กรุงเทพฯ 12 ก.ย.-คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) มีมติให้สำนักงาน กสทช. นำแนวทางการกำกับดูแลและส่งเสริมการประกอบกิจการโทรทัศน์ไปรับฟังความคิดเห็นจากอุตสาหกรรมและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและสรุปผลภายในสิ้นปีนี้ก่อนนำไปจัดทำ Roadmap ก่อนใบอนุญาตประกอบกิจการดิจิทัลทีวีประเภทธุรกิจหมดอายุปี 2572
ศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร. พิรงรอง รามสูต กสทช. ด้านกิจการโทรทัศน์ กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการกสทช. ได้พิจารณาบทวิเคราะห์ฉากทัศน์ในอนาคตของอุตสาหกรรมโทรทัศน์และแนวทางในการกำกับดูแลและส่งเสริมการประกอบกิจการโทรทัศน์ของไทย ซึ่งสำนักงาน กสทช. ได้ดำเนินการต่อเนื่องจากผลการศึกษาโครงการจ้างที่ปรึกษาฉากทัศน์กิจการแพร่ภาพกระจายเสียงในอนาคตของไทยภายใต้สภาพแวดล้อมของอุตสาหกรรมที่เปลี่ยนแปลงไป เพื่อที่จะนำไปจัดทำแผนที่นำทาง (Roadmap) กิจการโทรทัศน์และการแพร่ภาพและเสียงของประเทศไทย โดยคณะกรรมการกสทช. รับทราบถึงความเปลี่ยนแปลงของภูมิทัศน์สื่อท่ามกลางบริบทของเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไป และอภิปรายถึงแนวทางการดำเนินการต่างๆ ในกรณีที่ปฏิบัติตามกฎหมายที่มีอยู่ในปัจจุบัน และในกรณีที่มีการแก้กฎหมายให้สอดคล้องกับบริบทการหลอมรวมทางเทคโนโลยีการสื่อสารระหว่างกิจการโทรคมนาคมและกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ โดยอาจเป็นการแก้กฎหมายระดับพระราชบัญญัติเป็นรายมาตราหรือแก้กฎหมายทั้งฉบับ นอกจากนี้ยังมีการอภิปรายถึงการส่งเสริมการประกอบกิจการโทรทัศน์ ทั้งด้านการส่งเสริมการผลิตเนื้อหารายการ การประเมินคุณภาพเนื้อหารายการในกิจการโทรทัศน์เพื่อส่งเสริมเนื้อหาที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม การพัฒนาและส่งเสริมศักยภาพของผู้ประกอบกิจการและผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง เทคโนโลยีและการเพิ่มช่องทางในการรับชม เช่น การจัดให้มี national streaming platform และการพัฒนาเทคโนโลยีสำหรับคนพิการ
ทั้งนี้ คณะกรรมการกสทช.มีมติให้สำนักงาน กสทช. นำบทวิเคราะห์และข้อเสนอต่างๆ ไปรับฟังความคิดเห็น ซึ่งหากสรุปผลได้ภายในสิ้นปีนี้จะทำให้สามารถเตรียมการได้ทันเวลาก่อนที่ใบอนุญาตประกอบกิจการโทรทัศน์ของผู้ให้บริการช่องรายการดิจิทัลทีวีประเภทธุรกิจจะสิ้นสุดลงในเดือนเมษายน ปี 2572 โดยกรอบแนวทางการกำกับดูแลและส่งเสริมการประกอบกิจการโทรทัศน์ที่จะนำเสนอในการรับฟังความคิดเห็นครั้งนี้จะรวมถึงประเด็นต่างๆ เช่น การบริหารทรัพยากรคลื่นความถี่ โครงข่ายฯ และการอนุญาต เช่น การขอรับใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่จะต้องใช้การประมูลเช่นเดิมหรือให้ผู้ประกอบกิจการโครงข่ายมีหน้าที่ขอรับใบอนุญาต หรือพิจารณาใช้แนวทางอื่นนอกเหนือจากการประมูล หรือเป็นการประมูลแบบมีเงื่อนไขเพิ่มเติม จำนวนช่องรายการและการกำหนดระดับความคมชัด การใช้งานคลื่นความถี่สำหรับกิจการทีวีดาวเทียม การสร้างกรอบการกำกับดูแลที่ยืดหยุ่น การทบทวนและปรับปรุงกฎหมาย กฎระเบียบให้มีความทันสมัย การลดภาระต้นทุนอื่นที่เกิดจากการกำกับดูแล กฎ Must Carry รวมทั้งจะอ้างอิงตามกรอบกฎหมายที่มีผลบังคับใช้อยู่ในปัจจุบันเป็นหลัก ส่วนข้อเสนอที่ต้องมีการแก้กฎหมายจะดำเนินการคู่ขนานไปในอีกทางหนึ่ง
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2568 นายสุภาพ คลี่ขจาย นายกสมาคมโทรทัศน์ระบบดิจิตอล (ประเทศไทย) พร้อมผู้บริหารสมาคมฯ เข้ายื่นหนังสือถึงประธานกรรมการ กสทช. เพื่อทวงถามถึงความคืบหน้าในการนำเรื่อง Roadmap ทีวีดิจิตอล ในปี 2572 เพื่อวางแผนเตรียมการล่วงหน้าก่อนที่ใบอนุญาตประกอบกิจการโทรทัศน์ของผู้ให้บริการช่องรายการดิจิทัลทีวีประเภทธุรกิจจะสิ้นสุดลง -111 .-สำนักข่าวไทย