รัฐสภา 29 พ.ย.- สนช.เห็นชอบร่างพ.ร.บ.สหกรณ์ เพื่อให้เอื้อประโยชน์ต่อการพัฒนาอย่างมีประสิทธิภาพ และเห็นชอบอนุสัญญาองค์การแรงงานระหว่างประเทศ เพื่อสร้างหลักประกันการทำงานบนเรือประมงให้ได้รับการคุ้มครองตามสิทธิแรงงานขั้นพื้นฐาน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มีนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณาร่างพระราชบัญญัติสหกรณ์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. ที่คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาเสร็จแล้ว โดยสาระสำคัญเป็นการแก้ไขบทบัญญัติบางประการของพระราชบัญญัติสหกรณ์ปี 2542 เพื่อให้เอื้อประโยชน์ต่อการพัฒนาคุ้มครองระบบสหกรณ์ให้มีเสถียรภาพและประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยกำหนดคุณสมบัติของสมาชิกสหกรณ์ เพิ่มคุณสมบัติของกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการพัฒนาการสหกรณ์แห่งชาติ แก้ไขอำนาจหน้าที่ของนายทะเบียนสหกรณ์เพื่อให้เหมาะสมยิ่งขึ้น กำหนดประเภท ลักษณะของสหกรณ์ วัตถุประสงค์และขอบเขตในการดำเนินกิจการสหกรณ์ รวมถึงกำหนดให้สหกรณ์จังหวัดเป็นนายทะเบียนกลุ่มเกษตรกรประจำจังหวัด เพื่อประสิทธิภาพในการกำกับดูแลกลุ่มเกษตรกรและปรับปรุงบทกำหนดโทษและอัตราโทษให้เหมาะสมยิ่งขึ้น
ทั้งนี้สมาชิก สนช. ได้อภิปรายกันมากในประเด็นการแก้ไขคำนิยามเพิ่มเติมคำว่าสัญชาติไทย เพื่อป้องกันไม่ให้คนสัญชาติอื่นเข้ามาเป็นสมาชิก และประเด็นเกี่ยวกับการดำเนินการให้กู้ยืมของสหกรณ์ที่จะต้องกำหนดให้ชัดเจนเพื่อป้องกันการทุจริตและให้เกิดความโปร่งใส ที่สำคัญป้องกันการเข้ามาในสหกรณ์เพื่อหาผลประโยชน์
ทั้งนี้ที่สุดแล้วที่ประชุมเห็นชอบร่างกฎหมายนี้ด้วยคะแนนเสียงเห็นด้วย 148 เสียง ไม่เห็นด้วย 3 เสียง งดออกเสียง 10 เสียง ไม่ลงคะแนนเสียง 1 เสียง ประกาศใช้เป็นกฎหมายต่อไป
จากนั้นที่ประชุม สนช. ยังได้พิจารณาให้ความเห็นชอบอนุสัญญาองค์การแรงงานระหว่างประเทศ ฉบับที่ 188 ว่าด้วยการทำงานในภาคการประมง พ.ศ. 2550 (ค.ศ. 2007) ที่คณะรัฐมนตรีเป็นผู้เสนอ โดย พล.ต.อ. อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ชี้แจงสาระสำคัญว่า การให้สัตยาบันอนุสัญญาองค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) ฉบับที่ 188 นี้ มีเจตนารมณ์เพื่อสร้างหลักประกันการทำงานบนเรือประมงให้เกิดสภาพการทำงานที่มีคุณค่า ซึ่งเป็นสิทธิแรงงานขั้นพื้นฐานที่ต้องได้รับการดูแลให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีในการทำงานตามหลักปฏิบัติสากล
จะทำให้คนงานประมงมีสภาพการทำงานที่มีคุณค่าตามข้อกำหนดขั้นต่ำในการทำงานบนเรือประมง เช่น มีข้อกำหนดขั้นต่ำในการทำงานและอายุขั้นต่ำ สัญญาจ้าง การจ่ายค่าตอบแทนที่ชัดเจน มีที่พัก อาหาร น้ำดื่มที่เพียงพอเหมาะสม รวมถึงเข้าถึงการดูแลรักษาทางการแพทย์ ซึ่งจะส่งผลดีกับไทย โดยเฉพาะในเรื่องแก้ไขปัญหาการใช้แรงงานบนเรือประมง ปัญหาการค้ามนุษย์ด้านแรงงานควบคู่กันไปกับการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย (IUU) สะท้อนให้เห็นถึงความตั้งใจของรัฐบาลที่จะแก้ไขปัญหาให้หมดไป
ขณะที่สมาชิก สนช. อภิปรายสนับสนุนให้มีการลงนามในสัญญาดังกล่าว เพราะจะทำให้การแก้ปัญหาแรงงานประมงเป็นไปตามหลักสากล และทำให้ภาพลักษณ์ของประเทศไทยในการคุ้มครองแรงงานในทุกมิติเป็นที่ยอมรับมากขึ้น โดยหลังอภิปรายที่ประชุมมีมติเห็นชอบด้วยคะแนน 148 ไม่เห็นด้วยไม่มี และงดออกเสียง 4 เสียง.-สำนักข่าวไทย
