ก. เกษตรฯ แจงกำหนดชนิดพืชที่ใช้สารเคมีอันตราย 3 ชนิด

กรุงเทพฯ 15 ก.พ. – กระทรวงเกษตรฯ โดยกรมวิชาการเกษตรจะออกประกาศกำหนดชนิดพืชที่ใช้สารเคมีอันตราย 3 ชนิดได้ รวมทั้งเร่งศึกษาสารหรือหาวิธีการทดแทนการใช้สารเคมีในการทำเกษตรให้ได้ใน 2 ปี


นายลักษณ์ วจนานวัช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า จากการประชุมคณะกรรมการวัตถุอันตราย เมื่อวันที่ 14 ก.พ. 62 ที่ประชุมมีมติยังไม่แบนการใช้ 3 สารกำจัดศัตรูพืช ได้แก่ พาราควอต คลอร์ไพริฟอส และไกลโฟเซต แต่ต้องมีการขึ้นทะเบียน รวมทั้ง มีมติเห็นชอบมาตรการจำกัดการใช้วัตถุอันตราย ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดย กรมวิชาการเกษตรเสนอใน 6 มาตรการ ประกอบด้วย 1) มาตรการด้านกฎหมาย โดยเตรียมเสนอร่างประกาศหลักเกณฑ์ วิธีการ การออกกฎหมาย ซึ่งมีสาระสำคัญในการประกาศควบคุม จำกัดปริมาณการใช้ รวมทั้งการกำหนดพื้นที่ ชนิดพืชที่ใช้ได้ เป็นต้น โดยห้ามใช้ในนาข้าวและพืชผัก แต่ยกเว้นพืชไร่พืชสวนบางชนิด เช่น อ้อย ยางพารา และมันสำปะหลัง เป็นต้น 2) มาตรการให้ความรู้แก่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งระบบ โดยการอบรมให้ความรู้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งระบบ เพื่อสร้างความมั่นใจให้คนนำไปใช้มีองค์ความรู้ในการใช้อย่างปลอดภัย ซึ่งได้อบรมไปแล้ว 2 หลักสูตร ผู้เข้าอบรม 100 คนและเตรียมขยายผลในวงกว้างต่อไป 3) ให้กรมวิชาการเกษตรไปศึกษาหาแนวทางเพื่อทางเลือกในการทำเกษตรโดยไม่ใช้สารเคมีดังกล่าว รวมทั้งการหาแนวทางนำสารเคมีชนิดอื่นมาทดแทน ซึ่งอยู่ระหว่างการศึกษาวิจัย 4) มาตรการติดตามและบันทึกข้อมูลการใช้วัตถุอันตรายอย่างเป็นระบบ 5) มาตรการประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องแก่ประชาชน และ 6) มาตรการสนับสนุนการศึกษาวิจัยที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งศึกษาผลกระทบของสารที่มีต่อสิ่งแวดล้อม ผู้ผลิต และผู้บริโภค ซึ่งได้เสนอขอรับทุนการวิจัยจากสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณา

นอกจากนี้ กระทรวงเกษตรฯ ยังได้แต่งตั้งคณะอำนวยการขับเคลื่อนการจำกัดการใช้สารเคมี โดยมีปลัดกระทรวงเกษตรฯ เป็นประธานคณะทำงานระดับกระทรวง และวางแนวทางในการดำเนินงานร่วมกับกระทรวงมหาดไทยซึ่งมีเจ้าหน้าที่กระจายอยู่ในระดับพื้นที่ โดยจะต้องมีการรายงานความก้าวหน้าทุก 3 เดือน สำหรับประเด็นการตรวจสอบสต็อกสารเคมีภายในสถานประกอบการนั้น ทางกระทรวงเกษตรฯ ได้เร่งรัดให้สารวัตรเกษตรลงพื้นที่สำรวจปริมาณสารเคมี แล้วรายงานกลับมายังกระทรวงเกษตรฯ เพื่อให้เกิดความชัดเจนอีกครั้ง


กระทรวงเกษตรฯ โดยกรมวิชาการเกษตรได้ดำเนินการมาตรการลดการนำเข้าวัตถุอันตรายอย่างจริงจังมาโดยตลอด โดยสามารถลดการนำเข้า สารพาราควอต ไกลโฟเซต และคลอร์ไพริฟอส ในปี 2562 ได้เท่ากับ 21,709 ตัน  48.501 ตัน  และ 1,178 ตัน ตามลำดับ ซึ่งลดลงจากสถิติเฉลี่ยการนำเข้า ปี 2557 ถึง 2559 คิดเป็นร้อยละ 25 (พาราควอตและไกลโฟเซต) และร้อยละ 55 ตามลำดับ นอกจากนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ขอให้เร่งรัดดำเนินการ ทั้งงบประมาณ การขอความร่วมมือช่วยเหลือจากทุกภาคส่วน ซึ่งอาจช่วยให้ระยะเวลาดำเนินการเร็วขึ้น ใน 2 ปี (ธ.ค. 2563)

สำหรับรายละเอียดร่างประกาศ ที่กรมวิชาการเกษตรเสนอต่อคณะกรรมการวัตถุอันตราย เมื่อวันที่ 14 ก.พ. 2562 เช่น การกำหนดเงื่อนไขให้ผู้ใช้ ผู้จำหน่าย ผู้ให้บริการพ่นสารเคมีจะต้องผ่านการอบรมก่อน รวมทั้งกำหนดให้มีการปิดฉลากที่เห็นได้ชัดเจนบนบรรจุภัณฑ์ของวัตถุอันตราย ทั้ง 3 ชนิดที่สื่อความหมายว่า สารเคมีจำกัดการใช้ การประกาศเขตห้ามใช้/ครอบครอง/จำหน่ายสารเคมีทั้ง 3 ชนิด ในพื้นที่ต้นน้ำตามประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ส่วนปริมาณที่เกษตรกรสามารถซื้อได้จะสัมพันธ์กับชนิดพืชที่ปลูกและจำนวนไร่ สอดคล้องกับที่เกษตรกรได้ขึ้นทะเบียนไว้แล้ว . – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เจรจาล่ม ตัวแทนจีนไม่พอใจลุกกลางวงเจรจา ยันไม่ติดเงินใคร

เจรจาล่ม ตัวแทนจีนไม่พอใจ ลุกกลางวงเจรจา ยันไม่ติดเงินใคร ด้านบริษัท 9PK นำเอกสารชี้แจง พร้อมขอให้บริษัทจีนช่วยอนุมัติเงินมาจ่ายให้กลุ่มผู้รับเหมาก่อน

จับแล้วโจรบุกเดี่ยวชิงทองกลางเมืองหาดใหญ่

จับแล้วโจรมาเลย์บุกเดี่ยวชิงทองกลางเมืองหาดใหญ่ จนมุมสถานีขนส่งสายใต้ใหม่ เผยมาหาลูกชายที่ จ.นนทบุรี แต่ลูกไม่ให้เข้าบ้าน

ปิดล้อมจับชายวัย 43 ยิงเพื่อนบ้าน-ตร.เจ็บ 4

ตำรวจปิดล้อมนานถึง 11 ชั่วโมง จับชายวัย 43 ปี ใช้ปืนยิงเพื่อนบ้านและตำรวจที่เข้าระงับเหตุ บาดเจ็บรวม 4 ราย หลังโมโหเพื่อนบ้านติดกล้องวงจรปิดหันส่องไปทางบ้านผู้ก่อเหตุ ยิงแก๊สน้ำตา-ญาติเกลี้ยกล่อม ยังไม่เป็นผล

แผ่นดินไหวขนาด 5.8 ในไต้หวัน-ไม่มีรายงานความเสียหาย

สำนักงานอุตุนิยมวิทยาไต้หวันรายงานวันนี้ว่า เกิดแผ่นดินไหวขนาดด 5.8 ที่เทศมณฑลอี้หลาน (Yilan) ซึ่งเป็นพื้นที่ชนบทห่างไกลทางตจะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ

ข่าวแนะนำ

สงกรานต์เชียงใหม่ชุ่มฉ่ำทั้งเมือง

ประเพณีปี๋ใหม่เมือง หรือสงกรานต์ล้านนา วันนี้เรียกว่าเต็มไปด้วยสีสันวัฒนธรรมและเหล่าสาวงาม ขณะที่การเล่นน้ำสงกรานต์ก็ชุ่มฉ่ำไปทั้งเมือง โดยเฉพาะรอบคูเมือง และอุโมงค์น้ำแห่งแสงสีเสียง ที่ถนนท่าแพ ยิ่งค่ำยิ่งคึกคัก

สงกรานต์ภูเก็ตคึกคัก คาดสร้างเม็ดเงินสะพัดกว่า 8,200 ล้าน

บรรยากาศสงกรานต์ที่ จ.ภูเก็ต ปีนี้สุดคึกคัก นักท่องเที่ยวสนุกกันสุดเหวี่ยงตั้งแต่เช้าเป็นต้นมา และคาดว่าบรรยากาศแห่งความสนุกสนานนี้จะยังคงดำเนินต่อเนื่องไปแบบข้ามวันข้ามคืน