เอสซีจีย้ำไม่ได้สิทธิ์พิเศษประทานบัตรเหมืองปูนฯ


กรุงเทพฯ 9 มี.ค.-เครือข่ายประชาชนผู้เป็นเจ้าของแร่ ชี้ ครม.เห็นชอบเอสซีจีต่ออายุเหมืองแร่หินปูนซีเมนต์ เอื้อกลุ่มทุน ด้านเอสซีจีแจงไม่ได้สิทธิ์พิเศษแต่อย่างใด ทำตามกฏหมายและดูแลสิ่งแวดล้อมเคร่งครัด 


นายชนะ ภูมี Vice President – Cement and Construction Solution Business ธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง เอสซีจี ชี้แจงกรณีที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 5 มีนาคม ที่ผ่านมา มีมติผ่อนผันให้บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) เข้าทำประโยชน์ในพื้นที่จังหวัดสระบุรี เพื่อทำเหมืองแร่หินปูนว่า บริษัทฯ ได้ขออนุญาตตามขั้นตอนและข้อกำหนดของทางราชการอย่างเคร่งครัด เช่นเดียวกับผู้ประกอบการทุกราย โดยทำตามกฎหมายควบคุม 2 ฉบับ คือ ประทานบัตรเหมืองแร่ จากกระทรวงอุตสาหกรรม มีอายุสูงสุด 25 ปี ซึ่งบริษัทฯ ได้รับอนุญาตตั้งแต่ปี 2554 – 2579 ตาม พ.ร.บ.แร่ พ.ศ.2510 ซึ่งถือเป็นประทานบัตรตาม พ.ร.บ.แร่ พ.ศ.2560 ด้วย ส่วนอีกฉบับ คือ หนังสือขอเข้าทำประโยชน์ในพื้นที่จากกรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มีอายุไม่เกิน 10 ปี ซึ่งบริษัทฯ ได้รับอนุญาตตั้งแต่ปี 2544-2554 บริษัทฯ จึงได้ขอต่ออายุหนังสือดังกล่าวต่อกรมป่าไม้ ตาม พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507

“ที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขในการขออนุญาตอย่างถูกต้องครบถ้วน และได้จัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมภายหลังการทำเหมืองแร่ ซึ่งได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติแล้ว และพื้นที่ดังกล่าวมีศักยภาพและปริมาณสำรองที่สามารถทำเหมืองได้ ดังนั้น กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจึงมีความเห็นให้บริษัทฯ ได้รับการพิจารณาผ่อนผันให้เข้าทำประโยชน์ในพื้นที่ได้”นายชนะ ระบุ


ทั้งนี้ พื้นที่ดังกล่าวเป็นแหล่งหินปูนที่มีศักยภาพ ทั้งยังมีปริมาณสำรองมากเพียงพอสำหรับการผลิตปูนซีเมนต์เพื่อการพัฒนาประเทศ และอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ซึ่งตาม พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 ระบุว่าสามารถเข้าทำประโยชน์เกี่ยวกับการทำเหมืองแร่ ตามกฎหมายว่าด้วยแร่ คราวละไม่เกิน 10 ปี ผู้ผลิตปูนซีเมนต์หลายรายจึงขออนุญาตเข้ามาใช้พื้นที่สำหรับการผลิตปูนซีเมนต์ ตามข้อกำหนดใน พ.ร.บ. ดังกล่าว

สำหรับการใช้พื้นที่ลุ่มน้ำชั้น 1A นั้น ด้วย ครม. ประกาศให้พื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ลุ่มน้ำชั้น 1A ซึ่งไม่อนุญาตให้ผู้ใดใช้ประโยชน์ ยกเว้นผู้ที่เคยได้รับอนุญาตหรือมีข้อผูกพันกับภาครัฐมาก่อนแล้ว ซึ่งผู้ประกอบการหลายรายและเอสซีจีเข้าข่ายดังกล่าว โดยจะต้องขอผ่อนผันการใช้พื้นที่ต่อ ครม. และต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขในการอนุญาตอย่างถูกต้องครบถ้วน รวมทั้งปฏิบัติตามมาตรการต่างๆ อย่างเคร่งครัด ได้แก่ การจัดทำรายงานประเมินศักยภาพลุ่มน้ำ รายงานผลการดำเนินงานตามมาตรการป้องกันแก้ไขและลดผลกระทบสิ่งแวดล้อม และรับฟังความคิดเห็นของชุมชน รายงานการประเมินผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมภายหลังการทำเหมืองแร่ เสนอต่อคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ รวมทั้งตรวจสอบความสมบูรณ์ของป่าไม้ เพื่อประกอบการพิจารณาเห็นชอบของ ครม.

เครือข่ายประชาชนผู้เป็นเจ้าของแร่ ได้ออกแถลงการณ์ระบุว่า การออกมติ ครม. ผ่อนผันให้บริษัท SCG เป็นการเฉพาะรายในครั้งนี้จึงเป็นการกระทำที่ขัดต่อกฎหมายและเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กลุ่มทุนอย่างชัดเจน  โดยไม่สนใจปัญหาของผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม  ธรรมชาติ  ระบบนิเวศและสุขภาพอนามัยของประชาชนที่จะตามมาแม้แต่น้อย  -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มุกใหม่มิจฉาชีพ

มุกใหม่มิจฉาชีพ! ป่วนโทรแจ้ง ตร. เกิดเหตุร้ายที่บ้านเหยื่อ

อินฟลูฯ สาว สายทำอาหาร ถูกมิจฉาชีพอ้างเป็นตำรวจโทรหา แต่เธอไม่เชื่อ โดนท้าอีก 10 นาทีเจอกัน ปรากฏว่า มีตำรวจจาก 2 โรงพักบุกมาที่บ้านจริง

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา บอกสนามใหญ่ ไม่เข้าไปก้าวก่ายสนามท้องถิ่น ซ้ายก็เพื่อน ขวาก็พวก

ครม.เคาะแจกเงินหมื่นเฟส 2 ผู้สูงอายุ 60 ปี

“จุลพันธ์” เผย ครม.เห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกลุ่มผู้สูงอายุ วงเงิน 4 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะดำเนินการทันก่อน 29 ม.ค.68 รวม 3 มาตรการ สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบ 1.4-1.5 แสนล้านบาท

ข่าวแนะนำ

ข่าวแห่งปี 2567 : รวมฉ้อโกง “ดารา-คนดัง” ไม่รอด

ตลอดปี 2567 ยังมีผู้คนตกเป็นเหยื่อของกลโกง มิจฉาชีพ ที่มาในรูปแบบต่างๆ รวมถึงการลงทุนรูปแบบใหม่ๆ บางคนถึงขั้นสิ้นเนื้อประดาตัว และที่น่าตกใจเริ่มมีคนดังเข้ามาเกี่ยวข้องกับคดีมากขึ้น

หมอชิต 2 คึกคัก ประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาฉลองปีใหม่

บรรยากาศการเดินทางหมอชิต 2 คึกคัก ประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยวในช่วงหยุดยาวปีใหม่ ด้าน รฟท. คาดผู้โดยสารเดินทางขาออกวันนี้ 1 แสนคน

รถเริ่มแน่น! สายเหนือ-อีสาน การจราจรชะลอตัว

ประชาชนทยอยเดินทางกลับภูมิลำเนา หยุดยาวปีใหม่ ถ.พหลโยธิน มุ่งหน้าสายอีสาน รถแน่น ส่วนถนนสายเอเชีย ขึ้นเหนือ รถเคลื่อนตัวได้ช้า