กรุงเทพฯ 2 ก.พ.-กสิกรไทยประเมินบาทมีโอกาสแข็งค่าอีกหลังสัปดาห์ที่แล้วแข็งค่าสุดในรอบ 9 เดือน ที่ 31.18 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
บริษัทศูนย์วิจัยกสิกรไทย รายงานว่า สัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทแข็งค่าสุดในรอบเกือบ 9 เดือนที่ 31.18 บาทต่อดอลลาร์ฯ หลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินสหรัฐหรือเฟดคงดอกเบี้ย โดยเงินบาททยอยแข็งค่าขึ้น สอดคล้องกับสถานะซื้อสุทธิหุ้นไทยของนักลงทุนต่างชาติ และทิศทางการแข็งค่าของสกุลเงินอื่นๆ ในภูมิภาค ขณะที่ เงินดอลลาร์ฯ เผชิญแรงเทขาย ท่ามกลางสัญญาณชะลอการคุมเข้มนโยบายการเงินของเฟด โดยเฟดได้ปรับเปลี่ยนข้อความที่เคยระบุถึงการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป มาเป็นการส่งสัญญาณว่าจะมีการดำเนินนโยบายการเงินด้วยความระมัดระวัง
ในวันศุกร์ (1 ก.พ.) เงินบาทอยู่ที่ระดับ 31.27 เทียบกับระดับ 31.65 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (25 ม.ค.)
ด้านตลาดหุ้นไทยปรับขึ้นต่อเนื่องจากสัปดาห์ก่อน โดยดัชนี SET ปิดที่ระดับที่ 1,651.40 จุด เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.71 จากสัปดาห์ก่อน ขณะที่ มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันลดลงร้อยละ 8.51 จากสัปดาห์ก่อน มาที่ 50,934.62 ล้านบาท ส่วนตลาดหลักทรัพย์ mai ขยับขึ้นร้อยละ 2.84 จากสัปดาห์ก่อน มาปิดที่ 381.93 จุด
ดัชนีตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวในกรอบแคบช่วงต้นสัปดาห์ ขณะที่ นักลงทุนรอติดตามความคืบหน้าของประเด็น BREXIT และผลการประชุมเฟดในช่วงกลางสัปดาห์ อย่างไรก็ดี ดัชนีฯ ดีดตัวขึ้นตั้งแต่ช่วงกลางสัปดาห์ตามทิศทางตลาดหุ้นต่างประเทศ หลังเฟดส่งสัญญาณชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมรอบล่าสุด นอกจากนี้ ตลาดหุ้นไทยยังได้รับอานิสงส์จากการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนรอบล่าสุด ที่ถึงแม้ว่าจะยังไม่มีข้อสรุป แต่มีความคืบหน้าและเป็นไปในทิศทางที่ดี
สัปดาห์ถัดไป (4-8 ก.พ.) ธนาคารกสิกรไทยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 31.10-31.60 บาทต่อดอลลาร์ฯ บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,640 และ 1,625 จุด ขณะที่ แนวต้านอยู่ที่ 1,660 และ 1,680 จุด ตามลำดับ โดยจุดสนใจของตลาดในประเทศน่าจะอยู่ที่ผลการประชุมนโยบายการเงินของกนง. (6 ก.พ.) ขณะที่ปัจจัยสำคัญในต่างประเทศ ประกอบด้วย ถ้อยแถลงของประธานเฟดและเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเฟด ผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางอังกฤษ ความคืบหน้าในการเจรจาทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน -สำนักข่าวไทย