สนช.เห็นชอบร่าง พ.ร.บ.ยาเสพติด ใช้กัญชา-กระท่อมทางการแพทย์

รัฐสภา 25 ธ.ค.-สนช.เห็นชอบให้ประกาศใช้ร่าง พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษเป็นกฎหมาย เปิดโอกาสให้นำกัญชาและกระท่อม ไปศึกษาวิจัยเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์และรักษาโรคภายใต้การดูแลของแพทย์ได้


การประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) วันนี้ (25 ธ.ค.) มีนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน สนช. ทำหน้าที่ประธานการประชุมพิจารณาร่างพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ ที่คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาเสร็จแล้ว ในวาระ 2 และ 3 

นายสมชาย แสวงการ ประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญ ชี้แจงว่า คณะกรรมาธิการฯ ได้พิจารณาร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวเสร็จสิ้นแล้ว มีทั้งสิ้น 17 มาตรา มีการแก้ไข 4 มาตรา ตัดออก 9 มาตรา และเพิ่มขึ้นใหม่ 20 มาตรา พร้อมตั้งข้อสังเกตเสนอต่อที่ประชุม 6 ประเด็น 


นายสมชาย ยืนยันว่า การปรับแก้ไขของคณะกรรมาธิการฯ เป็นไปใน 2 เรื่อง คือ 1.แยกการควบคุมการอนุญาตการผลิต นำเข้า-ส่งออก จำหน่ายยาเสพติดหรือมีไว้ในครอบครองประเภท 2 และ 5 ออกจากกันให้ชัดเจน และ 2.แก้ไขในส่วนของบทเฉพาะกาล โดยมีการเพิ่มองค์ประกอบของคณะกรรมการควบคุมยาเสพติดให้โทษที่มีความหลากหลายมากขึ้น ด้วยการเพิ่มผู้มีความรู้ความเชี่ยวชาญเข้าไป อย่างไรก็ตาม การพิจารณาร่างกฎหมายนี้ยังได้รับฟังความเห็นจากทุกฝ่ายอย่างรอบด้าน ซึ่งมีผู้เห็นด้วยกับร่างกฎหมายนี้ถึงร้อยละ 99.13 ที่สาระสำคัญเพื่อเปิดโอกาสให้สามารถนำยาเสพติดประเภท 5 คือ กัญชาและกระท่อม ไปทำการศึกษาวิจัยเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์และสามารถนำไปรักษาภายใต้การควบคุมดูแลของแพทย์ได้

ทั้งนี้ในการพิจารณาไม่มีสมาชิก สนช.สงวนคำแปรญัตติ หรือติดใจในมาตราที่มีการแก้ไข โดยหลังการพิจารณารายมาตราในวาระ 2 แล้ว จากนั้นที่ประชุมได้พิจารณาต่อในวาระ 3 และมีมติเห็นชอบให้ประกาศใช้เป็นกฎหมาย ด้วยคะแนนเสียง 166 เสียง ไม่เห็นด้วยไม่มี และงดออกเสียง 13 เสียง พร้อมเห็นชอบข้อสังเกตของกรรมาธิการฯ และจะจัดส่งไปยังคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาดำเนินการต่อไป

สำหรับร่างพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ มีทั้งสิ้น 28 มาตรา โดยมีสาระสำคัญ คือ ให้สามารถนำเข้าหรือส่งออกยาเสพติดประเภท 5 คือ กัญชาและกระท่อม ได้ในกรณีจำเป็น เพื่อประโยชน์ทางราชการ โดยได้รับอนุญาตจากผู้อนุญาต เพื่อกรณียกเว้นให้มียาเสพติดให้โทษประเภท 5 ไว้ในครอบครอง ไม่เกินจำนวนที่จำเป็น สำหรับการใช้รักษาโรคเฉพาะ หรือสำหรับใช้ในการปฐมพยาบาล หรือกรณีที่เกิดเหตุฉุกเฉิน เพิ่มเติมให้ใช้ยาเสพติดประเภท 5 ได้ หากกระทำเพื่อการรักษาโรค ตามคำสั่งของผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม ผู้ประกอบโรคศิลปะ หรือเพื่อการศึกษาวิจัย กำหนดให้ผู้ได้รับอนุญาตสามารถจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 5 ได้เฉพาะสถานที่ที่กำหนดเท่านั้น ขณะเดียวกันยังมีความเพิ่มเติมในส่วนของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ให้มีอำนาจให้กำหนดเขตพื้นที่ เพื่อทดลองปลูกพืชที่เป็นหรือให้ผลผลิตที่เป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 5 และทดสอบยาเสพติดประเภท 5 ได้ตามพื้นที่ที่กำหนด โดยให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ประกาศให้ท้องที่ใดเป็นท้องที่ที่เสพพืชกระท่อมได้ โดยไม่มีความผิดตามพระราชบัญญัติดังกล่าว ซึ่งเป็นการปลดล็อกเฉพาะในส่วนของผู้ที่เกี่ยวข้องคือแพทย์และคนไข้ เป็นการยกเว้นให้ว่าจะไม่มีความผิด.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกเอกราช

ศาลสั่งจำคุก 5 ปี 93 เดือน “เอกราช” สส.ภูมิใจไทย

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก 5 ปี 93 เดือน นายเอกราช ช่างเหลา สส.ขอนแก่น เขต 4 พรรคภูมิใจไทย พร้อมสั่งชดใช้เงินกว่า 405 ล้านบาท คดียักยอกเงินสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น 1,275 ล้านบาท

ลูกนายกเบี้ยว

“อนุทิน” ลั่นต้องดำเนินคดี “ลูกชายนายกเบี้ยว”

“อนุทิน” ลั่นไม่มีใครใหญ่กว่าผม ต้องดำเนินคดี “ลูกชายนายกเบี้ยว” ฮึ่มเป็นลูกใครทำผิดกฎหมายก็โดน ถามใหญ่กว่าผมไหม ถ้าไม่ใช่ก็โดนหมด

สลด แม่คลอดลูกเสร็จ ไปเล่นสงกรานต์ต่อ ปล่อยเด็กตาย

สลด สาววัย 27 ปี คลอดลูกทิ้งไว้ข้างกระถางต้นไม้ แล้วไปเล่นน้ำสงกรานต์ต่อ นานกว่า 1 ชม. มีคนแจ้งกู้ภัย พยายามปั๊มหัวใจ แต่ช่วยเด็กไม่ทัน

ผู้ป่วยแจ้งกู้ภัยเข้ามาช่วย แต่บอกบ้านเลขที่ผิด สุดท้ายเสียชีวิต

สลด หญิงวัย 54 ปี หายใจไม่ออกโทรแจ้งกู้ภัยให้เข้ามาช่วยพาส่งโรงพยาบาล แต่ปรากฏว่าแจ้งบ้านเลขที่ผิด เจ้าหน้าที่หลงทาง สุดท้ายไปไม่ทัน เสียชีวิตอยู่ข้างแม่ที่เป็นผู้ป่วยติดเตียง พบทั้งบ้านมีกองขยะสูงเท่าหลังคา

ข่าวแนะนำ

“นายกเบี้ยว” พาลูกเข้ารับทราบข้อกล่าวหา-ตร.ยัน “พีช” เจตนาทำผิดอาญา

กรณี “พีช” ลูกนายกเบี้ยว ขับรถหรูปาดหน้าชนกระบะลุงป้า ตำรวจ สภ.ลำลูกกา ยืนยันพฤติการณ์ไม่ใช่แค่ขับรถประมาท แต่เจตนาทำผิดคดีอาญา และโดนแจ้งข้อหาขับรถไม่มีใบอนุญาต เนื่องจากใบขับขี่หมดอายุตั้งแต่ปี 64 ขณะที่ล่าสุด “นายกเบี้ยว” พาลูกชายเข้ารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว

“ชัชชาติ” รับหลักฐานบางส่วนเสียหาย อาจตรวจสอบคุณภาพยาก

“ชัชชาติ” นำทีม กทม. พบ นายกฯ รายงานคืบหน้ากู้ซากอาคาร สตง. ถล่ม ย้ำ รัฐ-เอกชน ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ไม่ขาดเหลือด้านใด เผย นายกฯ ติดตามเรื่องนี้ต่อเนื่อง พร้อมให้ความร่วมมือตำรวจเก็บหลักฐาน แนะ ไปหน้างานประสานเจ้าหน้าที่เก็บหลักฐานได้เลย ยอมรับ หลักฐานบางส่วนพังเสียหาย อาจตรวจสอบคุณภาพยาก

ปิดเขาล้อมจับมือปืนลำดับ 93 หนีคดี 10 ปี

ปฏิบัติการบุกขึ้นเขาปิดล้อม จับกุมมือปืนคนสำคัญ ลำดับ 93 ค่าหัว 1 แสนบาท ก่อเหตุอุกอาจหนีคดีมา 10 ปี แต่สุดท้ายไม่รอดมือตำรวจ