเข้าสู่สภาวะปกติ ทั้งนี้ มีรายงานว่าเกิดเหตุ หนุ่มวัย 17 ปี เข็นรถจักรยานยนต์ฝ่าน้ำ ถูกไฟรั่วจากแบริเออร์ก่อสร้างบนถนนแพรกษา ช็อตเสียชีวิตต่อหน้าเพื่อนบ้าน เจ้าหน้าที่เร่งสอบหาสาเหตุและป้องกันเหตุซ้ำ -สำนักข่าวไทย

ศาลสั่งจำคุก 2 ปี 8 เดือน ไม่รอลงอาญา “สส.ลูกเกด” คดี ม.112

กรุงเทพฯ 8 ก.ย. – ศาลสั่งจำคุก 4 ปี “ลูกเกด ชลธิชา” สส.ประชาชน คดี ม.112 คำให้การเป็นประโยชน์ลดโทษเหลือ 2 ปี 8 เดือน ส่าสุดศาลให้กันประกันตัวแล้ว กำหนดเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่จะได้รับอนุญาต วันนี้ ( 8 ก.ย.) ที่ห้องพิจารณา 901 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีดูหมิ่นสถาบัน หมายเลขดำ อ.595/65 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 4 เป็นโจทก์ ฟ้อง น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว หรือลูกเกด สส.พรรคประชาชน จ.ปทุมธานี เป็นจำเลยในความผิด ดูหมิ่นสถาบัน ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.112 , พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฯ ม.4 (3) จากกรณีเมื่อวันที่ 8 พ.ย.63 จำเลยได้โพสต์ข้อความ ลงในเฟซบุ๊กตัวเอง เกี่ยวกับราษฎรสาส์น […]

รื้อทั้งยวง! โผ ครม.อนุทิน 1 เหตุ “ธรรมนัส” คุมท่องเที่ยว ภท.ต้องเกลี่ยใหม่

กรุงเทพฯ 7 ก.ย. – โผ ครม. “อนุทิน 1” รื้อทั้งยวง หลัง “ธรรมนัส” คุมท่องเที่ยว ทำภูมิใจไทยต้องเกลี่ยใหม่ “ไชยชนก” ดีอี “ซาบีดา” วัฒนธรรม รอเปิดคนนอก “กลาโหม-ยุติธรรม” แว่วพลตำรวจโท อดีตรองผู้การภาค 3 ติดโผ จับตา “ศักดิ์ดา” ร่วมด้วย​ ด้าน “นิพนธ์” จ่อดันลูกสาวเป็นรัฐมนตรีป้ายแดง เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับโผ ครม.ล่าสุด พรรคภูมิใจไทยจะได้เก้าอี้รัฐมนตรีส่วนใหญ่ประมาณ 12 ที่นั่ง โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล นั่งนายกรัฐมนตรี ควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายทรงศักดิ์ ทองศรี นั่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ นั่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นายไชยชนก ชิดชอบ เลขาธิการพรรค จะนั่งตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ขณะที่นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล […]

ชัยภูมิน้ำท่วมหนัก หลังฝนตกตลอดคืน

ชัยภูมิ 7 ก.ย.-น้ำท่วมหนักใน 3 อำเภอของจังหวัดชัยภูมิ หลังฝนตกหนักตลอดทั้งคืน สภาพภายในวัดดอนไผ่ ริมถนนชัยภูมิ-นครสวรรค์ อำเภอบ้านเขว้า จังหวัดชัยภูมิ เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (7 ก.ย.) หลังพายุฝนกระหน่ำตลอดทั้งคืน ระดับน้ำท่วมสูง 50 เซนติเมตร พระสงฆ์ต้องอพยพหนีน้ำท่วมไปฉันอาหารอยู่บนที่สูง ขณะนี้ระดับน้ำยังไม่ลดลง นอกจากนี้ ยังเกิดน้ำท่วมใน 3 อำเภอ คือ อำเภอเมือง ย่านเศรษฐกิจในตัวอำเภอแก้งคร้อ และอำเภอบ้านเขว้า น้ำป่าสีแดงขุ่นไหลเข้าท่วมถนนสาย 225 ชัยภูมิ-นครสวรรค์ รวมถึงร้านค้า บ้านเรือนประชาชน โดยเฉพาะที่วัดกลางโนนแดง และวัดดอนไผ่ สาเหตุมาจากกรมทางหลวงก่อสร้างถนน 4 เลน ตัดผ่านบ้านโนนแดง ต.โนนแดง อ.บ้านเขว้า ทำให้น้ำป่าที่ไหลมาจากเขาภูแลนคา ไม่สามารถไหลไปลงแม่น้ำชีได้.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

กระบะส่งน้ำพุ่งชนเสาไฟล้ม 24 ต้น ทำไฟไหม้ร้านอาหาร บ้าน-ร้านค้าพัง

เชียงใหม่ 8 ก.ย.-วินาศสันตะโร กระบะส่งน้ำพุ่งชนเสาไฟฟ้าล้ม 24 ต้น บนถนนหนองฮ่อ อ.เมืองเชียงใหม่ ทำให้ไฟไหม้ร้านอาหาร บ้าน-ร้านค้ากว่า 10 หลัง พังเสียหาย ส่วนรถเสียหายนับสิบคัน ไฟฟ้าดับเป็นวงกว้าง อุบัติเหตุเกิดขึ้นช่วงบ่ายที่ผ่านมา หลังรถกระบะบรรทุกน้ำดื่มเอกชนพุ่งชนเสาไฟฟ้าบนถนนหนองฮ่อ ต.ช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่ ก่อนถึง สภ.ช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่ ประมาณ 300 เมตร โดยรถกระบะได้พุ่งชนเสาไฟฟ้าจนหักโค่นลงมา ก่อนที่รถจะเกี่ยวเข้ากับสายไฟลากไปอีกหลายสิบเมตร ทำให้สายไฟถูกดึงจนทำให้เสาไฟฟ้าโค่นล้มต่อๆ กันลงมาขวางถนนรวมแล้วกว่า 24 ต้น เสาไฟกิ่งเสียหาย 25 ต้น ทับบ้านเรือนประชาชนและร้านค้าพังเสียหายกว่า 10 หลัง และยังมีรถยนต์ที่จอดไว้ในบ้าน ริมถนน และที่ขับผ่านมา ถูกทับเสียหายเบื้องต้นมากกว่า 10 คัน นอกจากนี้สายไฟฟ้าที่ถูกดึงจนขาดยังทำให้เกิดเพลิงไหม้ร้านอาหารบริเวณดังกล่าวจนวอดเสียหายเกือบทั้งหมด อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นทำให้กระแสไฟฟ้าดับเป็นวงกว้างและสร้างความแตกตื่นตกใจให้กับชาวบ้านเป็นอย่างมาก ขณะที่ตำรวจและหน่วยกู้ภัยเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบรถกระบะสีขาว เป็นรถขนส่งน้ำดื่มอยู่ในสภาพด้านหน้าพังยับ ถังน้ำดื่มตกเกลื่อน พบผู้บาดเจ็บเป็นชาย 2 คน เป็นพนักงานขับรถและคนงานที่นั่งมาด้วย เจ้าหน้าที่ได้ช่วยกันนำออกมาจากรถนำส่งโรงพยาบาล โดยพนักงานที่นั่งมาด้วยบาดเจ็บสาหัสเจ้าหน้าที่ต้องปั๊มหัวใจก่อนเร่งนำส่งโรงพยาบาล […]

ราชทัณฑ์ ย้าย “ทักษิณ” เข้าเรือนจำกลางคลองเปรม

คลองเปรม 9 ก.ย.- ราชทัณฑ์ ย้าย “ทักษิณ” จากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เข้าเรือนจำกลางคลองเปรม ขณะอยู่ในรถคุมขัง “ทักษิณ” ยิ้มเล็กน้อย พร้อมชูนิ้วโป้งขวาให้นักข่าวที่ตะโกนถาม ภายหลังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สั่งบังคับโทษ นายทักษิณ ชินวัตร 1 ปี และส่งตัวเข้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ล่าสุด เมื่อเวลา 17.10 น. ที่ผ่านมา ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร มีขบวนรถตู้เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร สีขาว จำนวน 3 คัน คันแรก ทะเบียน 1 นฉ 1576 กรุงเทพมหานคร คันที่สอง ทะเบียน 1 นง 7412 กรุงเทพมหานคร และคันที่สาม ทะเบียน 1 นฉ 1977 โดยทั้งหมดได้เคลื่อนขบวนมุ่งหน้าไปยังเรือนจำกลางคลองเปรม โดยรถตู้คันที่สอง ทะเบียน 1 นง 7412 กรุงเทพมหานคร เป็นรถตู้คันที่นายทักษิณ […]

“พล.อ.ณัฐพล” เข้าพรรคภูมิใจไทย “อนุทิน” พาโชว์ตัวนั่ง รมว.กลาโหม

พรรคภูมิใจไทย 9 ก.ย.- “พล.อ.ณัฐพล” มาตามนัด เข้าพรรคภูมิใจไทย “อนุทิน” พาโชว์ตัวนั่ง รมว.กลาโหม ประกาศให้อำนาจเต็ม ก่อนบินประชุม GBC พรุ่งนี้ ให้กัมพูชารู้ว่าเป็น “เจ้ากระทรวงปืนใหญ่” ด้าน “บิ๊กเล็ก” มั่นใจแก้ปัญหาชายแดนเร็วที่สุด ปัดตอบอึดอัด ทำหน้าที่ด้านการทหารกับรัฐบาลที่แล้ว พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม เดินทางเข้าพรรคภูมิใจไทย ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม เพื่อพบกับ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เพื่อหารือถึงกรอบแนวทางการทำงาน โดยเฉพาะประเด็นการแก้ไขปัญหาข้อพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชา ภายหลังที่ก่อนหน้านี้ มีกระแสข่าวปรากฎชื่อในโผอนุทิน 1 นั่ง “รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม” ในสัดส่วนคนนอก ไม่ได้เกี่ยวข้องกับพรรครวมไทยสร้างชาติ โดยหลังจากการหารือร่วมกัน นายอนุทิน ได้พา พล.อ.ณัฐพล มาโชว์ตัว และให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวอย่างเป็นทาง ถึงการรับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายอนุทิน กล่าวว่า นี่เป็นสิ่งที่ตนปฏิบัติมาโดยตลอดช่วง 2-3 วันนี้ เมื่อตนได้เชิญผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีที่เป็นบุคคลภายนอก จะนำมาแนะนำให้กับประชาชนได้รับทราบ ตนได้ใช้เวลาในการหารือ ในที่สุดขอเชิญรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมในรัฐบาลชุด นส.แพทองธาร […]

“อนุทิน” ส่งรายชื่อ ครม. ตรวจประวัติครบแล้ว

พรรคภูมิใจไทย 9 ก.ย.-“อนุทิน” ส่งรายชื่อ ครม. ตรวจประวัติครบแล้ว ลั่นส่งเกินด้วย ย้ำใครไม่ผ่านก็แต่งตั้งไม่ได้ พร้อมแจงเหตุผลเลือก “บวรศักดิ์” นั่งรองนายกฯ ฝ่ายกฎหมาย เตรียมยกร่าง รธน. ไม่กดดัน มีเวลาทำงาน 4 เดือน บอกถนัดอยู่แล้ว แสวงจุดร่วมสงวนจุดต่าง เผยคุย “บิ๊กเล็ก” วันนี้ เตรียมข้อมูลประชุมจีบีซี พรุ่งนี้ พร้อมทลายหลายข้อจำกัด ย้ำจุดยืนแก้ปัญหาชายแดนทุกมิติ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าได้ส่งรายชื่อ บุคคลที่จะเสนอเป็นรัฐมนตรีให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบคุณสมบัติทุกครบทุกคนแล้ว โดยยังไม่ได้ระบุตำแหน่ง ส่วนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมก็ส่งไปแล้ว พร้อมหัวเราะ และบอกว่า “ส่งเกินด้วย” ซึ่งคุณสมบัติ ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ก็ต้อง เป็นคนยุติธรรม พร้อมยอมรับว่าได้ทาบทามพลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ และได้เชิญมาพูดคุยที่พรรคภูมิใจไทย ว่าท่านมีแนวทางดำเนินการอย่างไร เพราะวันพรุ่งนี้จะต้องเดินทางไปประชุม จีบีซี ที่กาะกง ส่วนเหตุผลที่เลือกพลเอกณัฐพล นายอนุทินกล่าวว่าเพราะต้องการให้งานของกระทรวงกลาโหม สืบเนื่องต่อไป ผู้สื่อข่าวจึงถามว่าไม่เปลี่ยนม้ากลางศึกใช่หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่ามีคำพังเพยอยู่ เรามองเรื่องประเทศชาติเป็นสำคัญ แต่เราอาจจะมีแนวทางใหม่ให้ท่าน […]