ม็อบมะพร้าวยกทัพร้องเกษตร-พาณิชย์ช่วยด่วน

นนทบุรี 22 ม.ค. – เครือข่ายชาวสวนมะพร้าวเข้าพบผู้บริหารกระทรวงเกษตรฯ และกระทรวงพาณิชย์ เรียกร้องชะลอนำเข้า หลังมะพร้าวในประเทศราคาตกเหลือเพียงลูกละ 5 บาท จากราคาที่อยู่ได้ 10-12 บาท 



นายพงษ์ศักดิ์ บุตรรักษ์ ผู้ประสานงานเครือข่ายชาวสวนมะพร้าวและแกนนำกลุ่มผู้ปลูกมะพร้าวอินทรีย์ อ.บางสะพาน พร้อมกับชาวบ้านกลุ่มผู้ปลูกมะพร้าวอินทรีย์ในพื้นที่ อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ กว่า 200 คน เดินทางโดยรถบัส 4 คัน ออกจากประจวบฯ เข้ามายังกรุงเทพมหานครตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมาเวลาประมาณ 20.00 น. โดยเดินทางมาถึงกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เมื่อช่วงเช้าวันนี้ เมื่อเข้าหารือกับผู้บริหารกระทรวงเกษตรฯ แล้วก็ได้เดินทางต่อมายังกระทรวงพาณิชย์เวลาประมาณ 13.00 น. จากนั้นได้ส่งตัวแทนเครือข่ายชาวสวนมะพร้าว 30 คน เข้าพบนายสมศักดิ์ เกียรติชัยลักษณ์ รองปลัดกระทรวงพาณิชย์ และนายอดุลย์  โชตินิสากรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เพื่อยื่นเรื่องปัญหาความเดือดร้อนและอยากให้ทั้ง 2 หน่วยงานช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนมะพร้าวเป็นการเร่งด่วนกันต่อไป


ทั้งนี้ เกษตรกรส่วนใหญ่ยังคาใจว่าทำไมโรงงานแปรรูปไม่ซื้อมะพร้าวที่มีอยู่มากมายในประเทศ แต่หันไปนำเข้าจากต่างประเทศ ทำให้ราคามะพร้าวตกต่ำเหลือเพียงลูกละ 5 บาท ขณะที่ราคาที่เกษตรกรอยู่ได้นั้นต้องอยู่ที่ลูกละ 10-12 บาท เดือดร้อนกันหนัก จึงได้เข้ามาเรียกร้องให้กระทรวงพาณิชย์ชะลอการนำเข้าออกไปก่อน 


อย่างไรก็ตาม ผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ได้รับเรื่องปัญหาความเดือดร้อนครั้งนี้ไว้เรียบร้อยแล้ว และได้มีการชี้แจงแนวทางการช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรผู้ปลูกมะพร้าว โดยกรมการค้าภายในได้ให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำอย่างจริงจังโดยเฉพาะมะพร้าวที่เกษตรกรกำลังประสบปัญหาขณะนี้ โดยกรมการค้าภายในกำหนดมาตรการบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนของเกษตรกรผู้ปลูกมะพร้าวที่ประสบปัญหาผลผลิตล้นตลาดและราคาตกต่ำ โดยจัดทำโครงการรับซื้อเนื้อมะพร้าวแห้งปี 2562 เพื่อสนับสนุนให้เกษตรกรกลุ่มเกษตรกรนำมะพร้าวผลมาแปรรูปเป็นเนื้อมะพร้าวแห้งจำหน่ายให้แก่โรงงานแปรรูป โรงงานน้ำมันมะพร้าว ซึ่งอธิบดีกรมการค้าภายในในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารกองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรได้อนุมัติเงินเร่งด่วนจากกองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร 33.48 ล้านบาท เพื่อนำร่องรับซื้อเนื้อมะพร้าวแห้ง 5,000-6,000 ตัน หรือคิดเป็นมะพร้าวลูกกว่า 50 ล้านลูกในพื้นที่แหล่งผลิตมะพร้าวสำคัญ 4 จังหวัด ได้แก่ ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช ซึ่งจังหวัดจะได้รับการจัดสรรงบประมาณ เพื่อดำเนินการตามสัดส่วนการผลิตมะพร้าว คือ ประจวบคีรีขันธ์ 13.4  ล้านบาท ชุมพร 10.7  ล้านบาท จ.สุราษฎร์ธานี  5.4  ล้านบาท และนครศรีธรรมราช 4 ล้านบาท

ทั้งนี้ ได้ให้จังหวัดกำหนดจุดรับซื้อให้เกษตรกร กลุ่มเกษตรกร นำเนื้อมะพร้าวแห้งมาจำหน่ายให้แก่ผู้ประกอบการ และโรงงานที่สนใจเข้าร่วมโครงการ โดยเกษตรกรจะขายเนื้อมะพร้าวแห้งที่ความชื้นไม่เกิน 6% ได้ในราคาเป้าหมายนำกิโลกรัมละ 15 บาท ซึ่งเป็นเงินที่ผู้รับซื้อจ่ายให้ 10 บาท รัฐจ่ายเพิ่มให้ 5 บาท และให้ค่าบริหารจัดการคุณภาพและค่ารวบรวมอีก 1.50 บาท ซึ่งเป็นการใช้เงินจากกองทุนส่งเสริมเกษตรกรเข้าไปแทรกแซงตลาดรวมกว่า 33 ล้านบาท โดยเกษตรกรจะได้ราคาขายมะพร้าวต่อลูกไม่ต่ำกว่า 7 บาทขึ้นไป แม้จะยังไม่เป็นที่ต้องการของเกษตรกรที่อยากขายมะพร้าวต่อลูกเกินกว่า 10 บาทนั้น ถือว่ามาตรการนี้จะช่วยพยุงราคาไม่ให้ต่ำไปมาก เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกร

นอกจากนี้ กรมการค้าภายในจะเร่งหาแนวทางป้องกันการเคลื่อนย้ายหรือป้องกันปัญหาลักลอบนำเข้ามะพร้าวจากประเทศเพื่อนบ้านตามชายฝั่งทะเลทั้งตะวันออกและตะวันตกของภาคใต้ โดยการเคลื่อนย้ายใด ๆ เข้ามาจะต้องมีการแจ้งปริมาณและการเคลื่อนย้ายให้เจ้าหน้าที่ของค้าภายในจังหวัดได้รับทราบ ซึ่งจะนำมาตรการนี้เข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการกลางว่าด้วยสินค้าและบริการ (กกร. ) สัปดาห์นี้หรืออย่างช้าต้นสัปดาห์หน้าพิจารณาออกมาตรการแจ้งปริมาณและการเคลื่อนย้ายมะพร้าวตามชายชั่งทะเลกันต่อไป ขณะเดียวกันขอเรียกร้องห้ามนำเข้ามะพร้าวทั้งหมดจากประเทศเพื่อนบ้านนั้น คงเป็นเรื่องลำบาก เพราะการนำเข้าจะอยู่ภายใต้กรอบการค้าสากลและมีระเบียบหรือกฎเกณฑ์และมาตรการดูแลกันอยู่แล้ว 

อย่างไรก็ตาม กระทรวงพาณิชย์ชี้แจงว่าการนำเข้ามะพร้าวเป็นการขออนุญาตภายใต้องค์การการค้าโลก หรือ WTO ซึ่งห้ามไม่ได้ แต่กรมการค้าต่างประเทศก็ได้กำหนดหลักเกณฑ์ควบคุมอย่างเข้มงวด และรับว่าจะนำข้อเสนอของเกษตรกรเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุม กกร. ซึ่งเกษตรกรเรียกร้องให้เพิ่มพื้นที่ควบคุมการขนย้ายมากขึ้นจากเดิมที่กำหนดเพียง 7 จังหวัดเป็นครอบคลุม 14 จังหวัดภาคใต้ รวมจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และจังหวัดที่มีพื้นที่ติดชายแดน อีก 6 จังหวัด ได้แก่ กาญจนบุรี สระแก้ว ปราจีนบุรี จันทบุรี ระยอง และตราด นอกจากนี้ ยังรวมถึงข้อเสนอให้ลดปริมาณมะพร้าวที่ต้องขออนุญาตก่อนขนย้าย จากเดิมกำหนดไว้ 7 ตัน ลดลงเหลือเพียง 4 ตัน เพื่อป้องกันการลักลอบนำเข้าจากต่างประเทศ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.ตร.รับทราบเหตุปะทะเดือดสงขลา ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ

รัฐสภา 11 ก.ย.- “บิ๊กต่าย” พยักหน้ารับทราบ เหตุปะทะเดือด เจ้าหน้าที่ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ พื้นที่ จ.สงขลา ระบุขอเข้าประชุมก่อน พลตํารวจเอก กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาประชุมร่วมกับกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ที่อาคารรัฐสภา โดยผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่า ได้รับรายงานเรื่องการปะทะเดือด เจ้าหน้าที่ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ ที่บ้านห้วยเต่า สงขลา แล้วหรือไม่ โดยพลตํารวจเอก กิตติ์รัฐ พยักหน้า แต่ไม่ได้ตอบคำถาม ระบุเพียงว่าขอเข้าประชุมก่อน -สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” ชี้เป้าตลก 3 พยางค์ ส่อโยงเส้นเงินวัดพระบาทน้ำพุ

รัฐสภา 11 ก.ย.- “บิ๊กเต่า” ชี้เป้าตลก 3 พยางค์โผล่วันจับ “ทิดอลงกต” ส่อโยงเส้นเงินวัดพระบาทน้ำพุ พบพิรุธ ยังไม่มารายงานตัว พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กล่าวถึงความคืบหน้าคดีทิดอลงกต วัดพระบาทน้ำพุ ที่มีการเปิดเผยออกมาว่า ตลกชื่อ 3 พยางค์ มีส่วนเกี่ยวข้องกับเงินวัดพระบาทน้ำพุด้วย ว่า มีตลกอีก 1 คนที่ยังเป็นเป้าหมายยังไม่ได้มาแสดงตัวและยังไม่ได้มาให้การ พนักงานสอบสวนจะเรียกมาเอง ซึ่งพบพิรุธเยอะว่าทำอะไรที่ไม่เป็นไปตามกฎหมายหรือไม่เป็นไปตามวิธีการที่ทำในการเข้าไปช่วยเหลือ ทิดอลงกต ในการขนย้ายสิ่งของ ซึ่งเป็นเอกสารสำคัญ และไม่เหมือนดาราท่านอื่น ที่เป็นการรับจ้างงาน แต่คนนี้น่าจะเป็นคนที่สนิทส่วนตัว เป็นคนที่เคยถูกดำเนินคดีอยู่ เมื่อถามว่าเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้เลยใช่หรือไม่ พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ กล่าวว่าเป็นคนลึกลับซับซ้อน ซึ่งเป็นคนที่เคยโผล่ให้เห็นในวันที่ทิดอลงกตถูกจับ -สำนักข่าวไทย

พ.อ.นพ.ธวัชชัย เล่านาที จนท.สวนสัตว์ ลงจากรถ แล้วถูกสิงโตตะปบรุมขย้ำ

กทม. 10 ก.ย.-พ.อ.นพ.ธวัชชัย เล่านาที สิงโตตะปบเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ จากนั้นสิงโตอีก 5 ตัว รุมขย้ำ โดยที่เจ้าตัวไม่ได้ขัดขืนหรือร้องขอความช่วยเหลือ พ.อ.นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ อดีตอาจารย์และแพทย์ศัลยกรรม โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า หรือเป็นที่รู้จักในฐานะหมอที่มาช่วยเหลือในคดีการเสียชีวิตของแตงโม ซึ่งเป็นผู้เห็นเหตุการณ์ระบุว่า วันนี้ตนมาเที่ยวสวนสัตว์ โดยได้ขับรถเข้าไปในโซนซาฟารี ขณะนั้นมีรถนักท่องเที่ยวหลายคันเข้าชม เมื่อมาถึงบริเวณโซนสิงโต ก็พบว่ามีรถของเจ้าหน้าที่รายหนึ่งซึ่งเป็นรถของสวนสัตว์จอดอยู่คันเดียว ตอนนั้นตนเองก็รู้สึกผิดสังเกต เพราะช่วงเวลาดังกล่าวไม่ใช่ช่วงเวลาให้อาหารสัตว์และเจ้าหน้าที่รายนี้อยู่คนเดียว ได้ลงมายืนข้างล่างของรถ ฝั่งคนขับ โดยเปิดประตูทิ้งไว้ แต่ไม่ได้ทำอะไร แค่ยืนเฉยๆ ลักษณะยืนหันหน้า เข้าหารถ หันหลังให้สัตว์ ซึ่งตนก็รู้สึกแปลกอย่างมาก อย่างไรก็ตาม เนื่องจากมีต้นไม้บัง ตนก็เลยไม่เห็นว่าในมือถืออะไร จากนั้นประมาณ 3 นาที ก็มีสิงโตตัวหนึ่งค่อยๆ ย่องมาทางข้างหลังช้าๆ ก่อนจะตะครุบเข้าข้างหลังเจ้าหน้าที่รายดังกล่าวทันที โดยที่เจ้าหน้าที่รายดังกล่าวไม่ได้มีท่าที ขัดขืน ดิ้นรนต่อสู้ หรือร้องขอชีวิตแต่อย่างใด หลังจากนั้น สิงโตตัวอื่นๆ ก็ค่อยๆ เดินตามมารุมกัดตามที่ปรากฏในคลิป ตนเองไม่รู้จะต้องทำอย่างไร ทำได้เพียงแต่บีบแตรรถ เช่นเดียวกับนักท่องเที่ยวคันอื่น ที่ช่วยกันบีบแตร ผ่านไปประมาณ 10 […]

สิงโตสวนสัตว์เอกชน ลาก จนท.ไปรุมกัด สาหัส

กทม. 10 ก.ย.-สิงโตในสวนสัตว์เอกชน ทำร้ายเจ้าหน้าที่ ลากไปรุมกัด อาการสาหัส นักท่องเที่ยวบันทึกเหตุการณ์ไว้ได้ พ.ต.อ.นิรุชพล โยธามาตย์ ผกก.สน.คันนายาว เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (10 ก.ย.68) ได้รับรายงานว่า เกิดเหตุสิงโตทำร้ายเจ้าหน้าที่ ภายในสวนสัตว์ของเอกชน จากการตรวจสอบพบว่า เจ้าหน้าที่ลงไปให้อาหาร โดยไม่ปฏิบัติตามกฎของบริษัท จึงทำให้ถูกสิงโตรุมทำร้าย เบื้องต้นอาการสาหัส นำตัวส่งโรงพยาบาล ประสานพนักงานสอบสวนเชิญตัวเจ้าหน้าที่ของสวนสัตว์มาสอบปากคำ และลงบันทึกประจำวัน โดยยังไม่มีญาติของเจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายมาแจ้งความแต่อย่างใด ทั้งนี้ ในคลิปเป็นเหตุการณ์ที่นักท่องเที่ยวบันทึกไว้ได้ บริเวณส่วนจัดแสดงสิงโต มีรั้วขนาดใหญ่เปิดให้รถเข้า-ออก เป็นพื้นที่เปิด ให้นักท่องเที่ยวขับรถเข้าไปด้านใน มีป้ายกำกับชัดเจนห้ามเปิดกระจกและห้ามลงจากรถ ด้านในจะมีรถของสวนสัตว์จอดดูแลความปลอดภัย และบางช่วงมีการจัดแสดงโชว์ให้อาหารสิงโตที่อยู่ด้านใน.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“พล.ท.บุญสิน” ยันยังไม่ดำเนินการโครงการอบรมโดรนเกษตร

กทม. 12 ก.ย.- “พล.ท.บุญสิน” แจงบริษัทเอกชนมามอบของ-ถ่ายรูป พร้อมเสนอโครงการอบรมโดรนเกษตร ยืนยันยังไม่ดำเนินการใดๆ ทั้งสิ้น เมื่อวันที่ 12 ก.ย.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวถึงกรณีที่มีบริษัทเอกชนเข้ามาถ่ายรูปร่วมกับแม่ทัพภาคที่ 2 โดยมีการนำโครงการ “อบรมการใช้อากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน ให้กับทหารเพื่อเป็นการเพิ่มทักษะ เพื่อใช้ในการเกษตร” วานนี้ (11 ก.ย.) ว่า บริษัทดังกล่าวได้เข้ามาพบเหมือนกับพี่น้องประชาชนและบริษัทต่างๆ ที่เข้ามาพบมอบของ เพียงแต่ว่าทางบริษัทนี้เข้ามานำเสนอโครงการโดรน ตนก็ไม่ได้พูดคุยอะไรมาก เพียงแต่รับฟังไว้ ประมาณ 10 นาที ทางคณะดังกล่าวก็ขอถ่ายภาพ ก่อนเดินทางกลับ “ผมยืนยันว่า ยังไม่ได้มีการดำเนินการทำอะไรเลย ยังไม่ผ่านการตรวจสอบให้รอบคอบ ยืนยันอีกครั้งยังไม่ได้ดำเนินการอะไรทั้งนั้น” พล.ท.บุญสิน กล่าว.-313.-สำนักข่าวไทย

“เฉลิมชัย” ไขก๊อกหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว

พรรคประชาธิปัตย์ 12 ก.ย.-“เฉลิมชัย” ไขก๊อกจากหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว ด้าน “ชัยชนะ” ยันไม่มีขัดแย้ง ในพรรครักกันดี ไม่มีแพแตก นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ยื่นหนังสือลาออกจากหัวหน้าพรรค ประชาธิปัตย์ว่า ตนก็เพิ่งทราบข่าว โดยไม่ได้มีการบอกกล่าวล่วงหน้ามาก่อน แต่ยืนยันว่าในพรรคไม่ได้มีปัญหาขัดแย้งอะไร รักกันดี ทุกคนแต่การตัดสินใจลาออกครั้งนี้เป็นอย่างไรต้องไปถามนายเฉลิมชัยเอง แต่ยืนยันว่า หัวหน้าพรรคกรรมการบริหารพรรค ทุกคนมีความรักใคร่กันดี และตนเชื่อว่านายเฉลิมชัยก็เป็นคนหนึ่งที่รักพรรคประชาธิปัตย์ และทำงานให้กับพรรคมาโดยตลอด ซึ่งตนก็รู้สึกเสียดายและใจหายซึ่งที่ผ่านมานายเฉลิมชัย ก็ไม่ได้ส่งสัญญาณหรือบอกอะไร สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ จะดำเนินการอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า ก็ต้องดำเนินการตามข้อบังคับพรรคและตามกฎหมาย โดยต้องเรียกประชุมวิสามัญ เพื่อนเลือก หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคใหม่เมื่อถามว่าบทบาทของพรรคประชาธิปัตย์หลังจากนี้จะเป็นอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องทำหน้าที่กันต่อไป ส่วนกรรมการบริหารพรรคก็มาเลือกคัดสรรกันใหม่ และหลังจากนี้ต้องรอดูว่าใครจะเข้ามาบริหารพรรค และกำหนดนโยบายทิศทางพรรคอย่างไร แต่ตนก็เป็นสมาชิกพรรคคนหนึ่งที่ยังยืนหยัด อยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อถามว่าการที่นายเฉลิมชัย ลาออกตอนนี้ เป็นสัญญาณอะไรหรือไม่เนื่องจาก มีไทม์ไลน์ จะยุบสภา ภายใน สี่ เดือน จะไปสังกัดพรรคอื่นหรือไม่ ได้ชัยชนะกล่าวว่าอย่ามองเช่นนั้น เพราะตนเชื่อว่านายเฉลิมชัย […]

ผลักดัน “นางเขื่อน” พร้อมครอบครัว 7 คน กลับกัมพูชา

จันทบุรี 12 ก.ย. – ตม.ศรีสะเกษ ประสาน ตม.จันทบุรี ส่งตัว “นางเขื่อน” พร้อมครอบครัว รวม 7 คน กลับกัมพูชา หลังถูกกล่าวหาเป็นไส้ศึก และถูกชาวบ้านรวมตัวขับไล่ ทั้งยังพบอาศัยอยู่ในไทยอย่างผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดศรีสะเกษ นำตัวนางเขื่อน ชาวกัมพูชา และสมาชิกครอบครัว รวมทั้งหมด 7 คน เดินทางไปที่ด่านผ่านแดนถาวรบ้านแหลม จ.จันทบุรี โดยมีเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจันทบุรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รอรับตัวอยู่ก่อนแล้ว เพื่อผลักดันกลับประเทศกัมพูชา เนื่องจากที่ผ่านมา นางเขื่อน ถูกชาวบ้านในพื้นที่ ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ รวมตัวกันขับไล่ หลังจากถูกกล่าวหาว่าเป็น “ไส้ศึก” คอยส่งข้อมูลเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของทหารไทยให้กับฝ่ายกัมพูชา และยังพบว่าทั้งหมดอาศัยอยู่ในประเทศไทยอย่างผิดกฎหมาย จึงดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายและระเบียบการต่างประเทศ เพื่อส่งตัวกลับภูมิลำเนา. – สำนักข่าวไทย

“ชัชชาติ” ยืนยันไม่ลาออกผู้ว่าฯ กทม. ก่อนครบวาระ

กรุงเทพฯ 12 ก.ย. – “ชัชชาติ” ยืนยันไม่ลาออกผู้ว่าฯ กทม. ก่อนครบวาระ งบปี 69 เน้นเส้นเลือดฝอยคู่เส้นเลือดใหญ่ สถานการณ์น้ำตอนนี้ เตรียมรับน้ำเหนือ-พายุ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ร่วมประชุมสภากรุงเทพมหานคร สมัยประชุมวิสามัญ สมัยแรก (ครั้งที่ 1) ประจำปีพุทธศักราช 2568 ณ ห้องประชุมสภากรุงเทพมหานคร อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ดินแดง ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า วันนี้เป็นการพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 วาระที่สองและวาระที่สาม ซึ่งจะมีการพิจารณาเรื่องนี้อย่างเข้มข้น เนื่องจากกว่า 30 วันที่ผ่านมา น่าจะได้ข้อสรุปว่าจะเพิ่มหรือลดงบประมาณอย่างไร ในจุดไหนบ้าง โดยผ่านกระบวนการพิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบที่สุด เพื่อประโยชน์สูงสุดกับพี่น้องประชาชน สำหรับงบประมาณส่วนใหญ่ได้ตามที่ตั้งเสนอของบฯ ไว้ โดยจะเน้นงบประมาณลงพื้นที่เขตมากขึ้น เช่น การก่อสร้างและปรับปรุงถนน การก่อสร้างฝายถนน ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายเส้นเลือดฝอย รวมถึงงบประมาณที่จะพัฒนาเส้นเลือดใหญ่ เช่น ก่อสร้างโรงพยาบาลแห่งใหม่ การติดตั้งเซ็นเซอร์วัดการสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวที่จะติดตั้งบนอาคารสูงของโรงพยาบาลแห่งใหม่ ก็ได้ตามที่เสนอของบประมาณไว้ […]