กรุงเทพฯ24 ม.ค. – ผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนขอบคุณรัฐบาลอนุมัติเดินหน้าต่ออายุเอสพีพี 25 โรง หลังแช่แข็งนาน 2 ปี คาดลงทุนใหม่ประมาณ 1.38 แสนล้านบาท
นางปรียนาถ สุนทรวาทะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.บี.กริม เพาเวอร์ และนายกสมาคมผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชน กล่าวว่า ขอขอบคุณรัฐบาลที่วันนี้คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ ( กพช.) ได้เห็นชอบแนวทางการดำเนินการกับผู้ผลิตไฟฟ้ารายเล็ก (เอสพีพี) ระบบ Cogeneration ที่สิ้นสุดอายุสัญญา หลังจาก โครงการล่าช้ามานานกว่า 2 ปี จากเดิมมติ กพช.เห็นชอบครั้งแรกเมื่อเดือนพฤษภาคม 2559 ซึ่งคาดว่านับจากนี้คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) จะเห็นชอบให้ลงนามสัญญาโดยเร็ว ซึ่งเอสพีพีมีทั้งหมด25 โรงเป็นของบีกริม 3 โรงไฟฟ้า ลงทุนโรงละประมาณ 5,500 ล้านบาท โรงใหม่ของบริษัทจะมีกำลังผลิตประมาณ 130 เมกะวัตต์
“เมื่อเดินหน้าเอสพีพีนับว่าสร้างความสนใจต่อนักลงทุน ซึ่งจำเป็นต้องใช้ไฟฟ้าเพื่อความมั่นคง ขณะที่ข้อตกลงที่เอสพีพีทำไว้กับคู่สัญญา เช่น ผู้รับเหมาก่อสร้าง การซื้อที่ดินสร้างโรงไฟฟ้าใหม่จะได้เดินหน้าต่อ” นางปรียนาถ กล่าว
ส่วนตามแผนพีดีพี 2018 (2561-2580) ที่ไม่มีการกำหนดรับซื้อเอสพีพี มีเพียงโรงไฟฟ้าใหม่ที่อาจเป็นไอพีพีและการก่อสร้างของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) 8,300 เมกะวัตต์นั้น ทางบีกริมพร้อมแข่งขันในการประมูลไอพีพี โดยหวังว่าทีโออาร์จะโปร่งใส อย่างไรก็ตาม ยังเห็นว่ากรณีเอสพีพีนั้นจะเป็นประโยชน์ต่อนักลงทุนในนิคมอุตสาหกรรมดีกว่าและสามารถปรับเป็นไมโครกริดได้ ซึ่งประสิทธิภาพจะดีกว่า
ทั้งนี้ กพช.เห็นชอบการปรับปรุงช่วงเวลาการสิ้นสุดอายุสัญญาของเอสพีพีระบบ Cogeneration กลุ่มต่ออายุสัญญาให้ครอบคลุมเอสพีพีระบบ Cogeneration เป็นปี 2559 – 2561 เพื่อให้สอดคล้องตามเจตนารมณ์ของมติ กพช.เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2559 ประเภทสัญญา Firm ระบบ Cogeneration จำนวน 25 ราย โดยให้เอสพีพีระบบ Cogeneration ที่สิ้นสุดอายุสัญญาปี 2559 -2568 ได้รับการต่ออายุสัญญาหรือก่อสร้างโรงไฟฟ้าใหม่ โดยให้ใช้เชื้อเพลิงตามสัญญาเดิมและได้รับอัตรารับซื้อไฟฟ้าสอดคล้องกับประเภทเชื้อเพลิง
และมอบ กกพ.พิจารณาต่ออายุสัญญาโรงไฟฟ้าภายใต้หลักการตามมติ กพช. ดังกล่าวสำหรับโรงไฟฟ้าที่กำลังจะสิ้นสุดอายุสัญญาปี 2562-2564 และไม่สามารถดำเนินการก่อสร้างโรงไฟฟ้าใหม่ได้ทัน เพื่อให้สามารถก่อสร้างโรงไฟฟ้าใหม่ได้ และกำหนดอัตราซื้อไฟฟ้าโรงไฟฟ้าถ่านหินช่วงต่ออายุสัญญา 3 ปีที่ 1.24 บาท/หน่วย และสัญญาใหม่ที่ไม่เกิน 30 เมกะวัตต์ อายุสัญญา 25 ปี ราคา 2.54 บาท/หน่วย ขณะที่ราคารับซื้อจากเชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ 2.8186 บาท/หน่วย.-สำนักข่าวไทย