รร.เรเนซองส์ 13 ธ.ค. – ดีดีพร็อพเพอร์ตี้คาดตลาดอสังหาฯ ไตรมาสแรกปี 62 ได้อานิสงส์คนซื้อแห่โอน ก่อนเกณฑ์ใหม่คุมสินเชื่อบ้าน 1 เม.ย.นี้
นางกมลภัทร แสวงกิจ ผู้จัดการใหญ่ประจำประเทศไทย ดีดีพร็อพเพอร์ตี้ดอทคอม รายงานแนวโน้มตลาดอสังหาริมทรัพย์ประจำปี 2562 หรือ DDproperty Property Market Outlook 2019 ว่า ไตรมาส 1 ปี 2562 คาดว่าตลาดจะมีความคึกคักต่อเนื่องจากช่วงปลายปีนี้จากการเร่งโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยจำนวนมาก ก่อนจะปรับตัวเพื่อรับมาตรการควบคุมการปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัยของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2562 โดยมาตรการดังกล่าวจะส่งผลกระทบกับผู้ที่ผ่อนที่อยู่อาศัยพร้อมกัน 2 หลังขึ้นไป รวมถึงผู้ที่ซื้อที่อยู่อาศัยราคา 10 ล้านบาทขึ้นไป โดยต้องวางเงินดาวน์ขั้นต่ำร้อยละ 10-30
ทั้งนี้ ในปี 2562 คาดว่าผู้ประกอบการจะยังคงพัฒนาโครงการตลาดระดับไฮเอนด์ไปจนถึงลักซ์ชัวรี่ แม้ว่าจะเป็นกลุ่มผู้ซื้อที่จะได้รับผลกระทบจากมาตรการของ ธปท. แต่ยังเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อ ส่วนตลาดอสังหาฯ ระดับล่างต่ำกว่า 3 ล้านบาท คาดว่าจะยังคงเติบโตอย่างช้า ๆ เนื่องจากกลุ่มผู้ซื้อในเซ็กเมนต์ดังกล่าวเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากสภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว รวมถึงหนี้ครัวเรือนที่แม้จะเริ่มปรับตัวดีขึ้น แต่ยังคงอยู่ในระดับสูง โดยผู้ประกอบการจะระมัดระวังในการเลือกทำเลเพื่อพัฒนาโครงการใหม่ ๆ มากขึ้น และจะให้ความสำคัญกับพื้นที่ที่มีอุปสงค์สูง รวมทั้งหันมาพัฒนาโครงการแนวราบมากขึ้น เนื่องจากผู้ซื้อเป็นกลุ่มเรียลดีมานด์มากกว่าซื้อเพื่อเก็งกำไรภายใต้นโยบายของสถาบันการเงินที่มีความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัยมากขึ้น
นอกจากนี้ โครงการพัฒนาโครงข่ายคมนาคมทั้งสถานีกลางบางซื่อ รถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายต่าง ๆ และมอเตอร์เวย์ ทำให้การเดินทางออกสู่ชานเมือง และต่างจังหวัดสะดวกขึ้น รวมถึงการพัฒนาพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ทั้งหมดล้วนเป็นปัจจัยเสริมทำให้อุปสงค์และอุปทานกระจายออกไปยังพื้นที่นอกเขตศูนย์กลางธุรกิจ จังหวัดปริมณฑล และจังหวัดทางภาคตะวันออกมากยิ่งขึ้น ทำให้พื้นที่ในเขตอำเภอพานทอง ชลบุรี จะมีราคาที่ดินเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.66 และ อำเภอปลวกแดง ระยอง จะมีราคาที่ดินเพิ่มขึ้นร้อยละ 13.87
สำหรับพื้นที่ในเขตกรุงเทพมหานคร ทางดีดีพร้อพเพอร์ตี้วิเคราะห์ว่าทำเลย่านจตุจักร สวนหลวง และพญาไท จะมีการเติบโตสูงขึ้น และทำเลเกิดใหม่ย่านป้อมปราบศัตรูพ่ายและบางแคจะได้อานิสงส์จากรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายที่จะมีราคาพุ่งสูงกว่าปีที่ผ่านมากว่าร้อยละ 36 สิ่งที่น่าจับตา คือ การเลือกตั้งทั่วไปที่มีกำหนดจะจัดขึ้นในช่วงต้นปี 2562 คาดว่าจะส่งผลให้ตลาดอสังหาฯ ของประเทศชะลอตัว เนื่องจากทุกฝ่ายต่างรอดูความชัดเจนด้านนโยบายของรัฐบาลชุดใหม่ที่อาจจะออกมาเพื่อสนับสนุนการเติบโตของตลาด แต่จะเป็นการชะลอตัวในช่วงสั้น ๆ
อย่างไรก็ตาม ปีหน้าอุปทานใหม่ที่เข้าสู่ตลาดจะยังคงแข่งขันกันด้วยนวัตกรรม ส่วนรูปแบบโครงการจะเห็นภาพการพัฒนาโครงการสำหรับผู้สูงอายุมากขึ้นตอบรับการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ และโครงการรูปแบบมิกซ์ยูส (Mixed-use) โดยเฉพาะพื้นที่ใจกลางเมือง เนื่องจากราคาที่ดินปรับตัวสูงขึ้น และเป็นการสร้างรายได้มั่นคงระยะยาวให้กับผู้ประกอบการ รวมถึงการร่วมมือกันพัฒนาโครงการแบบ Joint Venture ที่นำจุดเด่นของแต่ละบริษัทมาช่วยเพิ่มศักยภาพให้กับโครงการ และเป็นการลดความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจ
นางกมลภัทร กล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ผ่านมาจะเห็นว่าโครงการที่อยู่อาศัยหลายแห่งมีการพัฒนาคอนเซ็ปต์สู่การเป็น Smart Home โดยการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ามาใช้ในระบบต่าง ๆ ภายในบ้าน ไม่ว่าจะระบบไฟฟ้า ระบบพลังงาน หรือระบบควบคุมอุณหภูมิ ซึ่งล้วนให้ความสะดวกสบายกับผู้อยู่อาศัยเป็นอย่างมาก ด้วยเทรนด์ที่เปลี่ยนไป ทำให้ปัจจัยที่ผู้ซื้อบ้านในยุค 4.0 ใช้ในการพิจารณาซื้อไม่ได้จำกัดอยู่แค่เรื่องการออกแบบ และสิ่งอำนวยความสะดวกแบบเดิม แต่มองหาความแตกต่างที่ช่วยยกระดับการอยู่อาศัยให้ดีขึ้น โดยมองการณ์ไกลถึงอนาคตว่าบ้านจะต้องเป็นมากกว่าแหล่งพักพิง แต่เป็นสถานที่ที่ทำให้ชีวิตเติบโต พร้อมก้าวไปข้างหน้าได้อย่างทันโลกและสมบูรณ์แบบในทุกมิติ.-สำนักข่าวไทย