กรุงเทพฯ 13 ก.พ. – ก.เกษตรฯ คิกออฟ 462 สหกรณ์ผลิตปุ๋ยขายราคาถูกตันละ 3,378 บาท ผนึกกำลัง ธ.ก.ส.ปล่อยกู้สหกรณ์ดอกเบี้ยต่ำ 1,300 ล้านบาท เป็นทุนหมุนเวียนในการจัดหาแม่ปุ๋ยและผลิตปุ๋ย เร่งผลิตปุ๋ยล๊อตแรกทันฤดูเพาะปลูกต้นปี 62
นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวมอบนโยบายส่งเสริมการลดต้นทุน การผลิตผ่านสถาบันเกษตรกร ภายใต้โครงการปุ๋ยผสมใช้เองผ่านสหกรณ์การเกษตรเพื่อลดต้นทุนการผลิตให้แก่เกษตรกร ว่า นายกรัฐมนตรีสั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และกระทรวงพาณิชย์เร่งหาวิธีลดต้นทุนปัจจัยการผลิตเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร โดยเฉพาะต้นทุนเรื่องปุ๋ย ซึ่งจะต้องเร่งรัดจัดหาปุ๋ยให้เกษตรกรใช้ราคาถูกลงร้อยละ 30 เนื่องจากปัจจุบันราคาปุ๋ยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันเกษตรกรส่วนใหญ่ยังใช้ปุ๋ยไม่ถูกต้องตามความเหมาะสมของสภาพพื้นดิน ทำให้ผลผลิตต่อไร่ต่ำกว่ามาตรฐาน รัฐบาลจึงมีแนวคิดที่จะช่วยเกษตรกรลดต้นทุนการผลิต โดยการสนับสนุนให้สหกรณ์เป็นศูนย์กลางในการผลิตปุ๋ยผสมใช้เองตามค่าการวิเคราะห์ดินและจำหน่ายให้สมาชิกและเกษตรกรในแต่ละพื้นที่
ทั้งนี้ กรมส่งเสริมสหกรณ์เป็นหน่วยงานหลักในการจัดทำโครงการปุ๋ยผสมใช้เองผ่านสหกรณ์การเกษตรเพื่อลดต้นทุนการผลิตให้แก่เกษตรกร โดยให้สหกรณ์การเกษตรในระดับอำเภอผลิตปุ๋ยที่มีคุณภาพและจำหน่ายในราคาที่เป็นธรรม กำหนดให้ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด เป็นหน่วยงานกลางสั่งซื้อแม่ปุ๋ยจากบริษัทนำเข้าราคาถูกกว่าราคาตลาดแล้วกระจายต่อให้สหกรณ์การเกษตรแต่ละจังหวัด เพื่อนำแม่ปุ๋ยซึ่งเป็นปุ๋ยที่มีธาตุอาหารหลักพืช คือ ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียม หรือ N P K สูตรเข้มข้นเป็นวัตถุดิบเพื่อนำไปผสมและผลิตปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ดินหรือสูตรที่เกษตรกรต้องการใช้เพื่อจำหน่ายให้แก่สมาชิกสหกรณ์และเกษตรกรทั่วไป
นายกฤษฎา กล่าวเพิ่มเติมว่า มอบหมายให้กรมพัฒนาที่ดินทำงานร่วมช่วยวิเคราะห์ข้อมูลดินแต่ละพื้นที่ เพื่อกำหนดสูตรปุ๋ยที่มีแร่ธาตุเหมาะสมกับสภาพดินให้สหกรณ์นำไปผลิต กรมส่งเสริมการเกษตรจะจัดเวทีให้ความรู้แก่เกษตรกรถึงข้อดีผลิตปุ๋ยใช้เอง ซึ่งจะมีธาตุอาหารเหมาะสมกับการปลูกพืชแต่ละชนิด และส่งผลต่อคุณภาพผลผลิตและบำรุงดินไม่ให้เสื่อมโทรม ส่วนกรมวิชาการเกษตรจะคอยให้คำแนะนำตามหลักวิชาการการผสมปุ๋ยเพื่อให้ได้ปุ๋ยที่มีคุณภาพมาตรฐาน และจะมีการตรวจสอบปุ๋ยที่สหกรณ์ผลิตขึ้น ก่อนจะออกใบอนุญาตผลิตและจำหน่ายปุ๋ยให้กับสหกรณ์ที่เข้าร่วมโครงการ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับเกษตรกรที่จะเลือกซื้อไปใช้ สำหรับเงินทุนผลิตปุ๋ยนั้น ขณะนี้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ได้จัดสรรวงเงินสินเชื่อ 1,300 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนสหกรณ์กู้ยืมในอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 2 โดยรัฐบาลชดเชยดอกเบี้ยให้ร้อยละ 2 และ ธ.ก.ส.รับภาระดอกเบี้ยร้อยละ 1 ต่อปี
ด้านนายพิเชษฐ์ วิริยะพาหะ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เปิดเผยว่า กรมฯ ให้สหกรณ์จังหวัดทุกจังหวัด แจ้งรายละเอียดของโครงการนี้ไปยังสหกรณ์ต่าง ๆ และมีสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรสมัครเข้าร่วมโครงการ 462 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งในจำนวนนี้มีสหกรณ์ 242 แห่ง แจ้งปริมาณความต้องการแม่ปุ๋ย 67,609.55 ตัน เพื่อนำไปผลิตปุ๋ยผสมใช้เองจำหน่ายให้กับแก่สมาชิกและเกษตรกรทั่วไป 161,462 ราย ทั้งนี้ หากเกษตรกรปรับเปลี่ยนมาใช้ปุ๋ยที่มาจากค่าวิเคราะห์ดินที่เหมาะสม คาดว่าจะสามารถลดต้นทุนปัจจัย การผลิตปุ๋ยให้กับเกษตรกรได้ประมาณปีละ 2,000 บาท/ตัน และสามารถลดต้นทุนจากการใช้ปุ๋ยผสมใช้เองของสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการ คิดเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้น 228.38 ล้านบาท หลังจากนี้หากมีสหกรณ์เห็นประโยชน์ที่จะช่วยสมาชิกและเกษตรกรลดต้นทุนจากการใช้ปุ๋ยผสมเอง ก็สามารถแจ้งความประสงค์และแจ้งปริมาณความต้องการแม่ปุ๋ยได้เพิ่มเติม โดยติดต่อสอบถามได้ที่สำนักงานสหกรณ์จังหวัดทุกจังหวัด และในอนาคตกรมฯ คาดหวังว่าสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรจะสามารถนำข้อมูลจากการเก็บค่าวิเคราะห์ดินของสมาชิกเป็นรายแปลงมาเป็นข้อมูลในการวางแผนจัดหาปุ๋ยหรือบริการผสมปุ๋ยที่เหมาะกับสภาพดินตามค่าวิเคราะห์ดินและเหมาะสมกับพืชแต่ละชนิดเพื่อจำหน่ายให้แก่สมาชิกและเกษตรกรใช้ในการเพาะปลูกพืชทุกชนิด.-สำนักข่าวไทย