ดีเอสไอ 27 ส.ค.- ดีเอสไอแจงต้องสอบอาญาคดีสหกรณ์คลองจั่น เผยมีการตีความคำพิพากษาศาลปกครองเพื่อให้สังคมสับสน คดีอาญาทั้งฉ้อโกง-ฟอกเงินต้องเดินหน้าต่อ
พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ชี้แจงกรณีที่มีการนำคำพิพากษาของศาลปกครองที่สั่งให้กรมส่งเสริมสหกรณ์จ่ายเงินชดใช้ค่าเสียหายแก่สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น เพราะเหตุละเลยต่อหน้าที่ในการไม่ตักเตือนคณกรรมการบริหารสหกรณ์ ปล่อยเงินกู้จนขาดสภาพคล่อง และนำบางตอนของคำพิพากษามานำเสนอ และอธิบายว่าเรื่องการบริหารสหกรณ์ต้องร้องเรียนต่อศาลปกครอง ไม่ใช่ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.)หรือดีเอสไอ ดำเนินคดีอาญา นั้น ขอชี้แจงว่า 1 คำพิพากษาตามที่ปรากฏเป็นข่าว เป็นเรื่องที่มีการนำผลคดีปกครองที่มีการยื่นฟ้องหน่วยงานของรัฐ คือกรมส่งเสริมสหกรณ์ ในความผิดละเลยต่อหน้าที่ ที่ศาลปกครองวินิจฉัยให้ชดใช้ค่าเสียหาย อันเป็นเรื่องทางปกครอง มิใช่ผลคดีทางอาญา
2.คดีที่ดีเอสไอดำเนินการ เป็นคดีอาญากับตัวบุคคล คือ นายศุภชัย ศรีศุภอักษร กับพวก ข้อหาลักทรัพย์สหกรณ์ ฯ และฉ้อโกงประชาชน รวมทั้งความผิดอาญาฐานฟอกเงิน กับบุคคลที่เกี่ยวข้องกับเงินที่ได้จากการกระทำผิดดังกล่าวเป็นความผิดอาญา มิใช่เรื่องที่หน่วยงานของรัฐกระทำต่อประชาชน หรือต่อรัฐด้วยกันในทางปกครอง ที่ศาลปกครองจะมีอำนาจพิจารณาพิพากษา
- การดำเนินคดีอาญาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มีระบบตรวจสอบ ถ่วงดุลระหว่างพนักงานสอบสวนกับพนักงานอัยการ ที่ผ่านมาปรากฎชัดเจนว่าคดีที่ดีเอสไอดำเนินการเกี่ยวกับการกระทำผิดอาญาที่เกี่ยวกับสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น บางคดีมีการฟ้องคดีต่อศาลจนมีคำพิพากษาไปแล้ว และยังมีอีกหลายคดีมีการดำเนินคดีอยู่ในชั้นอัยการ และชั้นสอบสวน จึงเป็นเครื่องยืนยันว่าดีเอสไอมีอำนาจหน้าที่ดำเนินคดีอาญาในเรื่องนี้ เพื่อนำผู้กระทำผิดมาฟ้องร้องลงโทษตามกฎหมาย
4. การพิจารณาคดีของศาลปกครองเป็นการรับฟังพยานหลักฐานของคู่ความคือผู้ฟ้องคดีและผู้ถูกฟ้อง เพื่อพิสูจน์ในประเด็นพิพาททางปกครองเท่านั้น และคำพิพากษาผูกพันเฉพาะคู่ความ การที่นำคำพิพากษาของศาลปกครองไปอธิบายเชื่อมโยงกับคดีอาญาที่มิได้อยู่ในอำนาจศาลปกครองโดยอาศัยความคิดของตน อาจทำให้สังคมสับสน.-สำนักข่าวไทย