กรุงเทพฯ 22 ก.พ.-ตำรวจคาดรถสิบล้อยิงใส่รถเก๋งย่านบางเขนเหตุไม่พอใจขับรถปาดหน้ากัน
พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีสื่อมวลชนได้นำเสนอข่าวเกี่ยวกับผู้ขับขี่รถบรรทุกรายหนึ่งทำการข่มขู่โดยใช้อาวุธปืนยิงใส่ผู้ขับขี่รถยนต์เก๋งคู่กรณี เนื่องจากไม่พอใจจากการขับรถปาดหน้ากัน โดยไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ บริเวณถนนเทพรักษ์ ฝั่งมุ่งหน้าวัชรพล ในพื้นที่ สน.บางเขน เมื่อวันที่ 21 ก.พ 2562 เวลาประมาณ 20.10 น.
จากการสืบสวนสอบสวน นายธนพล เย็นจิตร อายุ 34 ปี ผู้เสียหาย แจ้งว่าตนได้ขับรถยนต์นั่งส่วนบุคคล หมายเลขทะเบียน กม.6745 ลพบุรี ออกมาจากซอยข้างร้านอาหารจุ่มโจร เพื่อไปรับแฟนที่ทำงานตรงอเวนิวถนนวัชรพล ขณะขับมาตามถนนเทพรักษ์มุ่งหน้าไปทางถนนวัชรพล ได้มีรถบรรทุกขนาดใหญ่ ขับมาในทิศทางเดียวกัน ตนพยามเปลี่ยนช่องทางไปอีกเลนส์เพื่อแชงหน้ารถบรรทุกแต่คนขับรถบรรทุกไม่ยอมให้ทางและบีบแตรใส่รถตน และมีการขับรถตัดหน้ากันไปมาพร้อมบีบแตรใส่ตลอดทาง จนมาถึงหน้าร้านอาหารพหลวิว ตนได้ยินเสียงดังคล้ายอาวุธปืน แต่ไม่ได้จอดดู ขับต่อไปจนถึงหน้าห้างอเวนิวถนนวัชรพลจึงลงมาสำรวจดูรถพบมีรูตรงขอบกระจกด้านหลัง จึงได้ขับรถย้อนกลับตรงหน้าร้านพหลวิวและโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ
รอง โฆษก ตร.กล่าวต่ออีกว่า คดีนี้พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน ฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดและแสวงหาข้อเท็จจริง พร้อมทั้งทำการพิสูจน์ทราบถึงตัวผู้ขับขี่รถยนต์บรรทุกคู่กรณีเพื่อติดตามตัวมาเข้าสู่ขั้นตอนของกระบวนการยุติธรรมตามกฏหมายต่อไป ซึ่งการกระทำของผู้ขับขี่รถบรรทุกเบื้องต้นนั้นอาจจะเข้าข่ายในฐานความผิดตาม ป.อาญา มาตรา 288, 80 พยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา มีระวางโทษประหารชีวิต จำคุกตลอดชีวิตหรือจำคุกตั้งแต่ 15 – 20 ปี ต้องระวางโทษ 2 ใน 3 ของโทษที่กฎหมายกำหนดไว้ และ ป.อาญา มาตรา 358 ทำให้เสียทรัพย์ มีโทษ จำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ อีกทั้ง ตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิดฯ พ.ศ.2490 มีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ทั้งนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้กำชับการดำเนินการสืบสวนสอบสวนในทุกคดี ด้วยความถูกต้อง รวดเร็ว เป็นธรรม ตามหลักกฎหมาย อาศัยพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์หรือพยานหลักฐานที่ชี้ถึงตัวผู้กระทำความผิดเป็นสำคัญ อีกทั้งหากเกิดเหตุขึ้นแล้วจะต้องติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่ก่อเหตุมาเข้าสู่กระบวนยุติธรรมตามขั้นตอนของกฎหมายได้โดยเร็ว เพื่อเยียวยาความเสียหาย และสร้างความเชื่อมั่นให้กับพี่น้องประชาชนและสังคม
พ.ต.อ.กฤษณะ รองโฆษก ตร.กล่าวว่า ขอประชาสัมพันธ์ ประชาชนที่ใช้รถใช้ถนนว่า เราไม่สามารถคาดเดาได้ว่าเพื่อนร่วมทางจะตัดสินใจในการขับรถอย่างไร บางครั้งอาจจะขับรถไม่เป็นที่พอใจ เมื่อเกิดเหตุลักษณะนี้ขอให้หลีกเลี่ยง ตั้งสติให้ดี และอย่าใช้อารมณ์ในการแก้ไขปัญหา เมื่อเห็นว่าคู่กรณีกระทำความผิดจริง ควรจะแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ อย่าตัดสินใจโดยพลการ เพราะอาจเกิดความสูญเสียทั้งในชีวิตและทรัพย์สินของคู่กรณีในทุกฝ่าย อย่าลืมว่าเหตุดังกล่าวที่เกิดขึ้นนั้นเป็นอุทาหรณ์ได้เป็นอย่างดี ผิดถูกไปว่ากันที่โรงพัก เนื่องจากที่ผ่านมาเกิดเหตุลักษณะนี้บ่อยครั้ง ทุกกรณีเกิดจากการใช้อารมณ์ ตนเชื่อว่าปัญหาเหล่านี้สามารถแก้ไขได้ หากควบคุมอารมณ์ไม่ได้จริง สามารถนำหลักฐานด้วยการถ่ายภาพทะเบียนรถหรือหลักฐานอื่นๆ มาแจ้งที่โรงพัก หรือแจ้ง 191 หรือ 1599.- สำนักข่าวไทย
