รัฐบาลมอบของขวัญปีใหม่ให้ประชาชน

กทม. 30 ธ.ค. – รัฐบาลมอบของขวัญปีใหม่ให้ประชาชน มิติความมั่นคงปลอดภัย อุตสาหกรรม ท่องเที่ยว กีฬา ปิดท้าย Amazing Thailand Countdown และสวดมนต์ข้ามปี เสริมสิริมงคลรับปีใหม่


นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ช่วงเทศกาลขึ้นปีใหม่ 2568 กระทรวงและหน่วยงานต่างๆ ร่วมกันขานรับนโยบายรัฐบาล มอบของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชน ขณะนี้ครบทุกกระทรวงแล้ว ซึ่งมอบประโยชน์และสร้างความสุขให้กับประชาชนทุกกลุ่ม รวมทั้งกระทรวงกลาโหม โดยหน่วยงานทหารร่วมมือกับราชการประจำจังหวัดต่างๆ ในการป้องกันและลดอุบัติเหตุ พร้อมจัดตั้งศูนย์อำนวยความปลอดภัยและความเรียบร้อยสำหรับประชาชานที่เดินทางกลับภูมิลำเนา เริ่มตั้งแต่วันที่ 27 ธ.ค. 67-2 ม.ค. 68 รวมถึงให้กองทัพซีลแนวชายแดนตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อสร้างความปลอดภัยให้กับประชาชน ดูแลอาชญากรรม ยาเสพติด และสิ่งผิดกฎหมายด้วย

ขณะที่กระทรวงอุตสาหกรรมส่งมอบความสุขทั่วไทยผ่านมาตรการต่างๆ เช่น 1) ปลดล็อก “โซลาร์รูฟท็อป” ไม่ต้องขออนุญาตโรงงาน เพื่อสนับสนุนใช้ไฟฟ้าสะอาดจากพลังงานแสงอาทิตย์ 2) ส่งเสริมการลงทุน นิคมฯ ภาคใต้ พื้นที่ Rubber City ซื้อที่ดิน รับส่วนลดร้อยละ 3-15% ของอัตราที่ดิน 3) ลดราคาโปรแกรม HR SME 15% ระยะเวลา 3 ปี ทดลองใช้ฟรี 30 วัน รวมถึงโครงการเหมืองแร่ปลอดภัยห่วงใยประชาชน ปีที่ 8 โดยจัดกิจกรรม อาทิ ฟรีตรวจสุขภาพประชาชนรอบสถานประกอบการเหมืองแร่กว่า 30,000 ราย จัดสรรเงินผลประโยชน์พิเศษ แก่รัฐให้ อปท. 187 แห่ง ครอบคลุม 54 จังหวัด เพื่อพัฒนาชุมชนกว่า 525 ล้านบาท รวมทั้งกิจกรรมสร้างความเข้มแข็งให้กับอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาล เช่น เก็บเกี่ยวอ้อยสดคุณภาพดี 75 ล้านตัน สนับสนุน 69 บาท/ตันอ้อย เพิ่มราคารับซื้อใบและยอดอ้อย 300 บาท/ตันใบและยอดอ้อย หรือเท่ากับ 51 บาท/ต้นอ้อย ตลอดจนเสริมสภาพคล่อง ยกเว้นค่าธรรมเนียมและลดค่าบริการ เช่น 1) ยกเว้นภาษีเงินได้ร้อยละ 100 ของราคาจ่ายที่จ่ายไปเพื่อการลงทุนในเครื่องจักร โปรแกรมคอมพิวเตอร์ 2) ยกเว้นค่าธรรมเนียมคำขอใบรับรอง ฉบับละ 1,000 บาท/ ค่าธรรมเนียมใบรับรอง ฉบับละ 10,000 บาท 3) ลดค่าตรวจโรงงานในประเทศ 50% (มอก.) เป็นต้น


กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จัดกิจกรรมให้บริการฟรี เช่น 1) ฝึกสอนมวยไทยทั้งคนไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติ ณ กลุ่มอนุรักษ์ศิลปะมวยไทยและกีฬาไทย กรมพลศึกษา สนามกีฬาแห่งชาติ (15 ธ.ค. 67-15 ม.ค. 68 ตั้งแต่เวลา 17.00-20.00 น.)

2) กรมพลศึกษา โดยศูนย์นันทนาการ ให้บริการกิจกรรมนันทนาการ เช่น ดนตรี (กลอง คีย์บอร์ด กีตาร์) ร้องเพลง ลีลาศ การเคลื่อนไหวร่างกาย นาฏศิลป์ ศิลปะ ภาษาพาเพลิน และดนตรีไทย (ตั้งแต่ 15 ธ.ค. 67-15 ม.ค. 68) วันจันทร์-ศุกร์ (เว้นวันหยุดราชการ) ฯลฯ เที่ยวชุมชนช่วงปีใหม่ และกิจกรรมส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ เช่น Amazing Chiang Mai Countdown 2025 ณ อุทยานหลวงราชพฤกษ์ (21-31 ธ.ค.67) และ Amazing Thailand Countdown 2025 ณ สวนนคราภิรมย์ กรุงเทพฯ (28 ธ.ค. 67-1 ม.ค.68) เป็นต้น

รัฐบาลยังได้ส่งมอบของขวัญปีใหม่ 2568 ไปให้กับพี่น้องประชาชนจังหวัดชายแดนภาคใต้ เร่งช่วยเหลือพี่น้องประชาชนจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ประสบอุทกภัย โดย ศอ.บต. ร่วมกับอาชีวะรวมใจช่วยชาวใต้ เปิดศูนย์ fix it center และเปิดหน่วยบริการในชุมชน ซ่อมแซมความเสียหายของเครื่องใช้ไฟฟ้าและยานพาหนะของประชาชน ร่วมกันทำความสะอาดฟื้นฟูสถานที่กลางและสถานที่สาธารณประโยชน์ อาทิ วัด มัสยิด โรงเรียน สถานที่ปฏิบัติธรรมและพื้นที่ส่วนรวมด้วย รวมทั้งกิจกรรมติวฟรี ทั้งออนไซต์และออนไลน์ ให้กับเด็กและเยาวชน และกิจกรรมแนะแนวการศึกษาต่อทั้งในและต่างประเทศ ตั้งแต่วันที่ 17-24 มกราคม 2568 พบกับติวเตอร์ชื่อดังในทุกวิชา สอบถามรายละเอียดได้ที่ Call : 0 64642 9143/0 65047 1460 Email : efcc.oac@gmail.com /Facebook : FAS:Foreign Affairs Strategy Division/Facebook : ข่าวศอ.บต. และสายด่วน ศอ.บต.1880


“สำนักนายกรัฐมนตรี โดยสำนักงานปลัด สำนักนายกรัฐมนตรี ได้มอบของขวัญโดยปรับโฉม NBT พร้อมเปิดพื้นที่สื่อเพื่อประชาชน เชื่อมโยงนโยบายใกล้ชิดประชาชน เพิ่มสัดส่วนเนื้อหา SOFT POWER สร้างมูลค่าจากภูมิปัญญาไทย ต่อยอดสู่การสร้างรายได้ สร้างอาชีพให้ประชาชน โดย 1 ม.ค. 68 KICK OFF โฉมใหม่ NBT รวมทั้งเชิญชวนคนไทยและพุทธศาสนิกชนกราบสักการะพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) ที่อัญเชิญจากวัดหลิงกวง กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีนมาประดิษฐานในประเทศไทยเป็นการชั่วคราว เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง ระหว่างวันที่ 4 ธ.ค. 2567 ถึง 14 ก.พ. 2568 (73 วัน) พร้อมกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปีถวายเป็นพระราชกุศล และเสริมสิริมงคลรับปีใหม่ ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง ด้วย” โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว.-315-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]

ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”

กทม. 15 ก.ย.-ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” หลังครบ 5 วันกักโรค และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังครบ 5 วัน การกักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติตามรายชื่อ 10 คน และทนายความ เข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก โดยก่อนหน้านี้ พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าอาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพื่อความปลอดภัย ล่าสุด ครอบครัวชินวัตรเดินทางมาถึงเรือนจำคลองเปรมแล้ว นำโดยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนโต และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุม เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน

บช.ก. 15 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุมธานี เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน ฝากให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหาย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวพระวัดดังจังหวัดปทุมธานี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินวัดจำนวน 12.2 ล้านบาท ที่โอนเข้าบัญชีสีการายหนึ่ง ว่า เรื่องนี้ทราบว่ามีคนแจ้งความและเป็นคดีความอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ และได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากพอสมควร ซึ่งสีกาคนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับสีกาที่ทางตำรวจเพ่งเล็งอยู่หรือไม่จะต้องตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย แต่คดีนี้หลักๆ จะดูที่เส้นทางการเงินของบัญชีวัด หากพบใครเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นำหลักฐานออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลนั้น ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะเรียกเข้าสอบหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเรื่องนี้จะชัดเจน มีรายงานว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้พบว่ามี 8 คน รวมพระด้วยเป็น 9 คน จึงอยากฝากถึงพระว่า ให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหายเนื่องจากมีหลักฐานจำนวนมาก.-419-สำนักข่าวไทย

บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์

กทม. 16 ก.ย.-บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์เกือบ 5 ล้าน แต่ยายไม่ฟัง ไม่เชื่อว่าโดนหลอก ไล่ตำรวจกลับไป แถมโทรฟ้องมิจฉาชีพว่าตำรวจมากวน สุดท้ายเข้าแจ้งความแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระโขนง ตะโกนคุยกับคุณยายวัย 83 ปี ข้ามรั้วประตูบ้าน ว่า อย่าโอนเงินให้มิจฉาชีพอีก หลังธนาคารพบความผิดปกติ เนื่องจากคุณยายถอนเงินออกมาหลายล้านบาท จึงประสานงานไปที่ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ AOC 1441 ให้แจ้งมายังตำรวจนครบาล เพื่อตรวจสอบการโอนเงินของคุณยายโดยด่วน ปรากฏว่า เมื่อตำรวจมาถึงบ้าน คุณยายไม่เชื่อ แถมยังคุยโทรศัพท์กับตำรวจปลอมในมือถือตลอดเวลา แล้วไม่เชื่อว่า ตำรวจที่มาหน้าบ้านเป็นตำรวจจริง จนตำรวจตัวจริงอ่อนใจ ทำได้เพียงแค่ประสานงานผู้นำในชุมชนให้ช่วยดูแลคุณยาย และเตือนเรื่องนี้ ล่าสุดคุณยายมาแจ้งความแล้ว เมื่อวันที่ 13 กันยายน แต่ยังไม่ได้เงินคืน ข้อมูลของตำรวจพบว่า คุณยายโอนเงินไปทั้งหมด 5 ครั้งครั้งแรกวันที่ 3 กันยายน ฝากเงินสดเข้าบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง 3.5 ล้านบาทวันที่ 4 กันยายน โอนเงินสดไป 400,000 บาทวันที่ […]

ข่าวแนะนำ

ป่วนไม่เลิก! เขมรบุกทำลายรั้วลวดหนาม “บ้านหนองหญ้าแก้ว”

16 ก.ย.- เขมรป่วนไม่เลิก! บุกทำลายรั้วลวดหนาม บ้านหนองหญ้าแก้ว ทหารกัมพูชายืนประกบสังเกตการณ์ ขณะที่ชาวเน็ตแห่หนุนสร้างกำแพงกั้นถาวร วันที่ 16 ก.ย. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสังคมออนไลน์แห่แชร์ภาพคลิปวิดีโอ พร้อมข้อความโดยอ้างว่าเป็นภาพของชาวเขมรบุกทำลายรั้วลวดหนามของไทย บริเวณบ้านหนองหญ้าแก้ว ซึ่งเหตุการณ์เกิดในวันนี้ โดยมีชาวบ้านจากฝั่งกัมพูชาหลายคนเข้ามาใกล้แนวรั้วลวดหนาม พร้อมถือไม้และพยายามรื้อทำลาย ขณะที่ทหารกัมพูชายืนสังเกตการณ์อยู่รอบพื้นที่ ขณะที่ชาวเน็ตแห่แสดงความคิดเห็น สนับสนุนการสร้างกำแพงแทนรั้วลาดหนาม เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก -313 .-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ก่อนทูลเกล้าฯ ครม.

กทม 16 ก.ย.- “อนุทิน” สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ไหว้ศาลหลักเมือง – วัดพระแก้ว ก่อนนำรายชื่อ ครม. ขึ้นทูลเกล้าฯ วันนี้ บอกเสร็จสิ้นภารกิจไปอีกเปราะ ขณะ “บิ๊กเล็ก” ว่าที่ รมว.กลาโหม รอรับ พลาดลื่นคะมำที่บันได นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เดินทางมายังศาลหลักเมือง หลังตรวจสอบรายชื่อคณะรัฐมนตรีที่สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสร็จสิ้นแล้ว โดยมี พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม รอต้อนรับ โดยจุดแรก นายกรัฐมนตรีได้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์บริเวณหอพระ ซึ่งระหว่างทางที่จะเดินขึ้นไปยังหอพระ พล.อ.ณัฐพล ที่เดินตามข้างหลัง ได้ลื่นล้มทั้งตัวหน้าบริเวณหน้าบันไดทางขึ้นหอพระ คาดว่าเป็นเพราะถุงเท้าทำให้ลื่น แต่ พล.อ.ณัฐพล ได้ลุกอย่างรวดเร็ว และไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร ขณะที่ผู้เห็นเหตุการณ์ร้องอุทานด้วยความตกใจ ต่อมา นายอนุทิน ได้ผูกผ้าแพร 3 สี ถัดจากนั้นได้ถวายพวงมาลัยศาลหลักเมือง และสักการะศาลเทพารักษ์ทั้ง 5 พร้อมเติมน้ำมันตะเกียงพระประจำวันเกิด ขณะที่ประชาชนที่มาสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ศาลหลักเมือง ต่างตะโกนให้กำลังใจนายอนุทิน “นายกฯ สู้ๆ” ก่อนที่นายอนุทินจะหันไปยกมือไหว้ขอบคุณ […]

ประชุมความร่วมมือไทย-กัมพูชา ปราบสแกมเมอร์

สระแก้ว 16 ก.ย.-วันนี้ที่จังหวัดสระแก้ว มีการประชุมสำคัญระหว่างไทยและกัมพูชา เพื่อหวังแนวทางร่วมมือในการปราบอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสแกมเมอร์.-สำนักข่าวไทย

ผู้ค้าทองคำเสนอตั้งเคลียริ่งเฮาส์ ค้านเก็บภาษีเทรดทอง

กรุงเทพฯ 16 ก.ย. – ราคาทองคำนิวไฮตามตลาดโลก การค้าทองคึกคัก ผู้ค้าทองคำค้านแนวคิดภาครัฐเก็บภาษีเทรดทองคำออนไลน์ เพื่อป้องกันบาทแข็งค่า ระบุถอยหลังเข้าคลอง ทำลายการค้า เสนอ ธปท. “ตั้งเคลียริ่งเฮาส์-ปรับสูตรดูแลค่าเงิน” นพ.กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ ประธานกรรมการ กลุ่มบริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ แม่ทองสุก จำกัด (MTS Gold) กล่าวว่า ในการประชุมระหว่างผู้ค้าทองคำและธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) วานนี้ ทาง ธปท.มีการสอบถามความเห็นเรื่อง การที่กระทรวงการคลังอาจออกมาตรการเก็บภาษีในการซื้อ-ขายทองคำ โดยเฉพาะธุรกรรมออนไลน์และมีการชำระเป็นเงินบาท เพื่อลดผลกระทบจากการเคลื่อนไหวของราคาทองคำต่อเงินบาท ซึ่งทางผู้ค้าทองคำ คัดค้านเพราะจะกระทบต่อการค้าทองคำในองค์รวมของทั้งในและต่างประเทศ ทำลายระบบเศรษฐกิจ โดยในขณะนี้การค้าทองคำทั้งในและต่างประเทศแต่ละปีมีมูลค่ารวมกว่า 3 ล้านล้านบาท/ปี และความนิยมเทรดระบบออนไลน์เพิ่มสูงขึ้น ตามทิศทางเศรษฐกิจดิจิทัล ตอบสนองนพฤติกรรมคนรุ่นใหม่ ที่นิยมเทรดออนไลน์ทั้งผ่านแอปฯ ต่างๆ และเทรดผ่าน Gold Futures ตลาด TFEX ซึ่งเป็นการเทรดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงกับราคาทองคำภายในประเทศ โดยยอดเทรดเติบโตอย่างมากราว 9-20 ตัน/วัน หรือ 20,000-35,000 สัญญาต่อวัน […]