ผู้สมัครส.ส.พลังปวงชนไทยโวยพรรคเบี้ยวค่าใช้จ่ายหาเสียง

สำนักงาน กกต. 4 มี.ค.- ผู้สมัคร  ส.ส.พลังปวงชนไทย หารือ กกต. หลังถูกพรรคเบี้ยวค่าใช้จ่ายหาเสียง  ผู้สมัครนครพนม ร่ำไห้ ขอโทษประชาชนยอมรับตัดสินใจเลือกพรรคผิด


 สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง  นายสุบัน สุวรรณรัตน์ ผู้สมัคร ส.ส.จังหวัดสงขลา  เขต 4 พรรคพลังปวงชนไทย  พร้อมกับผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคในหลายจังหวัด เข้าพบเจ้าหน้าที่กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อขอหารือกรณีพรรคพลังปวงชนไทยหลอกลวง  ต้มตุ๋น ผู้สมัครของพรรคให้ลงทุนสมัครรับเลือกตั้ง รวมถึงค่าใช้จ่ายในการจัดตั้งสำนักงานสาขาพรรคประจำจังหวัด และค่าใช้จ่ายในการหาเสียงเลือกตั้ง ทำให้ได้รับความเสียหาย ตั้งแต่หลักแสนถึงหลักล้านบาท ที่ผ่านมาผู้สมัครพยายามทวงถามค่าใช้จ่ายแต่พรรคบ่ายเบี่ยงมาตลอด จนไม่สามารถแบกภาระหนี้สินต่อไปได้  จึงต้องรวมตัวกันขอหารือกับ กกต. เพื่อยุบพรรคพลังปวงชนไทยก่อนที่จะมีการเลือกตั้งในวันที่ 24 มีนาคมนี้

นายสุบัน   กล่าวว่า ผู้สมัครของพรรคเสียเงินหลายแสนบาทในการลงทุน บางคนต้องเสียถึงหลักล้านบาท   เพื่อใช้ในการหาเสียง การจัดตั้งสำนักงานสาขา ค่าจ้างทำโปสเตอร์ และค่ารถแห่หาเสียง   พวกเราเชื่อมั่นในอุดมการณ์ประชาธิปไตยของพรรค โดยเฉพาะชื่อเสียงของ พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร  ซึ่งเคยเป็นบุคลากรที่สำคัญของประเทศ เคยเป็นผู้บัญชาการทหารบกและผู้บัญชาการทหารสูงสุด และมีบทบาทเป็นประธานที่ปรึกษาของพรรค แต่พวกเราเหมือนถูกหลอกลวง ถูกต้มตุ๋น ฉ้อโกง  และถูกหลอกใช้ให้ช่วยลงสมัครในนามของพรรค เพราะพรรคต้องการทำคะแนนไปคำนวณเป็นบัญชีปาร์ตี้ลิสต์     


ก่อนหน้านี้นายนิคม บุญวิเศษ  หัวหน้าพรรค รับปากว่าจะสนับสนุนเงินค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งให้ผู้สมัครคนละ 2 ล้านบาท พวกเราจึงหลงเชื่อยอมเป็นผู้สมัครของพรรค จนต้องเสื่อมเสียชื่อเสียงถูกตามทวงหนี้ บางคนต้องเป็นหนี้เป็นสิน และยอมขายทรัพย์สินของตัวเองมาใช้ในการเลือกตั้ง   เงินค่าบำรุงพรรคตลอดชีพ 2,000 บาท  ก็ไม่รู้ไปอยู่ที่ไหน บิลค่าใช้จ่ายที่พรรคต้องออกให้เราก็ไม่เคยได้รับ แม้แต่เสื้อแจ๊กเก็ต เสื้อยืดคอโปโล ที่พรรคควรสนับสนุนให้ผู้สมัครทุกคนได้สวมใส่ แต่พรรคนี้ผู้สมัครต้องจ่ายเงินซื้อเอง ราคาตัวละ 1,000 บาท   

นายสุบัน  กล่าวว่า ก่อนตัดสินใจเดินทางมายัง กกต. ผู้สมัครบางคนได้ติดต่อไปยัง พล.อ.ชัยสิทธิ์สอบถามเรื่องเงินค่าใช้จ่าย ที่พรรคควรสนับสนุน แต่พล.อ.ชัยสิทธิ์ขอให้รออีก 1 สัปดาห์ เพราะพรรคกำลังหาเงินอยู่  ขอให้อดใจรอ  ขณะที่กรรมการบริหารพรรคบอกว่าถ้าไม่มีเงินก็ให้หยุดไป ไม่ต้องหาเสียงแล้ว  พวกเราจึงเห็นว่าเรื่องนี้รอไม่ได้แล้ว  เพราะพรรคได้บ่ายเบี่ยงผัดผ่อนมาตั้งแต่เดือนธันวาคม 2561 หากรอต่อไปคงไม่ทันแล้วเพราะอีกไม่กี่วันก็จะถึงวันเลือกตั้งแล้ว ก็ไม่รู้ว่าจะต้องเสียค่าใช้จ่ายอีกเท่าไร 

“จึงขอฝากประชาชนว่าพรรคพลังปวงชนไทยเป็นพรรคหลอกลวง  ต้มตุ๋น มีสิทธิถูกยุบพรรค ผมจึงไม่อยากให้คะแนนของพวกเราไปอยู่ที่ปาร์ตี้ลิสต์ของพรรคนี้   คิดให้ดีไตร่ตรองให้ดี เพราะพรรคนี้หลอกลวงแม้กระทั่งผู้สมัครของพรรค”นายสุบัน กล่าว


ด้านพ.ต.ท.หญิงศิวนาถ พวงแก้ว ผู้สมัครเขต 3 นครพนม กล่าวทั้งน้ำตาว่า ตนไม่เคยสนใจการเมืองหลังเกษียณราชการก็ประกอบธุรกิจตรวจสอบสภาพรถยนต์   สาเหตุที่ตัดสินใจลงสมัครในนามพรรคพลังปวงชนไทยเพราะนายนิคมขับรถไปชวนถึงบ้าน และลงทุนเช่าอาคารเป็นสาขาพรรค เพื่อให้พรรคสามารถส่งผู้สมัครได้ทั้งจังหวัด เรื่องค่าใช้จ่ายที่เสียไปทั้งหมดไม่อยากระบุตัวเลข ไม่อยากบอกว่าหมดไปกี่แสน  ทุกวันนี้เป็นหนี้จนต้องกดเงินจากบัตรเครดิตมาใช้หนี้  รถหาเสียงที่ลงทุนเองต้องหยุดวิ่งทั้งหมด 

“วันนี้จึงต้องขอโทษชาวนครพนม ยอมรับว่าตัวเองตัดสินใจผิด   ขอรับผิดแต่เพียงผู้เดียว นอกนั้นขอให้สังคมพิจารณาเอง” พ.ต.ท.หญิงศิวนาถ กล่าว 

 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับผู้สมัครรายอื่น ๆ  ได้ประสบเหตุในลักษณะเดียวกัน คือ ยอมลงสมัครรับเลือกตั้งในสังกัดของพรรคพลังปวงชนไทย โดยเชื่อมั่นในตัวพล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร และพรรคจะสนับสนุนค่าใช้จ่ายการเลือกตั้ง   เพราะพรรคต้องการนำคะแนนไปนับรวมเพื่อให้กรรมการบริหารพรรคได้เป็นส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ โดยมีลักษณะการเชิญชวนคล้ายเป็นส.ส.แบบขายตรง    ดังนั้นในวันพรุ่งนี้ ( 5 มี.ค.) บรรดาผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคพร้อมทนายความ จะเข้ายื่นเอกสารคำร้องขอให้ตรวจสอบการกระทำของพรรคพลังปวงชนไทยต่อ  กกต.อย่างเป็นทางการ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สมุทรปราการอ่วม! ปิด 25 โรงเรียนหนีน้ำท่วม

สมุทรปราการ 8 ก.ย.- สมุทรปราการอ่วม! ระดับน้ำยังท่วมสูง หลังฝนตกหนักทั้งคืน ด้าน สพท. สั่งปิดแล้ว 25 โรงเรียน ปรับให้สอนแบบออนไลน์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา หรือ สพท. สั่งปิด 25 โรงเรียนจังหวัดสมุทรปราการ 1 วัน พร้อมปรับการเรียนเป็นแบบออนไลน์ เพื่อความปลอดภัยของนักเรียนและผู้ปกครอง หลังฝนตกหนักทั้งคืน ถนนสายสำคัญหลายเส้นถูกน้ำท่วม บางแห่งสูงกว่า 30 เซนติเมตร รวมถึงตรอกซอกซอยต่าง ๆ โดยบางพื้นที่น้ำได้ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ขณะเดียวกันหลายจุดยังคงมีน้ำท่วมขัง ระบายออกไม่ได้ เนื่องจากระดับน้ำในคลองสายหลักสูง ประกอบกับน้ำทะเลหนุน เจ้าหน้าที่เร่งระบายน้ำ หากฝนไม่ตกลงมาซ้ำ คาดว่าบ่ายวันนี้สถานการณ์จะเข้าสู่สภาวะปกติ ทั้งนี้ มีรายงานว่าเกิดเหตุ หนุ่มวัย 17 ปี เข็นรถจักรยานยนต์ฝ่าน้ำ ถูกไฟรั่วจากแบริเออร์ก่อสร้างบนถนนแพรกษา ช็อตเสียชีวิตต่อหน้าเพื่อนบ้าน เจ้าหน้าที่เร่งสอบหาสาเหตุและป้องกันเหตุซ้ำ -สำนักข่าวไทย

ศาลสั่งจำคุก 2 ปี 8 เดือน ไม่รอลงอาญา “สส.ลูกเกด” คดี ม.112

กรุงเทพฯ 8 ก.ย. – ศาลสั่งจำคุก 4 ปี “ลูกเกด ชลธิชา” สส.ประชาชน คดี ม.112 คำให้การเป็นประโยชน์ลดโทษเหลือ 2 ปี 8 เดือน ส่าสุดศาลให้กันประกันตัวแล้ว กำหนดเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่จะได้รับอนุญาต วันนี้ ( 8 ก.ย.) ที่ห้องพิจารณา 901 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีดูหมิ่นสถาบัน หมายเลขดำ อ.595/65 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 4 เป็นโจทก์ ฟ้อง น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว หรือลูกเกด สส.พรรคประชาชน จ.ปทุมธานี เป็นจำเลยในความผิด ดูหมิ่นสถาบัน ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.112 , พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฯ ม.4 (3) จากกรณีเมื่อวันที่ 8 พ.ย.63 จำเลยได้โพสต์ข้อความ ลงในเฟซบุ๊กตัวเอง เกี่ยวกับราษฎรสาส์น […]

รื้อทั้งยวง! โผ ครม.อนุทิน 1 เหตุ “ธรรมนัส” คุมท่องเที่ยว ภท.ต้องเกลี่ยใหม่

กรุงเทพฯ 7 ก.ย. – โผ ครม. “อนุทิน 1” รื้อทั้งยวง หลัง “ธรรมนัส” คุมท่องเที่ยว ทำภูมิใจไทยต้องเกลี่ยใหม่ “ไชยชนก” ดีอี “ซาบีดา” วัฒนธรรม รอเปิดคนนอก “กลาโหม-ยุติธรรม” แว่วพลตำรวจโท อดีตรองผู้การภาค 3 ติดโผ จับตา “ศักดิ์ดา” ร่วมด้วย​ ด้าน “นิพนธ์” จ่อดันลูกสาวเป็นรัฐมนตรีป้ายแดง เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับโผ ครม.ล่าสุด พรรคภูมิใจไทยจะได้เก้าอี้รัฐมนตรีส่วนใหญ่ประมาณ 12 ที่นั่ง โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล นั่งนายกรัฐมนตรี ควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายทรงศักดิ์ ทองศรี นั่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ นั่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นายไชยชนก ชิดชอบ เลขาธิการพรรค จะนั่งตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ขณะที่นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล […]

ชัยภูมิน้ำท่วมหนัก หลังฝนตกตลอดคืน

ชัยภูมิ 7 ก.ย.-น้ำท่วมหนักใน 3 อำเภอของจังหวัดชัยภูมิ หลังฝนตกหนักตลอดทั้งคืน สภาพภายในวัดดอนไผ่ ริมถนนชัยภูมิ-นครสวรรค์ อำเภอบ้านเขว้า จังหวัดชัยภูมิ เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (7 ก.ย.) หลังพายุฝนกระหน่ำตลอดทั้งคืน ระดับน้ำท่วมสูง 50 เซนติเมตร พระสงฆ์ต้องอพยพหนีน้ำท่วมไปฉันอาหารอยู่บนที่สูง ขณะนี้ระดับน้ำยังไม่ลดลง นอกจากนี้ ยังเกิดน้ำท่วมใน 3 อำเภอ คือ อำเภอเมือง ย่านเศรษฐกิจในตัวอำเภอแก้งคร้อ และอำเภอบ้านเขว้า น้ำป่าสีแดงขุ่นไหลเข้าท่วมถนนสาย 225 ชัยภูมิ-นครสวรรค์ รวมถึงร้านค้า บ้านเรือนประชาชน โดยเฉพาะที่วัดกลางโนนแดง และวัดดอนไผ่ สาเหตุมาจากกรมทางหลวงก่อสร้างถนน 4 เลน ตัดผ่านบ้านโนนแดง ต.โนนแดง อ.บ้านเขว้า ทำให้น้ำป่าที่ไหลมาจากเขาภูแลนคา ไม่สามารถไหลไปลงแม่น้ำชีได้.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

บ้านห้วยเต่าปะทะเดือด! ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ

สงขลา 11 ก.ย.- ปะทะเดือด! เจ้าหน้าที่ปิดล้อมไล่ล่ากลุ่มก่อความไม่สงบ บ้านห้วยเต่า ขณะที่รถหุ้มเกราะทหารตกเหวขณะเข้าไปช่วยเหตุปะทะ บาดเจ็บ 8 นาย เกิดเหตุปะทะที่บ้านห้วยเต่า อำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา ขณะที่ชุดจรยุทธกำลังลาดตระเวนในพื้นที่ได้พบกลุ่มคนร้ายประมาณ 4-5 คน ซึ่งทราบภายหลังว่าเป็นชุดของนายอุสมี ได้เปิดฉากยิงใส่เจ้าหน้าที่และหลบหนีเข้าไปในบ้านห้วยเต่า ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ 3 ฝ่ายของอำเภอสะบ้าย้อยและพื้นที่ใกล้เคียงได้ปิดล้อมพื้นที่ไว้แล้ว เจ้าหน้าที่ความมั่นคงจังหวัดชายแดนภาคใต้ บอกว่า นายอุสมีน่าจะมีกำลังอยู่ประมาณ 4-5 คน และเคลื่อนไหวในพื้นที่อำเภอสะบ้าย้อยเป็นหลัก ขณะที่รถหุ้มเกราะทหาร ร.5 พัน 3 ตกเหว ขณะเข้าไปช่วยเหตุปะทะ มีทหารบาดเจ็บ 8 นาย นำตัวส่ง รพ. นาทวี แล้ว ด้าน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ได้รับรายงานเรื่องการปะทะเดือด พื้นที่บ้านห้วยเต่า แล้ว -สำนักข่าวไทย

อุตุฯ เตือนภาคเหนือมีฝนตกหนักบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 70%

กรุงเทพฯ 11 ก.ย. – กรมอุตุฯ เตือนภาคเหนือมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนัก อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 70% กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้ โดยภาคเหนือมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือและตอนบนของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบน มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส.-สำนักข่าวไทย

เร่งหาสาเหตุ จนท.สวนสัตว์ลงจากรถ ก่อนถูกสิงโตรุมขย้ำ

10 ก.ย. – เหตุสลด จนท.สวนสัตว์เอกชนแห่งหนึ่งถูกสิงโตรุมขย้ำจนเสียชีวิต ขณะลงจากรถ ทางสวนสัตว์เร่งหาสาเหตุลงไปทำไม ทั้งที่เจ้าตัวทราบกฎของสวนสัตว์ดีอยู่แล้ว นักท่องเที่ยวอินเดียบันทึกเหตุการณ์ขณะเจ้าหน้าที่สวนสัตว์เอกชนแห่งหนึ่งลงจากรถ ก่อนถูกสิงโตตัวแรกเข้ามากัดจากทางด้านหลัง แล้วลากไปให้เพื่อนสิงโตอีก 4 ตัว รุมขย้ำ โดยในคลิปเจ้าหน้าที่ไม่ได้ดิ้นขัดขืน และไม่ได้ร้องขอความช่วยเหลือ ก่อนนอนแน่นิ่งและถูกรุมกัดจนเสียชีวิต ขณะที่ พ.อ.นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ อดีตอาจารย์และแพทย์ศัลยกรรม โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า หรือเป็นที่รู้จักในฐานะหมอที่มาช่วยเหลือคดีการเสียชีวิตของแตงโม ซึ่งเป็นผู้เห็นเหตุการณ์สิงโตรุมขย้ำเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ ระบุว่า วันนี้ตนมาเที่ยวสวนสัตว์ โดยได้ขับรถเข้าไปในโซนซาฟารี ขณะนั้นมีรถนักท่องเที่ยวหลายคันเข้าชม เมื่อมาถึงบริเวณโซนสิงโต พบว่ามีรถของเจ้าหน้าที่รายหนึ่ง ซึ่งเป็นรถของสวนสัตว์จอดอยู่คันเดียว ตอนนั้นตนเองก็รู้สึกผิดสังเกต เพราะช่วงเวลาดังกล่าวไม่ใช่ช่วงเวลาให้อาหารสัตว์ และเจ้าหน้าที่รายนี้อยู่คนเดียว ได้ลงมายืนข้างนอกรถ ฝั่งคนขับ โดยเปิดประตูรถทิ้งไว้ แต่ไม่ได้ทำอะไร แค่ยืนเฉยๆ ลักษณะยืนหันหน้าเข้าหารถ หันหลังให้สัตว์ ซึ่งตนรู้สึกแปลกใจอย่างมาก แต่เนื่องจากมีต้นไม้บัง ตนก็เลยไม่เห็นว่าในมือถืออะไร จากนั้นประมาณ 3 นาที มีสิงโตตัวหนึ่งค่อยๆ ย่องมาข้างหลัง ก่อนตะครุบเข้าทางด้านหลังเจ้าหน้าที่ทันที โดยเจ้าหน้าที่รายดังกล่าวไม่ได้มีท่าทีขัดขืน ดิ้นรนต่อสู้ หรือร้องขอชีวิตแต่อย่างใด หลังจากนั้นสิงโตตัวอื่นๆ ก็ค่อยๆ […]

เร่งซ่อมพนังกั้นน้ำยังขาดให้เสร็จภายในคืนนี้

ร้อยเอ็ด 10 ก.ย. – เจ้าหน้าที่เร่งซ่อมแซมถนนสายบ้านทรายมูล-โพธิ์ตาก ซึ่งเสมือนพนังกั้นน้ำยัง หลังถูกกระแสน้ำกัดเซาะจนขาด เมื่อช่วงเช้าวานนี้ โดยต้องปรับแผนนำเสาไฟฟ้ามาวางขวางเป็นแนวบิ๊กแบ็ก เพื่อให้แล้วเสร็จภายในคืนนี้. – สำนักข่าวไทย