กทม. 10 ธ.ค.- นอกจากเรื่องเศรษฐกิจที่คึกคักเรื่องมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจแล้ว เรื่องการเมืองก็คึกคักไม่แพ้กัน มีความเคลื่อนไหว หลายๆเรื่อง โดยเฉพาะการเลือกตั้งในเดือนกุมภาพันธุ์ปีหน้า ที่วันนี้ค่อนข้างชัดเจนแล้วว่า จะเกิดขึ้นแน่นอน มีความเคลื่อนไหว ทั้งเรื่องกฎหมาย ความเคลื่อนไหวของพรรคการเมือง ที่สำคัญเมื่อภาพของการเมืองชัดเจน ก็ส่งผลดีต่อความเชื่อมั่น ของเศรษฐกิจไปด้วย เราไปดูหลายๆ ความเห็นกัน
เริ่มจากบริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) คุณประกิต สิริวัฒนเกตุ ผู้อำนวยการ ฝ่ายวิเคราะหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) บอกว่า แนวโน้มหุ้นไทยในช่วงที่เหลือของปีนี้เป็นช่วงที่นักลงทุนชะลอการลงทุน ทำให้มูลค่าการซื้อขายค่อนข้างต่ำ ดัชนีเคลื่อนไหวแคบๆ ในลักษณะการพักฐาน แต่แนวโน้มหุ้นไทยจะกลับมาสดใสมากขึ้นปี 2562 คาดเป้าหมายดัชนีหุ้นไทยอยู่ที่ 1,766 จุด โดยปัจจัยสนับสนุน คือ การเลือกตั้งในประเทศ ซึ่งคาดว่าจะมีขึ้นในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562
นอกจากนี้ จากสถิติ 4 ปีย้อนหลัง ค่าเงินบาทจะแข็งค่าใน 1-2 เดือนก่อนการเลือกตั้งประมาณร้อยละ 0.3 โดยเฉพาะเดือนที่มีการเลือกตั้งค่าเงินบาทจะแข็งค่ามาก ประกอบกับแนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารแห่งประเทศไทยคาดว่าจะมีการปรับขึ้นในช่วงต้นปี 2562 รวมถึงอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ อายุ 10 ปี เริ่มปรับตัวลงมาอยู่ที่ประมาณร้อยละ 2.9 ซึ่งใกล้เคียงกับผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทย อาจส่งผลให้กระแสเงินจากนักลงทุนต่างชาติไหลเข้ามาในพันธบัตรของไทยมากขึ้น
ส่วนทิศทางเศรษฐกิจไทยปี 2562 ประเมินว่าจะเติบโตระดับปานกลางประมาณร้อยละ 3.8 การส่งออกคาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 5.5 เนื่องจากเศรษฐกิจโลกเติบโตแบบชะลอตัวจากข้อพิพาททางการค้าระหว่างจีนและสหรัฐ ขณะที่ปัจจัยหนุนมาจากการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ ที่จะฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป พร้อมกับการเปิดประมูลโครงการสาธารณูปโภคของรัฐบาล โครงการพัฒนาเขตพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC รวมถึงการเมืองภายในประเทศและนโยบายต่างๆ ของภาครัฐที่มองว่ายังคงมีความต่อเนื่องหลังการเลือกตั้ง
ก่อนหน้า มีความเห็นของศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ระบุว่าการกำหนดวันเลือกตั้งที่ชัดเจนในเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า เชื่อว่าจะส่งผลดีต่อภาวะเศรษฐกิจของประเทศ โดยจะมีเม็ดเงิน ในช่วงการหาเสียงเลือกตั้ง ที่คาดว่าจะมีความคึกคัก มีเงินสะพัดไม่ต่ำกว่า 4 หมื่นล้านบาท ส.ว. อีก 4 หมื่นล้านบาท ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้เติบโตได้เพิ่มขึ้น ร้อยละ 0.5
นอกจากนี้ การกำหนดเลือกตั้งอย่างชัดเจนจะสามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนจากต่างประเทศในการเข้ามาลงทุน หรือ การตัดสินใจลงทุนมากขึ้น เชื่อว่า เศรษฐกิจไทยจะมีความคึกคัก ขยายตัวไม่ต่ำกว่าร้อยละ 4.5 และหากการค้าโลกยังสามารถขยายตัวได้เศรษฐกิจไทยมีโกาสเติบโตได้ถึงร้อยละ 4.8 มีเพียงปัจจัยราคาน้ำมันที่อาจปรับตัวสูง และความรุนแรงของสงครามการค้า เป็นปัจจัยที่ต้องจับตาเป็นพิเศษ.-สำนักข่าวไทย