ตำรวจรวบรวมหลักฐานเหยื่อธุรกิจข้าวกล่องลวงโลก

อุตรดิตถ์ 7 พ.ย.-ตำรวจลงพื้นที่บ้านของนางธนิสร กุยแก้ว หมู่ 8 ต.วังกะพี้ อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ เพื่อสอบสวนเจ้าทุกข์และพยาน เก็บรวบรวมเอกสารหลักฐานภาพถ่าย หลังจากนางธนิสร กุยแก้ว พร้อมผู้เสียหายอีก 2 ราย แจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ ที่สภ.พญาแมน อ.พิชัย ว่าถูกหลอกให้ทำสัญญาสัมปทานกับบริษัทแห่งหนึ่ง เพื่อส่งข้าวกล่อง ไข่ต้ม และน้ำดื่มให้กับโรงงานใหญ่แห่งหนึ่งในจังหวัดพิษณุโลก ระยะเวลาสัญญาจ้าง 5 ปี วันจันทร์ – ศุกร์ ส่งข้าวกล่อง วันละ 10,000 กล่อง /ไข่ต้ม วันละ 30,000 ฟอง, วันเสาร์ – อาทิตย์ ส่งน้ำดื่มวันละ 10,000 ขวด เริ่มตั้งแต่วันที่ 3 พฤศจิกายน 2561 จึงได้ทำสัญญาโดยเสียเงินค่าทำสัมปทานรวมทั้งค่าขวดบรรจุน้ำดื่ม รวม 106,000 บาท และยังได้ลงทุนซื้ออุปกรณ์ วัตถุดิบอีก 764,000 บาท 


  

ปรากฏว่าวันแรกส่งน้ำดื่มตามที่กำหนด ผู้ว่าจ้างนำกลับมาคืนอ้างว่าไม่ผ่านมาตรฐาน ต้องทำน้ำดื่มให้ใหม่ เพื่อเป็นการหักลบกับค่าปรับ ส่วนข้าวกล่องเริ่มทำวันที่ 5 พฤศจิกายน 10,000 กล่อง ซึ่งเสร็จตามเวลา กลับถูกบ่ายเบี่ยงและยื้อเวลา และผู้ว่าจ้างไม่นำข้าวกล่องที่ทำไว้ไปส่งโรงงาน  ปล่อยทิ้งกองอยู่ที่บ้านจนบูดเน่า จึงตัดสินใจไปแจ้งความเพื่อเรียกร้องค่าเสียหาย 299,000 บาท เพื่อนำไปจ่ายค่าแรงคนงานกว่า 30 คน ที่โหมทำข้าวกล่องทั้งวันทั้งคืน


  

หลังจากตำรวจตรวจสอบแล้วเผยว่า จะเรียกคู่กรณีหรือผู้ว่าจ้างซึ่งอยู่ที่ ต.พญาเมน อ.พิชัย สอบปากคำอีกครั้ง ทั้งนี้ต้องให้ความยุติธรรมทั้ง 2 ฝ่าย ก่อนจะสรุปสำนวนด้วยคดี อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ข้าวกล่องเริ่มบูดเน่า หากใครพอมีช่องทางเอาไปทำประโยชน์ได้ อยากให้มาติดต่อมา


นอกจากนี้ยังมีชาวพิษณุโลก คือคุณมด น.ส.อำภาพร ดอนคำไพ อายุ 31 ปี เป็นเหยื่ออีกรายหนึ่งที่เคยหลงกลไปร่วมธุรกิจทำข้าวกล่องส่งโรงงานที่จ.อุตรดิตถ์ เมื่อกลางปี 2560 แม้จะไหวตัวถอนตัวออกมาได้ทัน แต่ก็สูญเงินไป 100,000 บาท 

             

น.ส.อำภาพรเผยว่า ได้รู้จักกับคุณอิ๋ว เป็นผู้หญิงที่แต่งตัวดีทำตัวมีฐานะ ทำธุรกิจหลายอย่าง กระทั่งได้ไปบ้านคุณอิ๋ว และเห็นคนทำกับข้าวกัน คุณอิ๋วบอกว่าทำกับข้าวส่งโรงงานในอุตรดิตถ์ วันละ 10,000 กล่อง ได้สัมปทานมา ช่วงนั้นจึงถูกชักชวนว่าให้มาร่วมทำธุรกิจข้าวกล่องส่งโรงงานกัน ผลตอบแทนดีมาก กระทั่งกลางปี 2560 จึงตัดสินใจร่วมธุรกิจ โดยต้องไปทำข้าวกล่องที่จังหวัดอุตรดิตถ์ เริ่มจากต้องทำค่าเปลี่ยนสัญญาจำนวนเงิน 20,000 บาท และค่าซื้ออุปกรณ์ทำกับข้าว ที่ต้องซื้อกับคุณอิ๋ว จึงโอนเงินให้ไปจำนวน 100,000 บาท ซึ่งทุกอย่างต้องซื้อจากคุณอิ๋ว ได้หม้อ 20 ใบ เตา 10 เตา ( หลังจากเลิกสัญญา ได้หม้อหุงต้มกับมา 5 ใบ กับเตาแก๊ส 2 ใบ ) วันที่ 26 มิถุนายน 2560 จากนั้นผ่านไปประมาณเดือนครึ่งช่วงเดือนสิงหาคม 2560 จึงได้เริ่มต้นทำข้าวกล่องอย่างจริงจัง โดยไปเช่าบ้านอยู่ที่พญาแมน จังหวัดอุตรดิตถ์ เพื่อทำธุรกิจ เริ่มจากวันละ 100-200 กล่อง ช่วงแรกมีทั้งมีคนมารับถึงบ้าน บางวันก็ให้ไปส่งที่บ้านผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านแต่เมื่อไปได้4 วัน ชักเริ่มเอะใจ เมื่อชาวบ้านบอกว่าข้าวกล่องที่ตนเองทำไปนั้น ไม่ได้นำไปส่งโรงงานใดๆ เลย แต่กลับเป็นว่าผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านนำไปแจกให้กับชาวบ้านในพื้นที่ วันไหนข้าวกล่องเหลือ ก็จะนำไปทิ้งแม่น้ำแถวนั้น จึงรู้ตัวว่าไม่ได้ทำข้าวกล่องส่งโรงงานจริง จึงถอยออกมา และบอกกับคุณอิ๋วว่าไม่ทำธุรกิจแล้ว

              

น.ส.อำภาพร เผยต่อว่าตนเองโดนน้อยที่สุดแล้ว ช่วงนั้นเห็นคนทำกับข้าวกันหลายราย ลงทุนซื้อสัมปทานกันเป็นคนละล้านบาทก็มี ส่วนใหญ่เป็นคนที่มาจากภาคใต้ เสียหายกันเยอะมาก พอเห็นในข่าวก็รู้ว่าเป็นคนเดียวกันกับที่เคยหลอกตนเอง จึงออกมาพูดเพื่อไม่ให้ใครโดนหลอกอีก

 พล.ต.ต.พยูห์ ธนะศรีสืบวงศ์ ผบก.ตำรวจภูธรจังหวัดอุตรดิตถ์ขณะนี้ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนชุดใหญ่ของจังหวัด 2 ชุด มาดำเนินการด้านคดีถูกต้องชัดเจนรวดเร็ว ชุดที่ 1 ไปสอบปากคำผู้จัดการที่บริษัทไทยแอโรว์ จำกัด จ.พิษณุโลก ที่ถูกอ้างรับซื้อข้าวกล่องทราบว่าโรงงานมีพนักงานแค่ 4,000 คน และในโรงงาน มีโรงอาหาร ซึ่งมีร้านอาหาร 16 ร้านค้า มีบริการข้าวฟรี น้ำฟรี และมีการจำหน่ายกับข้าว 1 อย่าง 10 กว่าบาท 2 อย่าง 20 กว่าบาท ซึ่งไม่มีการสั่งทำข้าวกล่องให้พนักงานแต่อย่างใด และชุดที่ 2 ระดมพนักงานสอบสวนสอบปากคำผู้เสียหายและผู้เกี่ยวข้อง ผู้เห็นเหตุการณ์ในการทำสัญญาให้ครบทุกปาก เพื่อรวมรวบพยานหลักฐาน และจะเร่งดำเนินคดีกับกลุ่มขบวนการที่มาหลอกลวงให้เร็วที่สุด .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ

กทม. 23 ส.ค.- กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ เฝ้าระวัง “พายุดีเปรสชัน” มีแนวโน้มทวีกำลังแรงเป็นพายุโซนร้อน กระทบไทย 24-27 ส.ค.นี้ กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดตาก จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนตกสะสมที่อาจเกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศลาวตอนบน และเวียดนามตอนบน สำหรับบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบนมีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน และจะขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามและประเทศลาวตอนบน ในช่วงวันที่ 25–26 ส.ค. 68 ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้น กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ กับมีลมแรงบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 24–27 ส.ค. 68 -สำนักข่าวไทย

โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊ก ขรก.มหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน

ทำเนียบ 23 ส.ค.- โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊กข้าราชการมหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน ด้าน “เชษฐา” เป็นอธิบดี ปภ. ราชกิจจานุเบกษา ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงมหาดไทย พ้นจากตำแหน่ง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 6 ราย ดังนี้ ตั้งแต่วันที่ 21 ส.ค.2568 เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 22 ส.ค.2568 ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี -สำนักข่าวไทย

จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมืองโกงเงินอุดหนุน ก่อนหนีกบดานลาว

22 ส.ค. – ตำรวจภูธรภาค 1 จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมือง โกงเงินอุดหนุน 17.6 ล้านบาท หนีกบดานลาว ก่อนจนมุมถูกจับกุมได้ พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (ผบช.ภ.1), พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์ รอง ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผบก.สส.ภ.1, พล.ต.ต.ธรรมนูญ เชาวะวนิชย์ ผบก.ภ.จว.สระบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระพุทธบาท, ตม.จว.หนองคาย, กกต.จว.หนองคาย ร่วมกันจับกุม นายพีระวิทย์ อายุ 47 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ สืบเนื่องจากเมื่อปี 2562 นายพีระวิทย์ เป็นหัวหน้าพรรคการเมือง รับเงินอุดหนุนพรรคการเมือง เพื่อพัฒนาพรรคการเมือง จำนวนประมาณ 17.6 ล้านบาท โดยไม่มีการทำหลักฐานการเบิกจ่าย ทำให้ กกต. เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายพีระวิทย์ และเหรัญญิกพรรค ต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน สภ.พระพุทธบาท โดยเลื่อนการเข้าให้ปากคำและแสดงหลักฐานการเบิกจ่ายเงิน และต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองได้หลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงออกหมายจับในข้อหา […]

“ธีรรัตน์” สั่งผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บาย 24 ชม. รับพายุคาจิกิ

กทม. 22 ส.ค.- “ธีรรัตน์” สั่งการผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บายรับมือผลกระทบ “พายุคาจิกิ” ตลอด 24 ชั่วโมง ย้ำ ประชาสัมพันธ์ข้อมูลให้ประชาชนรับรู้และเตรียมพร้อมอย่างต่อเนื่อง นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า กระทรวงมหาดไทยโดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ติดตามสภาวะอากาศร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับผลกระทบพายุโซนร้อน “คาจิกิ” ซึ่งพบว่าพื้นที่บางส่วนมีความเสี่ยงต้องเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขังในเขตชุมชนเมืองที่เกิดน้ำท่วมขังซ้ำซาก ระหว่างวันที่ 24 – 28 สิงหาคม 2568 ในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ 45 จังหวัด และกรุงเทพมหานคร นางสาวธีรรัตน์ ได้สั่งการผู้ว่าราชการจังหวัด 45 จังหวัด และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต รวมถึงกรุงเทพมหานคร กำชับให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด พร้อมกำชับให้จัดทีมปฏิบัติการพร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัยเข้าประจำพื้นที่เสี่ยง เพื่อเข้าเผชิญเหตุและให้การช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงทีตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมประกาศแจ้งเตือนและปิดกั้นพื้นที่ไม่ให้บุคคลใดเข้าพื้นที่หากพบว่ามีความเสี่ยง ในส่วนพื้นที่ชายฝั่ง ให้สั่งห้ามนักท่องเที่ยวเล่นน้ำและห้ามเดินเรือทุกชนิดหากสถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรง “ให้ผู้ว่าฯ […]

ข่าวแนะนำ

ทีมทนายวัดพระบาทน้ำพุแจงปม “หลวงพ่ออลงกต” สวมบัตร ปชช. คนตาย

ลพบุรี 24 ส.ค. – วัดพระบาทน้ำพุ ตั้งโต๊ะแถลง ยืนยันเลขบัตรประชาชนของ “หลวงพ่ออลงกต” ไม่ซ้ำกับ “อลงกต พลมุข” ปัดตอบปมเลขบัตรประชาชนผู้เสียชีวิต ผูกพร้อมเพย์บัญชีมูลนิธิฯ ขอไปตรวจสอบก่อน ส่วนทางคดี จับตาสัปดาห์หน้า จะมีผู้ถูกดำเนินคดีมากกว่า 1 คน วันนี้ ที่วัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี นายศุภชัย สิงคาลวานิช หัวหน้าทีมทนายความของวัดพระบาทน้ำพุ พร้อมตัวแทนมูลนิธิต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับวัดพระบาทน้ำพุ ร่วมกันแถลงข่าวชี้แจงข้อเท็จจริงต่างๆ เป็นครั้งแรก โดยบอกว่าวันนี้ หลวงพ่ออลงกตไม่ได้หลีกเลี่ยงที่จะมาให้สัมภาษณ์ แต่ครั้งนี้มีข้อมูลมาก มีปัญหาเรื่องข้อกฎหมายและปัญหาที่ซับซ้อนหลายอย่าง หากตอบไปอาจกระทบต่อคดี และยืนยันว่า หลวงพ่อมีเจตนาบริสุทธิ์ในการช่วยเหลือผู้ป่วย เด็กกำพร้า ผู้สูงอายุ ผู้ด้อยโอกาส กลุ่มเปราะบางในสังคม ซึ่งขณะนี้สังคมเข้าใจผิดในหลายเรื่อง เพราะเกิดการชี้นำของหลายเพจ กลุ่มผู้มีอิทธิพลในบางสื่อ นำเรื่องมาปะติดปะต่อจนสร้างความเสียหาย ส่วนประเด็นที่กำลังเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ เรื่องที่หลวงพ่ออลงกต สวมชื่อและเลขบัตรประชาชน “อลงกล พลมุข” ข้าราชการที่เสียชีวิตไปแล้วนั้น ทีมทนาย เปิดเผยว่า หลวงพ่ออลงกต มีบัตรประชาชนของท่านเอง และนามสกุลของท่าน […]

สกัดจับขบวนการค้ามนุษย์ ลอบขนคนไทยไปเขมร

สระแก้ว 24 ส.ค. – ทหารพรานลาดตระเวนชายแดนไทย-กัมพูชา บ้านกุดหิน ต.คลองน้ำใส อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว สกัดจับคนไทย 10 คน ขณะลักลอบเข้ากัมพูชา เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นขณะเจ้าหน้าที่กำลังลาดตระเวนตามแนวชาย เพื่อสกัดกั้นสิ่งผิดกฎหมายที่จะแอบลักลอบขนข้ามแดน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตรวจพบรถยนต์ต้องสงสัย 2 คัน ประกอบด้วย รถยนต์ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์สีขาว (ไม่ทราบทะเบียน) และ รถยนต์เก๋ง สีดำ ทะเบียนกรุงเทพมหานคร ซึ่งทั้งขับผ่านเข้ามาในพื้นที่ล่อแหลม โดยรถยนต์ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์สีขาว ได้จอดให้คนเดินลงมาจากรถ และเดินเข้าป่าไป จำนวน 6 คน ประกอบด้วย คนนำพา 1 คน และผู้ลักลอบ 5 คน โดยทั้งหมดเป็นคนไทย ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวไว้ได้ ส่วนรถยนต์เก๋งสีดำที่ขับตามมา เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ จึงขับหลบหนี แต่เจ้าหน้าที่สามารถสกัดจับไว้ได้ (ห่างจากจุดแรกประมาณ 200 เมตร) จากการตรวจสอบภายในรถพบคนไทย 4 คน […]

พบหลุมจรวด BM-21 ที่ยังไม่ระเบิด ใกล้ศูนย์เด็กเล็ก

อุบลราชธานี 24 ส.ค. – พบหลุมจรวด BM-21 ที่ยังไม่ระเบิด ใน อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี อยู่ริมสระน้ำใกล้ศูนย์เด็กเล็ก เพียง 100 เมตร จากกรณีที่กัมพูชา ยิงจรวด BM–21 เข้าใส่ชุมชน บ้านเรือนประชาชน ในฝั่งไทย จนนำไปสู่การสูญเสียชีวิต และทรัพย์สิน ของประชาชนคนไทย เมื่อช่วงปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งปัจจุบันผลกระทบจากจรวด BM–21 ต่อประชาชน คนไทย ยังคงมีอยู่ ภาพจากกล้องวงจรปิดที่บันทึกไว้ได้จากบ้านหลังหนึ่ง ในอำเภอน้ำยืน จ.อุบลราชธานี เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ซึ่งขณะนั้นกัมพูชาได้ยิงจรวด BM-21 เข้ามาตกในเขตชุมชนฝั่งไทย โดยเหตุการณ์ครั้งนั้น มีจรวด BM-21 ตกมาทั้งหมด 11 ลูก 2 ใน 11 ลูก ตกใส่บ้านประชาชน จนบ้านพังเสียหายทั้งหมด 2 หลัง และมี 1 […]

“มาริษ” จ่อบินเจนีวา แจงประเทศกลุ่มสัญญาอนุภาคี

สวีเดน 24 ส.ค.-“มาริษ” เตรียมบินเจนีวาต่อ แจงประเทศกลุ่มสัญญาอนุภาคี-องค์การสิทธิมนุษยชน-กาชาด ย้ำไทยรักสันติ ทำตามกฎหมายระหว่างประเทศ ฟ้องเขมรใช้ทุ่นระเบิด-โจมตีพลเรือนไทย นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่าหลังการเยือนสวีเดนอย่างเป็นทางการแล้วจะเดินทางไปเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ในวันที่ 26 ส.ค.นี้ โดยมีเป้าหมายหลัก 3 ประการคือ ไปชี้แจงให้กับประเทศกลุ่มสัญญาอนุภาคีให้เข้าใจสถานการณ์ไทย-กัมพูชา ซึ่งกัมพูชาใช้ยุทธศาสตรฺของการใช้ วัตถุระเบิดสังหารบุคคน ที่ขัดต่อกฎหมายระหว่างประเทศ และอนุสัญญาออตตาวาและในโอกาสนี้จะพบกับสำนักงานข้าหลวงใหญ่สืทธิมนุษยชน ซึ่งเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการใช้ทุ่นระเบิดสังหาร การละเมิดสิทธิมนุษยชนด้วยการโจมตีเป้าหมายพลเรือน ของกัมพูชา รวมทั้งการใช้โซเชียลมีเดีย ซึ่งเมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา คณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ (icrc )ก็ได้ออกมาพูดชัดเจนว่าไม่เห็นด้วยอย่างมาก และไม่สนับสนุนให้มีการใช้สงครามข่าวสารในการต่อสู้ โดยใช้พลเรือนเป็นตัวกระทำให้เกิดความเข้าใจผิดระหว่างกัน ซึ่งในโอกาสนี้ตนจะได้พบปะกับประธาน crc พอดี ซึ่งเคยพบกันที่กรุงเทพมหานครแล้ว และทางประธานทราบว่าตนจะมาเจนีวาก็สามารถมาพูดคุยกันต่อได้ ซึ่งจะได้อธิบายทั้ง 2 ประการเหล่านี้เพราะ icrc เป็นองค์กรหลักที่ดูกฎหมายระหว่างประเทศ ซึ่งทั้งสามองค์กรที่เราวางกลยุทธ์ จะเข้ามาพูดคุย ชี้แจงก็เพื่อยืนยัน ใน ท่าทีบทบาท ของประเทศไทยที่ชัดเจนว่าเราเป็นประเทศ ที่รักสันติ เราต้องการ แก้ไขปัญหาระหว่างกันอย่างสันติวิธี แต่ต้องมีความจริงใจ […]