กรุงเทพฯ 23 ก.พ. – คณะอนุกรรมการกลั่นกรองนำเรือประมงออกนอกระบบฯ สรุปจ่ายชดเชยเรือประมงขาว-แดง กลุ่มแรก 305 ลำ ใช้ภาพถ่ายปี 58 ประเมิน แบ่งจ่าย 2 งวด เตรียมเสนอรองนายกรัฐมนตรีเห็นชอบ เพื่อนำเข้าสู่การพิจารณาของ ครม.ต่อไป
นายอรุณชัย พุทธเจริญ รองอธิบดีกรมประมง กล่าวถึงความคืบหน้าของการประชุมคณะอนุกรรมการกลั่นกรองนำเรือประมงออกนอกระบบเพื่อจัดการทรัพยากรประมงที่ยั่งยืน ซึ่งมีนายกฤษฎา บุญราช เป็นประธาน ว่า กลุ่มเรือขาว-แดงที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการรัฐ ไม่สามารถทำประมงได้ตั้งแต่ปี 2558 จะได้รับค่าชดเชยเป็นกลุ่มแรก 305 ลำ กรมประมงทำเอกสารต่าง ๆ สรุปเสนอพลเอกฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี ประธานคณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย ซึ่งเสนอต่อไปยังคณะกรรมการขับเคลื่อนและปฏิรูปการบริหารราชการแผ่นดิน คณะที่ 5 (กขป.5 ) ซึ่งมีพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน เพื่อนำเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบอนุมัติงบประมาณค่าชดเชยแก่เจ้าของเรือประมงแล้ว
ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะอนุกรรมการกลั่นกรองประมงออกนอกระบบฯ พิจารณาวิธีการจ่ายค่าชดเชย กำหนดให้เรือที่จะได้รับค่าชดเชยต้องผ่านการตรวจสอบของคณะทำงานตรวจสอบประวัติว่าเจ้าของเรือไม่เคยต้องคดีและเรือนั้นไม่เคยถูกใช้ในการกระทำผิด พ.ร.บ. ประมง พ.ร.บ. เจ้าท่า และ พ.ร.บ.แรงงาน นอกจากนี้ ต้องผ่านการตรวจสอบของคณะทำงานประเมินมูลค่าเรือ กรมประมงจะเร่งกำหนดขั้นตอนและระยะเวลาที่ต้องทำจากนี้ไป ได้แก่ การให้เจ้าของเรือมาทำสัญญารับค่าชดเชย จากนั้นโอนเงินงวดแรกให้ร้อยละ 30 เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับการทำลายเรือ โดยการทำลายเรือต้องเป็นไปตามประกาศและคำสั่งของกรมเจ้าท่า ซึ่งทั้งเครื่องยนต์และไม้ที่เป็นโครงเรือนั้นเป็นสิทธิ์ของเจ้าของเรือ เมื่อทำลายเรือทิ้งแล้ว คณะทำงานฯ ในพื้นที่จะรายงานมายังคณะทำงานฯ ส่วนกลาง เพื่อจ่ายค่าชดเชยส่วนที่เหลือร้อยละ 70 ซึ่งผลสรุปดังกล่าวนี้กรมประมงที่เป็นฝ่ายเลขานุการของคณะอนุกรรมการกลั่นกรองนำเรือประมงออกนอกระบบจะเร่งสรุปรายละเอียดเสนอพลเอกฉัตรชัย พิจารณา เพื่อนำเข้าที่ประชุม ครม.ให้ความเห็นชอบ ก่อนหน้านี้นายกฤษฎา ได้สั่งการเจ้าหน้าที่ประมงพื้นที่ 22 จังหวัดชายทะเลให้เร่งประชาสัมพันธ์ชาวประมงถึงความคืบหน้าในการดำเนินการดังกล่าว หากเจ้าของเรือรายไหนมีข้อสังสัยว่าเหตุใดยังไม่ได้รับการจ่ายค่าชดเชยในรอบแรกสามารถอุทธรณ์มาถึงรัฐมนตรีเกษตรฯ ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการกลั่นกรองนำเรือประมงออกนอกระบบฯ ได้
ด้านนายสุรเดช นิลอุบล นายกสมาคมประมงสงขลาและนายบุญธรรม เจริญกล้า นายกสมาคมประมงอำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี กล่าวว่า ในฐานะผู้แทนสมาคมท้องถิ่น 22 จังหวัดชายทะเลของชาวประมงพึงพอใจในมติของคณะอนุกรรมการกลั่นกรองฯ ยอมรับเงื่อนไขการจ่ายค่าชดเชยไม่เกินร้อยละ 50 โดยใช้ภาพถ่ายเรือปี 2558 มาประเมินมูลค่าตามสภาพ นอกจากนี้ สมาคมประมงท้องถิ่นใน 22 จังหวัดชายทะเลยังพร้อมร่วมมือกับภาครัฐประสานงานกับชาวประมง เพื่อให้กระบวนการต่าง ๆ เร็วขึ้น ได้แก่ เมื่อรับค่าชดเชยงวดแรกจะเร่งให้ชาวประมงทำลายเรือ เพื่อที่จะรับค่าชดเชยงวดที่ 2 จนครบ พร้อมกันนี้ขอขอบคุณนายกฤษฎา ที่เร่งช่วยเหลือชาวประมงกลุ่มเรือขาว-แดง หลังจากที่รัฐออกมาตรการต่าง ๆ ทำให้ชาวประมงกลุ่มนี้ไม่สามารถนำเรือออกทำประมงได้เป็นเวลา 4 ปี จนกระทั่งนายกฤษฎา ได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรีให้เป็นประธานคณะอนุกรรมการกลั่นกรองเรือประมงออกนอกระบบฯ เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2561 นั้น ผู้แทนชาวประมงได้เข้าพบ โดยนายกฤษฎารับปากว่าจะดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายในเดือนกุมภาพันธ์ แล้วได้ทำตามที่กล่าวไว้ นับเป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างยิ่ง เนื่องจากชาวประมงที่เดือดร้อนมานานจะได้รับค่าชดเชยเป็นเงินทุนสำหรับประกอบอาชีพอื่นต่อไป.-สำนักข่าวไทย