กรุงเทพฯ 7 มิ.ย. – บี.กริม เผยล็อกดาวน์จากมาตรการคุมโควิด-19 กระทบโครงการโซลาร์ลอยน้ำเขื่อนสิรินธรล่าช้ากว่าแผน 2-3 เดือน ประกาศพร้อมขยายธุรกิจให้บริการติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปลูกค้าอุตสาหกรรม
นางปรียนาถ สุนทรวาทะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIM เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการโซลาร์ลอยน้ำเขื่อนสิรินธร การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ว่า ได้เจรจา กฟผ.ขอเลื่อนกำหนดจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) ออกไปจากแผนประมาณ 2-3 เดือน จากเดิมเดือนธันวาคม 2563 เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 มีมาตรการล็อกดาวน์ทั้งในประเทศไทยและประเทศจีนที่เป็นพันธมิตรร่วมลงทุนในโครงการนี้ ทำให้ไม่สามารถดำเนินการจัดส่งเครื่องจักรและอุปกรณ์ต่าง ๆ เข้ามาได้ตามกำหนด นับเป็นเหตุสุดวิสัย
ทั้งนี้ กิจการค้าร่วม บี.กริม เพาเวอร์ “BGRIM”– เอ็นเนอร์ยี่ ไชน่า ชนะการประมูลโครงการโซลาร์ลอยน้ำเขื่อนสิรินธร มีกำลังผลิต 45 เมกะวัตต์ มูลค่าโครงการกว่า 842 ล้านบาท ใช้แผงโซลาร์เซลล์ชนิดดับเบิ้ลกลาส และใช้ทุ่นลอยน้ำชนิด HDPE (High Density Polyethylene) ติดตั้งอุปกรณ์ทั้งหมดบนพื้นที่ผิวน้ำกว่า 450 ไร่
นางปรียนาถ ยังกล่าวด้วยว่า บริษัทอยู่ระหว่างศึกษาเตรียมความพร้อมขยายการลงทุนติดตั้งโซลาร์รูฟท็อป สำหรับลูกค้านิคมอุตสาหกรรมที่มีความต้องการติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปเพิ่มขึ้น หลังจากที่ผ่านมาบริษัทได้ดำเนินการติดตั้งให้กับลูกค้าไปบ้างแล้ว เช่น ไอคอนสยาม และสถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์ เป็นต้น โดยปัจจุบันมีกำลังผลิตโซลาร์รูฟท็อปในมือประมาณ 26 เมกะวัตต์ ซึ่งในจำนวนนี้จ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์แล้ว 8 เมกะวัตต์ โดยในอนาคตจะขยายการติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปควบคู่กับการบริการสมาร์กริด ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างเตรียมจัดทำโครงการนำร่อง (Pilot Project) ติดตั้งโซลาร์รูฟท็อป ร่วมกับระบบกักเก็บพลังงาน (ESS) และระบบสมาร์ทกริด เบื้องต้น มีแผนจะดำเนินการในนิคมอุตสาหกรรมอมตะ ซิตี้ และก็พิจารณาในนิคมฯ อมตะ ประเทศเวียดนามด้วย .-สำนักข่าวไทย