วงเสวนาอัดนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ

กรุงเทพฯ 14 ธ.ค. – เวทีเสวนาทีดีอาร์ไออัดยับ ชี้นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจรัฐบาลแค่หาเสียงก่อนเลือกตั้ง ไม่ได้แก้ปัญหาเชิงโครงสร้างเศรษฐกิจ จี้ใช้จ่ายงบประมาณให้เคารพสิทธิ์ผู้เสียภาษี


ในช่วงเช้าที่ผ่านมามีการจัดเสวนาหัวข้อ “สวัสดิการประชาชน และมาตรการแก้จน บนโจทย์วินัยการคลัง” โดยสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ)  นายสมชัย จิตสุชน ผู้อำนวยการวิจัยด้านการพัฒนาอย่างทั่วถึง ทีดีอาร์ไอ กล่าวถึงแนวทางที่รัฐบาล คสช.ดำเนินการขณะนี้มีความชัดเจนว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่รัฐบาลกล่าวอ้าง ถือเป็นนโยบายหาเสียงก่อนการเลือกตั้ง โดยเห็นว่าไม่มีความจำเป็นด้านเศรษฐกิจมหภาค รวมทั้งรัฐบาลควรดำเนินนโยบายที่เป็นโครงการถาวรเหมาะสมมากกว่านี้ อย่างไรก็ตาม นโยบายเกี่ยวกับการหาเสียงถือเป็นเรื่องปกติระบบการเมืองไม่ว่ามาจากการเลือกตั้งหรือไม่ แต่ควรดำเนินการให้ทิศทางนโยบายตอบสนองความต้องการของประชาชนส่วนใหญ่เป็นหลัก

นายสมชัย ระบุว่าการดำเนินงานของรัฐบาล คสช.ในช่วงที่ผ่านมามีการใช้งบประมาณประมาณ 100,000 ล้านบาทต่อปี โดยจำนวนดังกล่าวถือว่าไม่มาก หากมีการใช้จ่ายอย่างเหมาะสม แต่การดำเนินการในช่วงที่ผ่านมาการใช้งบประมาณไม่ได้แก้ปัญหาความยากจนเชิงโครงสร้าง รวมทั้งมีข้อสงสัยของการเอื้อประโยชน์กลุ่มทุน ซึ่งประเด็นเหล่านี้เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ของสังคมอย่างมาก


ขณะเดียวกันนายสมชัย กล่าวถึงข้อเสนอแนะต่อพรรคการเมือง เนื่องจากกำลังก้าวเข้าสู่การเลือกตั้งและแต่ละพรรคเริ่มมีนโยบายหาเสียง ว่า ขอให้พรรคการเมืองยึดทัศนคติที่มีต่อคนจนที่ถูกต้อง มุ่งเน้นนโยบายสร้างความเข้มแข็งผู้มีรายได้น้อยอย่างยั่งยืน รวมทั้งเสนอนโยบายสามารถลดความเหลื่อมล้ำอย่างเป็นระบบ จริงจังต่อการหารายได้เพิ่ม รวมทั้งบอกประชาชนว่านโยบายหาเสียงมีต้นทุนการคลังเท่าไหร่ และจะลดความเหลื่อมล้ำได้มากน้อยแค่ไหน เพื่อให้ประชาขนรวจสอบได้ในอนาคต 

นายอธิภัทร มุทิตาเจริญ นักวิชาการคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวถึงการดำเนินการของรัฐบาลปัจจุบัน โดยเปรียบเทียบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจที่รัฐบาลก้าวอ้างกับในอดีต เช่น รถยนต์คันแรก โครงการดังกล่าวชัดเจนว่าไม่ส่งผลดีต่อวินัยการเงินการคลังและเร่งการใช้จ่ายประชาชนรูปแบบที่ไม่ถูกต้อง เช่นเดียวกับโครงการรัฐบาลปัจจุบัน เช่น โครงการคืนภาษีมูลค่าเพิ่มผู้มีรายได้น้อย โดยกำหนดเงื่อนไขต้องเป็นผู้มีรายได้ไม่เกิน 8,000 บาท และคืนแวตร้อยละ 5 ไม่เกิน 500 บาท โดยผู้มีรายได้น้อยจะได้คืนภาษีแวตเต็มวงเงินเมื่อใช้จ่ายเท่าสัดส่วนที่กำหนด ประเด็นดังกล่าวเร่งการใช้จ่ายของประชาชนอาจไม่สอดคล้องกับรายได้ที่มี รวมทั้งเห็นว่ามาตรการที่ คสช.นำมาใช้เป็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทำเพียงครั้งเดียวอาจได้ผลกระตุ้นเศรษฐกิจไม่เกิน 1 ไตรมาส รวมทั้งบางโครงการ เช่น ช้อปช่วยชาติ ก็ไม่ได้มีผลครอบคลุมช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย ดังนั้น การดำเนินนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจรัฐบาลทั้งปัจจุบันและอนาคตขอให้ยึดแนวทางเข้าใจว่าเป็นการนำเงินภาษีของประชาชนทั้งประเทศมาใช้ควรเคารพสิทธิ์ผู้เสียภาษีที่เป็นเจ้าของเงินมากขึ้น.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เจรจาล่ม ตัวแทนจีนไม่พอใจลุกกลางวงเจรจา ยันไม่ติดเงินใคร

เจรจาล่ม ตัวแทนจีนไม่พอใจ ลุกกลางวงเจรจา ยันไม่ติดเงินใคร ด้านบริษัท 9PK นำเอกสารชี้แจง พร้อมขอให้บริษัทจีนช่วยอนุมัติเงินมาจ่ายให้กลุ่มผู้รับเหมาก่อน

จับแล้วโจรบุกเดี่ยวชิงทองกลางเมืองหาดใหญ่

จับแล้วโจรมาเลย์บุกเดี่ยวชิงทองกลางเมืองหาดใหญ่ จนมุมสถานีขนส่งสายใต้ใหม่ เผยมาหาลูกชายที่ จ.นนทบุรี แต่ลูกไม่ให้เข้าบ้าน

ปิดล้อมจับชายวัย 43 ยิงเพื่อนบ้าน-ตร.เจ็บ 4

ตำรวจปิดล้อมนานถึง 11 ชั่วโมง จับชายวัย 43 ปี ใช้ปืนยิงเพื่อนบ้านและตำรวจที่เข้าระงับเหตุ บาดเจ็บรวม 4 ราย หลังโมโหเพื่อนบ้านติดกล้องวงจรปิดหันส่องไปทางบ้านผู้ก่อเหตุ ยิงแก๊สน้ำตา-ญาติเกลี้ยกล่อม ยังไม่เป็นผล

แผ่นดินไหวขนาด 5.8 ในไต้หวัน-ไม่มีรายงานความเสียหาย

สำนักงานอุตุนิยมวิทยาไต้หวันรายงานวันนี้ว่า เกิดแผ่นดินไหวขนาดด 5.8 ที่เทศมณฑลอี้หลาน (Yilan) ซึ่งเป็นพื้นที่ชนบทห่างไกลทางตจะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ

ข่าวแนะนำ

สงกรานต์เชียงใหม่ชุ่มฉ่ำทั้งเมือง

ประเพณีปี๋ใหม่เมือง หรือสงกรานต์ล้านนา วันนี้เรียกว่าเต็มไปด้วยสีสันวัฒนธรรมและเหล่าสาวงาม ขณะที่การเล่นน้ำสงกรานต์ก็ชุ่มฉ่ำไปทั้งเมือง โดยเฉพาะรอบคูเมือง และอุโมงค์น้ำแห่งแสงสีเสียง ที่ถนนท่าแพ ยิ่งค่ำยิ่งคึกคัก

สงกรานต์ภูเก็ตคึกคัก คาดสร้างเม็ดเงินสะพัดกว่า 8,200 ล้าน

บรรยากาศสงกรานต์ที่ จ.ภูเก็ต ปีนี้สุดคึกคัก นักท่องเที่ยวสนุกกันสุดเหวี่ยงตั้งแต่เช้าเป็นต้นมา และคาดว่าบรรยากาศแห่งความสนุกสนานนี้จะยังคงดำเนินต่อเนื่องไปแบบข้ามวันข้ามคืน