กรุงเทพฯ 26 มี.ค. – สงครามการค้าจีนสหรัฐส่งผลดี ทำให้ผู้ผลิตเม็ดพลาสติกไทยทำตลาดจีนเพิ่มขึ้น ส่วน Rotomolding Compound เตรียมจบดีลเร็ว ๆ นี้ เตรียมย้ายโรงงานจากมาเลเซียมาไทย
นายปฏิภาณ สุคนธมาน ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ กลุ่มธุรกิจปิโตรเคมีขั้นปลาย บมจ.พีทีทีโกลบอลเคมิคอล (GC ) กล่าวว่า จากสงครามการค้าระหว่างจีน-สหรัฐส่งผลให้สินค้าเม็ดพลาสติกและปิโตรเคมีจากสหรัฐไม่สามารถเข้าไปจำหน่ายในจีนได้และมีการดั๊มพ์ราคาไปภูมิภาคอื่น โดยเฉพาะอาเซียน ตลาดซีแอลเอ็มวี (กัมพูชา-ลาว-เมียนมา-เวียดนาม) จึงเป็นช่องทางตลาดทำให้จีซีเข้าไปจำหน่ายในจีนเพิ่มขึ้น และปรับตลาดในซีแอลเอ็มวีที่มียอดขายประมาณ 300,000 ตัน/ปี เป็นการทำตลาดรุกลูกค้าประเภทโรงงานผู้ใช้ (End USER ) ลดการจำหน่ายผ่านตัวแทนจำหน่ายต่าง ๆ โดยการส่งออกของจีซีนั้นมีทั้งหมดร้อยละ45 ของกำลังผลิตทั้งหมดและตลาดจีนมีสัดส่วนถึงครึ่งหนึ่งของการส่งออก
“หากเทรดวอร์จบสิ้น สหรัฐสามารถส่งเม็ดพลาสติกไปจีนได้ เราก็สามารถส่งออกมาซีแอลเอ็มวีได้เพิ่มขึ้นเพราะเราขยายฐานถึงลูกค้าที่แท้จริง โดยตลาดมีทั้งสินค้าพื้นฐานทั่วไป สินค้าที่พัฒนารองรับนวัตกรรมไบโอพลาสติก และมีศูนย์บริการลูกค้าที่พร้อมร่วมออกแบบและประสานงานผู้ผลิตแบบครบวงจร” นายปฏิภาณ กล่าว
ส่วนกรณีการเข้าซื้อหุ้น (RGL) ประเทศสหราชอาณาจักรในสัดส่วนร้อยละ 49 นั้น การโอนหุ้นที่ซื้อขายตามสัญญาซื้อขายหุ้นจะเสร็จเร็ว ๆ นี้ หลังจากยื่นแสดงจำนงแต่ละประเทศที่อาร์จีแอลเข้าไปตั้งโรงงานว่าจะไม่ได้ครอบครองตลาดเสร็จสิ้นแล้ว โดยโดย RGL เป็นผู้ผลิต Rotomolding Compound รายสำคัญที่มีสัดส่วนในการทำธุรกิจในลำดับต้น ๆ ของทวีปยุโรปและเขตโอเชียเนีย จากฐานการผลิตในภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วโลก ได้แก่ ประเทศอังกฤษ โปแลนด์ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และมาเลเซีย วัตถุดิบหลักที่ใช้ ได้แก่ เม็ดพลาสติกประเภท LLDPE โดยหลังจากโอนหุ้นเสร็จจะมีการย้ายโรงงานจากมาเลเซียมาตั้งในไทยและเป้าหมายสำคัญ คือ ใช้เทคนิคพัฒนาสูตรผสมเม็ดพลาสติกและใช้ความเชี่ยวชาญมาพัฒนากลุ่มลูกค้า และสามารถส่งออกไปยังตลาดซีแอลเอ็มวี จีน และอินเดีย ที่มีความต้องการผลิตภัณฑ์นี้สูงมาก
“Rotomolding Compound เหมาะสำหรับการขึ้นรูปชิ้นงานขนาดใหญ่ เช่น ทำเรือบใบ ถังน้ำขนาดใหญ่ รูปแบบสถาปัตยกรรม ป้ายสัญญาณจราจร ข้อดี คือ โมลด์ไม่แพง แต่ใช้เทคนิคสูง ใช้สูตรคอมพาวน์ของRGL และเรายังให้ RGL ช่วยพัฒนาเทคนิคการขึ้นรูปของโรโตโมลเดอร์บ้านเราให้สามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ได้มากขึ้นเรื่อย ๆ และเราจะดึงโรงงานจากมาเลเซียให้มาผลิตในบ้านเรา” นายปฏิภาณ กล่าว
ทั้งนี้ มูลค่าการเข้าซื้ออาร์จีแอลประมาณ 6.4 ล้านปอนด์สเตอร์ลิง หรือประมาณ 281 ล้านบาท (อัตราแลกเปลี่ยน 43.885 บาทต่อปอนด์สเตอร์ลิง) การลงทุนครั้งนี้เป็นไปตามกลยุทธ์ของบริษัทฯ ด้านการขยายการลงทุนต่อยอดและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์ของจีซีโดยมุ่งเน้นการลงทุนไปยังผลิตภัณฑ์ที่มีคุณสมบัติเฉพาะทางและมีสมรรถนะสูง (Performance Chemicals).-สำนักข่าวไทย