กมธ.ปปง. ลุยติดตามคดีสโมสรฟุตบอลโยงเว็บพนัน

รัฐสภา 21 ส.ค. – กมธ.ปราบปรามฟอกเงินฯ ลุยติดตามคดีสโมสรฟุตบอลโยงเว็บพนัน “เลิศศักดิ์” ชี้ต้องตอบสังคมด้วยความโปร่งใส ย้ำหลักนิติธรรมต้องอยู่เหนือทุกกลุ่มอิทธิพล


นายเลิศศักดิ์ พัฒนชัยกุล ประธานคณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินและยาเสพติด สภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานการประชุมเพื่อติดตามข้อเท็จจริง กรณีอดีตประธานสโมสรฟุตบอลนครศรี ยูไนเต็ด ซึ่งถูกกล่าวหาว่ามีความเชื่อมโยงกับขบวนการฟอกเงินจากเครือข่ายเว็บไซต์พนันออนไลน์ และปรากฏข้อสังเกตเกี่ยวกับคำสั่ง “ไม่ฟ้อง” ของอัยการ ทั้งที่ตำรวจมีความเห็นสั่งฟ้องชัดเจน โดยมี นายดนุพร ปุณณกันต์ รองประธานกรรมาธิการ นายนนท์ ไพศาลลิ้มเจริญกิจ และกรรมาธิการ ผู้แทนจากอัยการสูงสุดและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เข้าชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการดำเนินคดีดังกล่าว

สำหรับรายชื่อผู้มาชี้แจง ประกอบด้วย พล.ต.ต.สุรพงษ์ ไทยประเสริฐ ผู้บังคับการอำนวยการ บช.สอท. พ.ต.อ.วรชาติ รสจันทน์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา และเจ้าหน้าที่จากอัยการสูงสุด นายธนวรรษ ว่องไวทวีวงศ์ อัยการอาวุโส นายสุเทพ เยี่ยมศิริ อัยการผู้เชี่ยวชาญ นายประทีป ศุภวิบูลย์ผล สนง.อัยการ ภ.9


ทั้งนี้ ที่ประชุมได้เน้นย้ำว่า กรณีนี้มีความอ่อนไหวต่อความรู้สึกของสังคม เพราะเป็นหนึ่งในคดีที่ประชาชนจับตา ทั้งในด้านความชัดเจนของพยานหลักฐาน เส้นทางการเงิน และการอายัดทรัพย์สิน ที่ควรดำเนินการตามอำนาจหน้าที่โดยไม่มีอคติ คดีนี้ไม่ใช่เรื่องส่วนตัว แต่คือบททดสอบความศักดิ์สิทธิ์ของกระบวนการยุติธรรม พร้อมเทียบคดี “นครศรี ยูไนเต็ด” กับ “ลำพูน วอริเออร์” ว่า เหตุใดคดีหนึ่งอายัดทรัพย์ 600 ล้าน แต่อีกคดีกลับนิ่งสนิท เพราะคดีอดีตประธานสโมสรลำพูน วอริเออร์ พบการดำเนินการยึดและอายัดทรัพย์สินกว่า 221 รายการ มูลค่ารวม 671,354,974.93 บาท ซึ่งเจ้าหน้าที่ ปปง. ดำเนินการอย่างเข้มข้นต่อเนื่อง

ขณะที่ในคดีของอดีตประธานสโมสรนครศรี ยูไนเต็ด แม้จะมีพฤติการณ์เชื่อมโยงเว็บพนันในลักษณะคล้ายกัน กลับยังไม่มีการอายัดทรัพย์ หรือความคืบหน้าทางกฎหมายที่ชัดเจน โดยกรรมาธิการฯ ต่างสอบถามต่อผู้แทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ถึงสาเหตุที่พนักงานอัยการมีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง แตกต่างจากความเห็นพนักงานสอบสวนในประเด็นใดบ้าง รวมถึงในสำนวนเรื่องนี้ พนักงานสอบสวนมีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะพิสูจน์ว่า ผู้ต้องหากระทำผิดตามข้อกล่าวหาในประเด็นใดบ้าง มีพยานหลักฐานสำคัญในสำนวนการสอบสวนที่ยืนยันว่าการกระทำผิดมีอะไรบ้าง และความเห็นของพนักงานอัยการที่สั่งไม่ฟ้องนั้น อ้างหลักฐานและเหตุผลอะไรบ้าง สามารถรับฟังหักล้างหลักฐานและเหตุผลของพนักงานสอบสวนได้ในทุกประเด็นหรือไม่

นอกจากนี้ กรรมาธิการยังได้สอบถามถึงเหตุผลของผู้บัญชาการภาคที่โต้แย้งคำสั่งไม่ฟ้องของพนักงานอัยการนั้น เหมือนหรือแตกต่างจากความเห็นของพนักงานสอบสวนที่ความเห็นควรสั่งฟ้องในสำนวนการสอบสวน รวมถึงกรณีการจับกุมนายชนนพัฒ ทั้งสามคดี พนักงานสอบสวนได้รายงานไปยังสำนักงาน ปปง. ทั้งสามเรื่องหรือไม่อย่างไร และได้มีการติดตามผลการดำเนินการของสำนักงาน ปปง. หรือไม่อย่างไร มีการสืบสวนขยายผลผู้เกี่ยวข้องสัมพันธ์ ผู้ถือครองทรัพย์สิน ทางการเงิน หรือไม่ ในกรณีหากพนักงานอัยการมีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง ทางตำรวจต้องดำเนินการต่อไปอย่างไรจนสิ้นกระบวนการ และปัจจุบันผลการดำเนินการทั้งสามคดีอยู่ในขั้นตอนไหน หรือมีเหตุขัดข้องในส่วนไหนหรือไม่


กรรมาธิการยังได้สอบถามต่อผู้แทนจากอัยการสูงสุดว่า คดีนี้หลังจาก ผบ.ตร.มีความเห็นแย้งความเห็นสั่งไม่ฟ้องของอัยการเจ้าของสำนวนแล้ว กระบวนการตามกฎหมายต่อไปเป็นอย่างไร กระบวนการก่อนการสั่งชี้ขาดของอัยการสูงสุด ต้องผ่านการกลั่นกรองของหน่วยงานใดในสำนักงานอัยการสูงสุดอีกหรือไม่ ถ้ามี หน่วยงานที่กลั่นกรองก่อนถึงอัยการสูงสุดมีหน่วยงานใดบ้าง และมีกรอบระยะเวลาในการพิจารณาในขั้นตอนเหล่านี้ไว้ด้วยหรือไม่ ในคดีนี้ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติแย้งคำสั่งไม่ฟ้องของอัยการ และตามกฎหมายอัยการสูงสุดมีหน้าที่ชี้ขาดความแตกต่างในความเห็นของพนักงานอัยการเจ้าของและความเห็นของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ อยากทราบว่า หากอัยการสูงสุดมีความเห็นแตกต่างจากความเห็นของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในความเห็นของอัยการสูงสุดนั้นจะต้องหักล้างความเห็นและพยานหลักฐานของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติในทุกประเด็นหรือไม่ และหากไม่หักล้างความเห็นของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติในทุกประเด็นแล้ว คำสั่งชี้ขาดของอัยการสูงสุด จะถือว่าชอบด้วยกฎหมายหรือไม่

สำหรับคดีดังกล่าวต้องแยกเป็นสองคดี คดีแรกเป็นคดีของประธานสโมสรฟุตบอลลำพูน วอริเออร์ มีคำสั่งคณะกรรมการธุรกรรมที่ ย.157/2567 ลงวันที่ 6 ส.ค.67 เรื่อง ยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดไว้ชั่วคราว ส่วนคดีของอดีตประธานสโมสรฟุตบอลนครศรี ยูไนเต็ด ได้แจ้งข้อหาตาม พ.ร.บ.การพนันออนไลน์ และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และสั่งฟ้อง ต่อมาพนักงานอัยการจังหวัดสงขลามีความเห็นสั่งไม่ฟ้องอดีตประธานสโมสรฟุตบอลนครศรี ยูไนเต็ด ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการพิจารณาและติดตาม ส่วนไหนเสร็จสิ้นก็ได้ดำเนินการส่งไปแล้ว ส่วนที่ยังไม่เสร็จสิ้นก็ยังต้องรอ ยังไม่ยืนยัน

นายเลิศศักดิ์ กล่าวสรุปว่า ประเด็นสำคัญของการประชุม คือ ความเห็นไม่ฟ้องของอัยการ ซึ่งขัดแย้งกับความเห็นของพนักงานสอบสวน ที่เห็นควรสั่งฟ้องผู้ต้องหา ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการฯ เห็นพ้องกันว่า การที่อัยการมีความเห็น “ไม่ฟ้อง” โดยไม่สามารถชี้แจงเหตุผลเชิงลึกต่อสาธารณะได้ อาจทำให้เกิดความเคลือบแคลงใจในกระบวนการพิจารณาคดีอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ คณะ กมธ. ยังคงยึดหลักโปร่งใส ตรวจสอบอย่างสร้างสรรค์ ยืนหยัดข้างประชาชน เราจะไม่ปล่อยให้คดีสำคัญที่มีผลกระทบต่อศรัทธาของสังคมถูกกลบเงียบ กมธ.ชุดนี้จะทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา โปร่งใส สร้างสรรค์ และกล้าชนกับทุกอิทธิพล เพราะไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมาย และไม่มีคดีใดควรถูกละเลย

คณะกรรมาธิการฯ ยังได้ย้ำหลักการสำคัญว่า การฟอกเงินเป็นขั้นตอนสำคัญที่ช่วยเปลี่ยนเงินผิดกฎหมายให้กลายเป็นเงินสะอาด ซึ่งหากปล่อยผ่าน ย่อมเท่ากับเปิดช่องให้ขบวนการอาชญากรรมเติบโตแบบไม่มีที่สิ้นสุด ดังนั้น ทุกคดีที่มีมูลความเชื่อมโยงกับฟอกเงิน จึงต้องตรวจสอบอย่างละเอียด ไม่ว่าจะมีเบื้องหลังเป็นใครก็ตาม.-319-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.ตร.รับทราบเหตุปะทะเดือดสงขลา ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ

รัฐสภา 11 ก.ย.- “บิ๊กต่าย” พยักหน้ารับทราบ เหตุปะทะเดือด เจ้าหน้าที่ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ พื้นที่ จ.สงขลา ระบุขอเข้าประชุมก่อน พลตํารวจเอก กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาประชุมร่วมกับกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ที่อาคารรัฐสภา โดยผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่า ได้รับรายงานเรื่องการปะทะเดือด เจ้าหน้าที่ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ ที่บ้านห้วยเต่า สงขลา แล้วหรือไม่ โดยพลตํารวจเอก กิตติ์รัฐ พยักหน้า แต่ไม่ได้ตอบคำถาม ระบุเพียงว่าขอเข้าประชุมก่อน -สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” ชี้เป้าตลก 3 พยางค์ ส่อโยงเส้นเงินวัดพระบาทน้ำพุ

รัฐสภา 11 ก.ย.- “บิ๊กเต่า” ชี้เป้าตลก 3 พยางค์โผล่วันจับ “ทิดอลงกต” ส่อโยงเส้นเงินวัดพระบาทน้ำพุ พบพิรุธ ยังไม่มารายงานตัว พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กล่าวถึงความคืบหน้าคดีทิดอลงกต วัดพระบาทน้ำพุ ที่มีการเปิดเผยออกมาว่า ตลกชื่อ 3 พยางค์ มีส่วนเกี่ยวข้องกับเงินวัดพระบาทน้ำพุด้วย ว่า มีตลกอีก 1 คนที่ยังเป็นเป้าหมายยังไม่ได้มาแสดงตัวและยังไม่ได้มาให้การ พนักงานสอบสวนจะเรียกมาเอง ซึ่งพบพิรุธเยอะว่าทำอะไรที่ไม่เป็นไปตามกฎหมายหรือไม่เป็นไปตามวิธีการที่ทำในการเข้าไปช่วยเหลือ ทิดอลงกต ในการขนย้ายสิ่งของ ซึ่งเป็นเอกสารสำคัญ และไม่เหมือนดาราท่านอื่น ที่เป็นการรับจ้างงาน แต่คนนี้น่าจะเป็นคนที่สนิทส่วนตัว เป็นคนที่เคยถูกดำเนินคดีอยู่ เมื่อถามว่าเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้เลยใช่หรือไม่ พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ กล่าวว่าเป็นคนลึกลับซับซ้อน ซึ่งเป็นคนที่เคยโผล่ให้เห็นในวันที่ทิดอลงกตถูกจับ -สำนักข่าวไทย

พ.อ.นพ.ธวัชชัย เล่านาที จนท.สวนสัตว์ ลงจากรถ แล้วถูกสิงโตตะปบรุมขย้ำ

กทม. 10 ก.ย.-พ.อ.นพ.ธวัชชัย เล่านาที สิงโตตะปบเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ จากนั้นสิงโตอีก 5 ตัว รุมขย้ำ โดยที่เจ้าตัวไม่ได้ขัดขืนหรือร้องขอความช่วยเหลือ พ.อ.นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ อดีตอาจารย์และแพทย์ศัลยกรรม โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า หรือเป็นที่รู้จักในฐานะหมอที่มาช่วยเหลือในคดีการเสียชีวิตของแตงโม ซึ่งเป็นผู้เห็นเหตุการณ์ระบุว่า วันนี้ตนมาเที่ยวสวนสัตว์ โดยได้ขับรถเข้าไปในโซนซาฟารี ขณะนั้นมีรถนักท่องเที่ยวหลายคันเข้าชม เมื่อมาถึงบริเวณโซนสิงโต ก็พบว่ามีรถของเจ้าหน้าที่รายหนึ่งซึ่งเป็นรถของสวนสัตว์จอดอยู่คันเดียว ตอนนั้นตนเองก็รู้สึกผิดสังเกต เพราะช่วงเวลาดังกล่าวไม่ใช่ช่วงเวลาให้อาหารสัตว์และเจ้าหน้าที่รายนี้อยู่คนเดียว ได้ลงมายืนข้างล่างของรถ ฝั่งคนขับ โดยเปิดประตูทิ้งไว้ แต่ไม่ได้ทำอะไร แค่ยืนเฉยๆ ลักษณะยืนหันหน้า เข้าหารถ หันหลังให้สัตว์ ซึ่งตนก็รู้สึกแปลกอย่างมาก อย่างไรก็ตาม เนื่องจากมีต้นไม้บัง ตนก็เลยไม่เห็นว่าในมือถืออะไร จากนั้นประมาณ 3 นาที ก็มีสิงโตตัวหนึ่งค่อยๆ ย่องมาทางข้างหลังช้าๆ ก่อนจะตะครุบเข้าข้างหลังเจ้าหน้าที่รายดังกล่าวทันที โดยที่เจ้าหน้าที่รายดังกล่าวไม่ได้มีท่าที ขัดขืน ดิ้นรนต่อสู้ หรือร้องขอชีวิตแต่อย่างใด หลังจากนั้น สิงโตตัวอื่นๆ ก็ค่อยๆ เดินตามมารุมกัดตามที่ปรากฏในคลิป ตนเองไม่รู้จะต้องทำอย่างไร ทำได้เพียงแต่บีบแตรรถ เช่นเดียวกับนักท่องเที่ยวคันอื่น ที่ช่วยกันบีบแตร ผ่านไปประมาณ 10 […]

สิงโตสวนสัตว์เอกชน ลาก จนท.ไปรุมกัด สาหัส

กทม. 10 ก.ย.-สิงโตในสวนสัตว์เอกชน ทำร้ายเจ้าหน้าที่ ลากไปรุมกัด อาการสาหัส นักท่องเที่ยวบันทึกเหตุการณ์ไว้ได้ พ.ต.อ.นิรุชพล โยธามาตย์ ผกก.สน.คันนายาว เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (10 ก.ย.68) ได้รับรายงานว่า เกิดเหตุสิงโตทำร้ายเจ้าหน้าที่ ภายในสวนสัตว์ของเอกชน จากการตรวจสอบพบว่า เจ้าหน้าที่ลงไปให้อาหาร โดยไม่ปฏิบัติตามกฎของบริษัท จึงทำให้ถูกสิงโตรุมทำร้าย เบื้องต้นอาการสาหัส นำตัวส่งโรงพยาบาล ประสานพนักงานสอบสวนเชิญตัวเจ้าหน้าที่ของสวนสัตว์มาสอบปากคำ และลงบันทึกประจำวัน โดยยังไม่มีญาติของเจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายมาแจ้งความแต่อย่างใด ทั้งนี้ ในคลิปเป็นเหตุการณ์ที่นักท่องเที่ยวบันทึกไว้ได้ บริเวณส่วนจัดแสดงสิงโต มีรั้วขนาดใหญ่เปิดให้รถเข้า-ออก เป็นพื้นที่เปิด ให้นักท่องเที่ยวขับรถเข้าไปด้านใน มีป้ายกำกับชัดเจนห้ามเปิดกระจกและห้ามลงจากรถ ด้านในจะมีรถของสวนสัตว์จอดดูแลความปลอดภัย และบางช่วงมีการจัดแสดงโชว์ให้อาหารสิงโตที่อยู่ด้านใน.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

รวบ ผอ.กองช่าง เรียกรับสินบน แลกใบอนุญาตถมดิน-สร้างหอพัก

ปทุมธานี 11 ก.ย. – หลักฐานคาโต๊ะ! ป.ป.ช. สนธิกำลังตำรวจ บุกจับ ผอ.กองช่างเทศบาลหลักหก จ.ปทุมธานี คาห้องทำงาน พร้อมเงินสดของกลาง 1.9 แสนบาท หลังเรียกรับสินบน แลกใบอนุญาตถมดิน-สร้างหอพัก 8 ชั้น ด้านเจ้าตัวปฏิเสธ อ้างผู้เสียหายนำมาให้เอง เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. ภาค 1 นำโดย น.ส.ชฎารัตน์ อนรรฆอร รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภาค 1 วางแผนร่วมกับชุดสืบสวนสำนักงาน ป.ป.ช. และตำรวจสืบสวนภูธรภาค นำหมายศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 เข้าตรวจค้น พร้อมจับกุมนายวีระเชษฐ์ อายุ 59 ปี ผู้อำนวยการกองช่าง เทศบาลตำบลหลักหก จ.ปทุมธานี ภายในห้องทำงาน เทศบาลตำบลหลักหก หลังมีพฤติการณ์เรียกรับเงินจากผู้ขออนุญาตถมดินและขออนุญาตก่อสร้างอาคาร พร้อมตรวจยึดเงินของกลาง ซุกซ่อนอยู่ที่พื้นใต้ลิ้นชักโต๊ะทำงาน 190,000 บาท เบื้องต้นจากการตรวจหมายเลขธนบัตร ตรงกับสำเนาธนบัตรที่ผู้เสียหายนำไปมอบให้กับนายวีระเชษฐ์ ก่อนหน้านี้ และเจ้าหน้าที่ได้ถ่ายสำเนาและลงรายงานประจำวันเกี่ยวกับคดีไว้เป็นหลักฐาน […]

ปิดล้อมไล่ล่าผู้ก่อเหตุ หลังปะทะเดือดสะบ้าย้อย 2 ระลอก

สงขลา 11 ก.ย. – เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง วางกำลังปิดล้อมพื้นที่บ้านห้วยเต่า อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา ไล่ล่ากลุ่มก่อความไม่สงบ หลังเหตุปะทะเดือด 2 ระลอก พบผู้ก่อเหตุมีหมายจับคดีความมั่นคง หลังเหตุปะทะเดือด 2 ระลอก ระหว่างเจ้าหน้าที่กับกลุ่มก่อความไม่สงบ ในพื้นที่บ้านห้วยเต่า อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ทั้งทหาร ตำรวจ วางกำลังบนถนนเส้นทางเข้าออกพื้นที่ปะทะ ไม่ให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าเขตปะทะอย่างเด็ดขาด เนื่องจากสถานการณ์ยังไม่นิ่ง ยังคงมีการปิดล้อมบริเวณเนินเขา เพื่อไล่ล่ากลุ่มผู้ก่อเหตุ มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่พบรอยเลือดและกระเป๋าเป้ถูกทิ้งไว้บนเนินเขา บริเวณจุดปะทะ คาดว่ากลุ่มคนร้ายน่าจะได้รับบาดเจ็บด้วย สำหรับกลุ่มคนร้ายที่ปะทะกับเจ้าหน้าที่ เบื้องต้นมีข้อมูลว่า เป็นกลุ่มของนายกอเซ็ง ลาเตะยามา อายุ 35 ปี ชาว อ.ยะหา จ.ยะลา ผู้ต้องหาคดีความมั่นคง ซึ่งมีหมายจับ 7 หมาย และนายฮุสนี ยีกะเส็ม อายุ 34 ปี ชาว อ.เทพา จ.สงขลา มีหมายจับ […]

กักสิงโตสวนสัตว์ดัง-ปรับพฤติกรรม

กรุงเทพฯ 11 ก.ย. – เจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ สั่งกักสิงโตสวนสัตว์ดัง เพื่อปรับพฤติกรรม แยกเพศ-เฝ้าสังเกตใกล้ชิด เจ้าหน้าที่จากกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ลงพื้นที่สวนสัตว์ดัง ย่านคลองสามวา กรุงเทพฯ หลังเกิดเหตุสิงโตทำร้ายเจ้าหน้าที่ดูแลสัตว์เสียชีวิต โดยได้สั่งการให้กักสิงโตทั้งหมดในฝูงที่ก่อเหตุไว้ในกรงชั่วคราว แยกสิงโตเพศผู้และเพศเมีย เพื่อเฝ้าสังเกตพฤติกรรมในระยะใกล้ สำหรับสิงโตที่เข้าตะปบเจ้าหน้าที่จนเสียชีวิต เป็นตัวผู้ โดยสิงโตร่วมฝูงมี 7 ตัว แต่ที่เข้ารุมกัดเจ้าหน้าที่มี 5 ตัว ได้แก่ 1) ทรัมป์ (เพศผู้) ตัวตะปบ 2) ไบท์ (เพศผู้) ตัวตาม 3) อ้อน (เพศเมีย) ตัวตาม 4) อ้าย (เพศเมีย) ตัวตาม 5) ยาว (เพศเมีย) ตัวตาม ทั้งนี้ สิงโตทุกตัวอายุประมาณ 10 ปี พร้อมกันนี้ สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กำลังตรวจสอบมาตรการความปลอดภัย และจะไม่อนุญาตให้เปิดส่วนจัดแสดงสัตว์ดุร้าย […]

เร่งฟื้นฟูความเสียหายเหตุกระบะชนเสาไฟฟ้า

เชียงใหม่ 11 ก.ย. – เร่งฟื้นฟูความเสียหายเหตุกระบะชนเสาไฟฟ้าล้ม ถนนหนองฮ่อ ต.ช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่ ชาวบ้านกังวล หลังทราบว่าประกันรถกระบะคันต้นเหตุ คุ้มครองความเสียหายแค่ 600,000 บาท วอนการไฟฟ้า หรือ อบต.ช้างเผือก ยื่นมือช่วยเหลือ ตลอดช่วงเช้าวันนี้ (11 ก.ย.) เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ยังคงระดมกำลังฟื้นฟูระบบไฟฟ้าบนถนนหนองฮ่อ ต.ช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่ โดยขุดหลุมติดตั้งเสาไฟฟ้าแรงสูงและแรงต่ำทดแทนต้นเดิมที่ล้มเสียหายจากอุบัติเหตุ ตลอดเส้นทางเป็นระยะทาง 595 เมตร พร้อมเก็บซากอุปกรณ์ตามร้านค้าและบ้านเรือนประชาชนที่ได้รับความเสียหาย คาดว่าจะใช้เวลาอีก 3 วันจะดำเนินการแล้วเสร็จ ขณะที่ระบบไฟฟ้าถูกแก้ไขจนสามารถจ่ายไฟได้ครบทุกหลังคาเรือนแล้วตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา ว่าที่ร้อยตรี ปรีชาพล ปาละโมงค์ หนึ่งในเจ้าของร้านที่ได้รับความเสียหาย บอกว่า ช่างมาประเมินความเสียหายที่เกิดขึ้นกับหลังคาและโครงสร้าง ประมาณ 150,000 บาท แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนในเรื่องการชดใช้เยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้น ทำให้ยังเปิดร้านไม่ได้ ขาดรายได้ แถมยังมีค่าใช้จ่ายอีกมาก และจนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับการติดต่อแสดงความรับผิดชอบจากนายจ้างของกระบะส่งน้ำ ตอนนี้ทุกคนกังวลมาก เพราะทราบว่าประกันรถที่เกิดอุบัติเหตุคุ้มครองความเสียหายเพียง 600,000 บาท ไม่เพียงพอกับมูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน จึงทยอยเข้าแจ้งความกันไว้แล้ว ขอเรียกร้องให้ทางการไฟฟ้า หรือ […]