เชียงใหม่ 6 ก.ย.-จากการที่สำนักข่าวไทยพาไปดูห้องพักคล้ายโรงแรมสุดหรูในวัดอู่ทรายคำที่เชียงใหม่ เมื่อวานนี้ ซึ่งวัดก็ชี้แจงว่า เป็นที่พักสำหรับพระสงฆ์และผู้ติดตามเท่านั้น แต่มีชาวบ้านบางส่วนหอบหลักฐานการเข้าพัก ซึ่งมีทั้งชาย-หญิง และมาพักแบบครอบครัว เข้าร้องเรียนต่อจังหวัดให้ตรวจสอบ และปรับปรุงให้เหมาะสม
สภาพห้องพักพร้อมเครื่องอำนวยความสะดวกครบครันทั้งหมด 11 ห้อง ภายในอาคาร 3 ชั้น ในวัดอู่ทรายคำ ย่านช้างม่อย กลางเมืองเชียงใหม่ ที่เราเข้าตรวจสอบก่อนหน้านี้ โดยที่ปรึกษาของวัดยืนยันว่า เป็นเพียงศูนย์รองรับอาคันตุกะสงฆ์และผู้ติดตาม สำหรับพระสงฆ์จากต่างจังหวัดและผู้ติดตามเข้าพัก โดยไม่มีการกำหนดราคาค่าเข้าพักเหมือนโรงแรม และไม่ให้ผู้หญิงเข้าพัก พร้อมกับหลักฐานรายชื่อผู้เข้าพักซึ่งเป็นพระสงฆ์ทั้งหมด
แต่ดูเหมือนจะขัดแย้งกับข้อมูลภาพถ่ายและเอกสารที่ตัวแทนเครือข่ายชุมชนชาวเชียงใหม่รวบรวมจากเพจเฟซบุ๊กของวัดอู่ทรายคำ รวมทั้งจากผู้ที่เคยเข้าพักที่วัดแห่งนี้ ซึ่งในภาพผู้เข้าพักมีทั้งพระสงฆ์ ชาย หญิง และเข้าพักเป็นครอบครัว รวมทั้งมีราคาที่จ่ายค่าเข้าพักคืนละ 600-1,200 บาท โดยได้ยื่นข้อมูลทั้งหมดให้จังหวัดเชียงใหม่ตรวจสอบ เพราะเห็นว่าไม่ถูกต้อง ซึ่งควรจะยอมรับความจริงและแก้ไขปรับปรุงให้เหมาะสม นั่นรวมถึงโครงการก่อสร้างอาคารสูง 4 ชั้นในวัดอู่ทรายคำ ที่สูงค้ำหอไตรโบราณ ซึ่งถูกระงับการก่อสร้างเพื่อปรับแบบให้เหมาะสมด้วย
ทีมข่าวกลับเข้าไปที่วัดอู่ทรายคำอีกครั้ง ซึ่งยังคงเปิดบริการสำหรับพระสงฆ์ตามปกติ และจะมีการแถลงจากวัด แต่สุดท้ายแจ้งยกเลิก โดยให้เหตุผลว่าสังคมเข้าใจแล้ว
ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญด้านวัฒนธรรมล้านนามองว่า การเข้าพักอาศัยในวัดมีมาช้านานแล้ว และมีวัดหลายแห่งในเชียงใหม่ที่จัดบริการที่พัก แต่มีขีดเส้นบางๆ โดยสถานที่ต้องมีความเหมาะสม แยกที่พักสงฆ์จากฆราวาส รวมทั้งแยกชายหญิงให้ชัดเจน ที่สำคัญต้องเป็นการสงเคราะห์ ไม่มีการเรียกเก็บค่าบริการ แม้เรื่องนี้จะยังไม่มีความผิดทางกฎหมาย แต่แนะให้มีการแก้ไขให้เหมาะสม อธิบายสังคมเข้าใจชัดเจน น่าจะทำให้พุทธศาสนิกชนสบายใจขึ้น.-สำนักข่าวไทย