กรุงเทพฯ 3 เม.ย.- ผู้สมัครพรรคพลังปวงชนไทยแจ้งความกองปราบ อ้างถูกแกนนำพรรคฯหลอกลงเลือกตั้ง
นายสุบัน สุวรรณรัตน์ ผู้สมัคร ส.ส.พรรคพลังปวงชนไทย(พลท.) เขต 4 จังหวัดสงขลา พร้อมทนายความและกรรมการสาขาจังหวัด เข้าร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนกองปราบ เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับกรรมการบริหารพรรค ฐานฉ้อโกง อ้างถูกกรรมการบริหารพรรคหลอกลวงให้สมัครเป็นสมาชิกลงเลือกตั้ง โดยสัญญาว่าจะให้ค่าใช้จ่ายสำหรับหาเสียงแก่สมาชิกรายละ 1.5 ล้านบาท แต่ปรากฎว่าลูกพรรคต้องออกค่าใช้จ่ายดำเนินการเองทั้งหมดจนบางรายเป็นหนี้สิน
นายสุบัน กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ตนและลูกพรรคบางส่วน เคยไปร้องเรียนกับคณะกรรมการเลือกตั้ง(กกต.) ร้องขอให้ยุบพรรค พลท. เนื่องจากกรรมการบริหารพรรคผิดสัญญา ซึ่งเคยมีข้อเสนอสวยหรู นับแต่รวบรวมรายชื่อจัดตั้งพรรคการเมืองว่า หากมาสมัครเป็นสมาชิกพรรคจะไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการหาเสียง โดยทางพรรคจะให้เงินคนละไม่เกิน 1.5 ล้านบาทซึ่งเป็นงบประมาณตามที่ กกต. กำหนด แต่กลายเป็นว่า ลูกพรรคทั้งหมด 269 ราย ที่ลงรับสมัครตำแหน่ง ส.ส.เขตทั่วประเทศ ต้องนำเงินส่วนตัวออกมาใช้จ่ายจนเกิดหนี้สินกว่าหลักล้านบาท แม้ทวงถามไป ทางพรรคก็เบี่ยงบ่ายและอ้างว่าจะชดเชยคืนให้เรื่อยมา จนกระทั่งปัจจุบันยังไม่มีใครได้รับ หรือได้คืนครบตามวงเงินที่กำหนด ทั้งที่ทราบมาว่า กกต.ได้มอบเงินสนับสนุนพรรคกว่า 30 ล้านบาทเรียบร้อยแล้ว ในวันนี้จึงรวบรวมรายชื่อผู้ร้องทุกข์ทั่วประเทศรวม 50 คนประกอบการแจ้งความด้วย
อย่างไรก็ตาม สมาชิกพรรค พลท. รายหนึ่ง นำภาพที่ถูกเผยแพร่ในไลน์กลุ่มของสมาชิก เป็นรูปนายนิคม บุญวิเศษ หัวหน้าพรรคและ ส.ส.บัญชีรายชื่อเพียงคนเดียวของพรรค ได้เดินทางไปยังประเทศดูไบ เพื่อเข้าพบนายทักษิณ ชินวัตร เป็นการยืนยันว่าได้เข้าปรึกษาหารือการบริหารจัดการงบประมาณภายในพรรค
โดยระหว่างเข้าพบพนักงานสอบสวน ได้มีตัวแทนฝ่ายกฎหมายของพรรคพร้อมกรรมการบริหาร เข้าเจรจาไกล่เกลี่ยกับผู้สมัคร แต่ไม่เป็นผล ผู้เสียหายยืนยันจะเดินหน้าแจ้งความดำเนินคดีต่อไป
ด้านนายประเทศ ทับทิมหิน รองหัวหน้าพรรค พลท.ยืนยันว่า ทางพรรคยังไม่ได้รับเงินสนับสนุนจาก กกต. ตามที่อดีตผู้สมัครบางรายกล่าวอ้าง ซึ่งอาจจะเป็นความเข้าใจผิด นอกจากนี้ ทางกรรมการบริหารพรรคได้ประชุมลงมติขับผู้สมัคร ส.ส.จำนวน 4 ราย ที่ออกมาร้องเรียนต่อ กกต. พ้นจากสถานะ ไปแล้วตั้งแต่เมื่อวันที่ 5 มีนาคมที่ผ่านมา ส่วนกรณีที่สมาชิกพรรคเปิดเผยภาพนายนิคม ไปเข้าพบกับ นายทักษิณ นั้นเป็นภาพเก่ากว่า 10 ปีแล้ว ไม่ใช่ภาพปัจจุบัน ซึ่งนายนิคม มีความสนิทสนมกับนายทักษิณ และชอบไปทำบุญร่วมกัน ต่อจากนี้ทางพรรค เตรียมที่จะแจ้งความดำเนินคดีกลับฐานแจ้งความเท็จ และหมิ่นประมาททำให้พรรคเสื่อมเสียชื่อเสียงต่อไป
เบื้องต้น พนักงานสอบสวนรับเรื่องร้องทุกข์ไว้พร้อมสอบปากคำผู้แจ้งความ ก่อนรวบรวมพยานหลักฐานและรายงานเสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณาดำเนินการต่อไป.-สำนักข่าวไทย