fbpx

ก.อุตฯ มอบของขวัญปีใหม่ ยกเลิกต่ออายุใบ รง.4

กรุงเทพฯ 26 พ.ย. – ก.อุตฯ  ร่วมกับ ส.อ.ท. ขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ Factory 4.0 พร้อมมอบของขวัญปีใหม่ ยกเลิกต่ออายุใบอนุญาต รง.4 แต่โรงงานจะต้องรับรองตัวเอง “Self-Declaration” พร้อมสั่ง กนอ.ดูแลสร้างความเข้มแข็งให้ชุมชนรอบนิคมอุตสาหกรรม


นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นประธานในพิธีลงนาม MOU ความร่วมมือของกระทรวงอุตสาหกรรมกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ตามแผนยุทธศาสตร์ “Factory 4.0” นายอุตตม กล่าวว่า เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการโรงงานอุตสาหกรรมกว่า 150,000 รายทั่วประเทศปรับเปลี่ยนสู่อุตสาหกรรม 4.0 ทางกระทรวงอุตสาหกรรมจะให้การสนับสนุนส่งเสริมให้ภาคเอกชนมีประสิทธิภาพการผลิต ลดต้นทุน และลดความยุ่งยากการใช้บริการภาครัฐมากที่สุด เช่น นโยบายยกเลิกการต่ออายุใบ รง.4  ซึ่งถือเป็นของขวัญปีใหม่ที่มอบกับผู้ประกอบการอุตสาหกรรม 


ทั้งนี้ ผู้ประกอบการจะต้องทำการรับรองตนเอง หรือ “Self-Declaration”และโรงงานจะต้องดูแล 3 ส่วน คือ 1.สิ่งแวดล้อมในพื้นที่โดยมิติใหม่ของโรงงานจะเป็นผู้สร้างไม่ใช่ผู้ทำลาย  2. การพัฒนาชุมชนให้เข้มแข็งมีทุนสะสมที่ชุมชนจะใช้หล่อเลี้ยงเศรษฐกิจของเขาได้เอง  และ 3.การพัฒนาคนในโรงงานและชุมชนให้มีคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น สร้างงานและอาชีพเสริมที่เชื่อมโยงหรือจ้างช่วงจากโรงงาน โดยเฉพาะผู้สูงวัยในภาคการผลิตที่จะกลับสู่ชุมชน คนเหล่านี้ต้องอยู่ได้โดยไม่เป็นภาระลูกหลาน ซึ่งรัฐและเอกชนจะร่วมมือกันดูแล  ตามแผนนี้จะมีผลพลอยได้สำคัญ คือ ได้ Big Data ภาคอุตสาหกรรม ซึ่งจะเกิดขึ้นพร้อมกับกระบวนการทำการรับรองตนเองของผู้ประกอบการ “Self-Declaration”  ซึ่งฐานข้อมูลนี้จะมีความสำคัญมากต่อการกำหนดนโยบายพัฒนาภาคการผลิตของไทยทั้งระบบของรัฐบาลในอนาคต 

นอกจากนี้ ยังส่งเสริมภาคอุตสาหกรรมให้ก้าวสู่เศรษฐกิจหมุนเวียน หรือ Circular Economy ที่มีการผลิตแบบหมุนเวียน โดยภาคเอกชนสามารถร่วมมือกับสถาบันการศึกษาผลักดันให้เกิดขึ้นของฮับ Circular Economy หากมีสิ่งใดที่จะขอรับการสนับสนุนจากกระทรวงอุตสาหกรรมปรับปรุงกฎระเบียบต่าง ๆ ให้เอื้อต่อการเกิดขึ้นของ Circular Economy กระทรวงอุตสาหกรรมก็พร้อมนำเรื่องขอความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี ด้านประชาชนได้รับของขวัญปีใหม่ โดยมอบหมายให้การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) จัดทำโครงการช่วยดูแลสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนและวิสาหกิจชุมชนรอบนิคมอุตสาหกรรม 


นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธาน ส.อ.ท. กล่าวว่า ส.อ.ท.พร้อมมีส่วนร่วมและให้การสนับสนุนการดำเนินงานของกระทรวงอุตสาหกรรมทุกด้าน ทั้งในส่วนของการใช้ระบบกำกับดูแลโรงงานรูปแบบใหม่ ซึ่งนโยบายยกเลิกอายุใบอนุญาต รง.4 ทำให้ไม่ต้องต่ออายุนั้น ทาง ส.อ.ท.จะร่วมมือจัดทำกระบวนการทำการรับรองตนเองของผู้ประกอบการ “Self-Declaration” นอกจากนี้ จะผลักดันให้สมาชิกที่มีศักยภาพช่วยเหลือพัฒนาวิสาหกิจ SMEs และชุมชน ผ่านกลไก Big Brother ในรูปแบบต่าง ๆ เช่น การสนับสนุนเครื่องจักรต้นแบบ การยกระดับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ การให้คำปรึกษา และการจับคู่ธุรกิจของผู้ประกอบการ  

นายสุพันธุ์ กล่าวว่า ส.อ.ท.ให้ความสำคัญเรื่องCircular Economy โดยจะตั้งคณะทำงานและน่าจะมีตัวแทนจากกระทวงอุตสาหกรรมเข้ามาร่วมด้วย รวมทั้งส่งเสริมให้สมาชิกนำแนวคิด Circular Economy ไปขับเคลื่อนและขยายผลตลอดห่วงโซ่คุณค่าของกระบวนการทางธุรกิจ และในส่วนของการพัฒนาแรงงานภาคอุตสาหกรรม  ส.อ.ท.จะสนับสนุนการพัฒนาแรงงานภาคอุตสาหกรรมผ่านกลไก Big Brother โดยครอบคลุมทั้งการพัฒนากำลังคนในโรงงานผ่านโครงการทวิภาคีและการส่งเสริมการจ้างงานผู้เกษียณอายุ และการพัฒนาคนในชุมชน เช่น การสนับสนุนพื้นที่ขายสินค้าภายในโรงงานสำหรับคนในชุมชน โครงการเปลี่ยนประเทศไทยด้วยการศึกษาในพื้นที่จังหวัดต่าง ๆ เป็นต้น  

นายพสุ โลหารชุน ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า กระทรวงฯ ได้วาง Road Map ในการขับเคลื่อนนโยบายสู่การปฏิบัติ และที่ผ่านมากระทรวงฯ ได้จัดตั้งคณะทำงานร่วมกับ ส.อ.ท. ได้แก่ คณะทำงานพัฒนาอุตสาหกรรมใหม่ คณะทำงานแก้ไขปัญหาอุปสรรคในการประกอบการอุตสาหกรรม คณะทำงานพัฒนาอุตสาหกรรมเชิงพื้นที่ คณะทำงานเพื่อการส่งเสริมและพัฒนาผู้ประกอบการเอสเอ็มอีและคณะทำงานพัฒนาอุตสาหกรรมอย่างยั่งยืน ซึ่งคณะทำงานมีการพัฒนาและขับเคลื่อนอุตสาหกรรมร่วมกันอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด ซึ่งถือได้ว่าเป็นกลไกร่วมสำคัญระหว่างกระทรวงฯ และ ส.อ.ท.ขับเคลื่อนนโยบายทั้ง 4 ด้าน ทั้งพัฒนาโรงงานอุตสาหกรรม ส่งเสริมสนับสนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอี และชุมชน การพัฒนาแรงงานภาคอุตสาหกรรม รวมถึงการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมและชุมชนโดยรอบสู่การปฏิบัติที่เป็นรูปธรรมต่อไป. -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

ชีวิตติดลบ! ชาวแม่สายจมน้ำจมโคลน 10 วันแทบหมดตัว

หลายชุมชนชายแดนแม่สาย เผชิญน้ำท่วมและจมโคลนมา 10 วันแล้ว อยู่ในสภาพแทบหมดตัว ต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่กับชีวิตที่ต้องติดลบจากน้ำท่วมครั้งนี้

อาลัย “อดีตแข้ง U19” ขับเบนซ์พลิกคว่ำดับพร้อมภรรยา

วงการลูกหนังอาลัย “อดีตนักเตะ U19” ขับเบนซ์พลิกคว่ำดับพร้อมภรรยา ชาวบ้านเผยจุดนี้เกิดอุบัติเหตุบ่อย ลงสะพานอย่าขับเร็ว

สอบเพิ่ม “ไอ้แม็ก” ฆ่าชิงทรัพย์หญิงขับโบลท์ ฝากขังพรุ่งนี้

ตำรวจคุมตัว “ไอ้แม็ก” สอบปากคำเพิ่มคดีฆ่าชิงทรัพย์โชเฟอร์สาวขับโบลท์ เจ้าตัวปฏิเสธไปชี้จุด อ้างปวดท้องไม่สบาย เตรียมฝากขังพรุ่งนี้