fbpx

ตำรวจรวบรวมหลักฐานเหยื่อธุรกิจข้าวกล่องลวงโลก

อุตรดิตถ์ 7 พ.ย.-ตำรวจลงพื้นที่บ้านของนางธนิสร กุยแก้ว หมู่ 8 ต.วังกะพี้ อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ เพื่อสอบสวนเจ้าทุกข์และพยาน เก็บรวบรวมเอกสารหลักฐานภาพถ่าย หลังจากนางธนิสร กุยแก้ว พร้อมผู้เสียหายอีก 2 ราย แจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ ที่สภ.พญาแมน อ.พิชัย ว่าถูกหลอกให้ทำสัญญาสัมปทานกับบริษัทแห่งหนึ่ง เพื่อส่งข้าวกล่อง ไข่ต้ม และน้ำดื่มให้กับโรงงานใหญ่แห่งหนึ่งในจังหวัดพิษณุโลก ระยะเวลาสัญญาจ้าง 5 ปี วันจันทร์ – ศุกร์ ส่งข้าวกล่อง วันละ 10,000 กล่อง /ไข่ต้ม วันละ 30,000 ฟอง, วันเสาร์ – อาทิตย์ ส่งน้ำดื่มวันละ 10,000 ขวด เริ่มตั้งแต่วันที่ 3 พฤศจิกายน 2561 จึงได้ทำสัญญาโดยเสียเงินค่าทำสัมปทานรวมทั้งค่าขวดบรรจุน้ำดื่ม รวม 106,000 บาท และยังได้ลงทุนซื้ออุปกรณ์ วัตถุดิบอีก 764,000 บาท 


  

ปรากฏว่าวันแรกส่งน้ำดื่มตามที่กำหนด ผู้ว่าจ้างนำกลับมาคืนอ้างว่าไม่ผ่านมาตรฐาน ต้องทำน้ำดื่มให้ใหม่ เพื่อเป็นการหักลบกับค่าปรับ ส่วนข้าวกล่องเริ่มทำวันที่ 5 พฤศจิกายน 10,000 กล่อง ซึ่งเสร็จตามเวลา กลับถูกบ่ายเบี่ยงและยื้อเวลา และผู้ว่าจ้างไม่นำข้าวกล่องที่ทำไว้ไปส่งโรงงาน  ปล่อยทิ้งกองอยู่ที่บ้านจนบูดเน่า จึงตัดสินใจไปแจ้งความเพื่อเรียกร้องค่าเสียหาย 299,000 บาท เพื่อนำไปจ่ายค่าแรงคนงานกว่า 30 คน ที่โหมทำข้าวกล่องทั้งวันทั้งคืน


  

หลังจากตำรวจตรวจสอบแล้วเผยว่า จะเรียกคู่กรณีหรือผู้ว่าจ้างซึ่งอยู่ที่ ต.พญาเมน อ.พิชัย สอบปากคำอีกครั้ง ทั้งนี้ต้องให้ความยุติธรรมทั้ง 2 ฝ่าย ก่อนจะสรุปสำนวนด้วยคดี อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ข้าวกล่องเริ่มบูดเน่า หากใครพอมีช่องทางเอาไปทำประโยชน์ได้ อยากให้มาติดต่อมา


นอกจากนี้ยังมีชาวพิษณุโลก คือคุณมด น.ส.อำภาพร ดอนคำไพ อายุ 31 ปี เป็นเหยื่ออีกรายหนึ่งที่เคยหลงกลไปร่วมธุรกิจทำข้าวกล่องส่งโรงงานที่จ.อุตรดิตถ์ เมื่อกลางปี 2560 แม้จะไหวตัวถอนตัวออกมาได้ทัน แต่ก็สูญเงินไป 100,000 บาท 

             

น.ส.อำภาพรเผยว่า ได้รู้จักกับคุณอิ๋ว เป็นผู้หญิงที่แต่งตัวดีทำตัวมีฐานะ ทำธุรกิจหลายอย่าง กระทั่งได้ไปบ้านคุณอิ๋ว และเห็นคนทำกับข้าวกัน คุณอิ๋วบอกว่าทำกับข้าวส่งโรงงานในอุตรดิตถ์ วันละ 10,000 กล่อง ได้สัมปทานมา ช่วงนั้นจึงถูกชักชวนว่าให้มาร่วมทำธุรกิจข้าวกล่องส่งโรงงานกัน ผลตอบแทนดีมาก กระทั่งกลางปี 2560 จึงตัดสินใจร่วมธุรกิจ โดยต้องไปทำข้าวกล่องที่จังหวัดอุตรดิตถ์ เริ่มจากต้องทำค่าเปลี่ยนสัญญาจำนวนเงิน 20,000 บาท และค่าซื้ออุปกรณ์ทำกับข้าว ที่ต้องซื้อกับคุณอิ๋ว จึงโอนเงินให้ไปจำนวน 100,000 บาท ซึ่งทุกอย่างต้องซื้อจากคุณอิ๋ว ได้หม้อ 20 ใบ เตา 10 เตา ( หลังจากเลิกสัญญา ได้หม้อหุงต้มกับมา 5 ใบ กับเตาแก๊ส 2 ใบ ) วันที่ 26 มิถุนายน 2560 จากนั้นผ่านไปประมาณเดือนครึ่งช่วงเดือนสิงหาคม 2560 จึงได้เริ่มต้นทำข้าวกล่องอย่างจริงจัง โดยไปเช่าบ้านอยู่ที่พญาแมน จังหวัดอุตรดิตถ์ เพื่อทำธุรกิจ เริ่มจากวันละ 100-200 กล่อง ช่วงแรกมีทั้งมีคนมารับถึงบ้าน บางวันก็ให้ไปส่งที่บ้านผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านแต่เมื่อไปได้4 วัน ชักเริ่มเอะใจ เมื่อชาวบ้านบอกว่าข้าวกล่องที่ตนเองทำไปนั้น ไม่ได้นำไปส่งโรงงานใดๆ เลย แต่กลับเป็นว่าผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านนำไปแจกให้กับชาวบ้านในพื้นที่ วันไหนข้าวกล่องเหลือ ก็จะนำไปทิ้งแม่น้ำแถวนั้น จึงรู้ตัวว่าไม่ได้ทำข้าวกล่องส่งโรงงานจริง จึงถอยออกมา และบอกกับคุณอิ๋วว่าไม่ทำธุรกิจแล้ว

              

น.ส.อำภาพร เผยต่อว่าตนเองโดนน้อยที่สุดแล้ว ช่วงนั้นเห็นคนทำกับข้าวกันหลายราย ลงทุนซื้อสัมปทานกันเป็นคนละล้านบาทก็มี ส่วนใหญ่เป็นคนที่มาจากภาคใต้ เสียหายกันเยอะมาก พอเห็นในข่าวก็รู้ว่าเป็นคนเดียวกันกับที่เคยหลอกตนเอง จึงออกมาพูดเพื่อไม่ให้ใครโดนหลอกอีก

 พล.ต.ต.พยูห์ ธนะศรีสืบวงศ์ ผบก.ตำรวจภูธรจังหวัดอุตรดิตถ์ขณะนี้ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนชุดใหญ่ของจังหวัด 2 ชุด มาดำเนินการด้านคดีถูกต้องชัดเจนรวดเร็ว ชุดที่ 1 ไปสอบปากคำผู้จัดการที่บริษัทไทยแอโรว์ จำกัด จ.พิษณุโลก ที่ถูกอ้างรับซื้อข้าวกล่องทราบว่าโรงงานมีพนักงานแค่ 4,000 คน และในโรงงาน มีโรงอาหาร ซึ่งมีร้านอาหาร 16 ร้านค้า มีบริการข้าวฟรี น้ำฟรี และมีการจำหน่ายกับข้าว 1 อย่าง 10 กว่าบาท 2 อย่าง 20 กว่าบาท ซึ่งไม่มีการสั่งทำข้าวกล่องให้พนักงานแต่อย่างใด และชุดที่ 2 ระดมพนักงานสอบสวนสอบปากคำผู้เสียหายและผู้เกี่ยวข้อง ผู้เห็นเหตุการณ์ในการทำสัญญาให้ครบทุกปาก เพื่อรวมรวบพยานหลักฐาน และจะเร่งดำเนินคดีกับกลุ่มขบวนการที่มาหลอกลวงให้เร็วที่สุด .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มหาวิทยาลัยแจงเหตุ นศ.สาวปี 3 แทงแฟน นศ.ปี 1 สาหัส

มหาวิทยาลัยออกแถลงการณ์ชี้แจงกรณีนักศึกษาหญิงทำร้ายนักศึกษาชาย ในหอพักจนบาดเจ็บสาหัส ด้านตำรวจยืนยันนักศึกษาหญิงที่ก่อเหตุมอบตัวแล้ว ยอมรับเป็นแฟนและทะเลาะกัน

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ผู้ว่าการ ธปท.เตือน ครม. หวั่นดิจิทัลวอลเล็ตก่อหนี้จำนวนมาก

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- ผู้ว่าการ ธปท. ทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวั่นก่อหนี้จำนวนมาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ  ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคตดังนี้ 1.ความจำเป็น โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing) เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง  […]

ข่าวแนะนำ

คุมเพลิงไหม้ “วิน โพรเสส” ได้แล้ว 95%

เหตุไฟไหม้โรงงานเก็บขยะเคมีอันตราย วินโพรเสส อ.บ้านค่าย จ.ระยอง วันนี้ เจ้าหน้าที่ควบคุมเพลิงได้แล้ว 95% เหลือเพียงจุดความร้อนที่อยู่ใต้ซากกองเพลิง ซึ่งยังต้องใช้สาร F500 ฉีดลดความร้อน แต่ยังมีกลิ่นฉุนแอมโมเนีย ด้านกรมโรงงานอุตสาหกรรมเช็กกล้องวงจรปิดตรวจสอบว่าเป็นการวางเพลิงเพื่อทำลายหลักฐานเช่นเดียวกับเหตุที่เกิดขึ้นใน อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา หรือไม่

นายกฯ แจงเรียก “สุชาติ-รัฐมนตรี” เข้าพบ แค่ตามงาน

นายกฯ อารมณ์ดี เดินลงตึกไทยฯ พบสื่อ แจงเรียก “สุชาติ-รมต.” มีชื่อหลุด ครม.เข้าพบแค่ตามงาน ย้ำปรับ ครม.เสร็จเมื่อไหร่เดี๋ยวก็รู้ ยันกินข่าวเที่ยงวานนี้ไม่มี ”ทักษิณ“

รวบ 2 ใน 4 อุ้มฆ่าหนุ่มไทใหญ่ทิ้งป่า อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่

รวบแล้ว 2 ใน 4 ผู้ต้องหาอุ้มฆ่า “จ๋อมวัน” หนุ่มไทใหญ่ ก่อนนำศพไปทิ้งในป่าที่ จ.เชียงใหม่ ปมสังหารอ้างไม่พอใจถูกแซวเรื่องหญิงคนสนิท

ดวงอาทิตย์ตั้งฉาก กทม.ครั้งแรกของปี

วันนี้เป็นครั้งแรกของปีที่ดวงอาทิตย์จะโคจรมาอยู่ในตำแหน่งตั้งฉากกับพื้นที่ กทม. ส่งผลให้ดวงอาทิตย์เคลื่อนผ่านใกล้จุดเหนือศีรษะ หรือตั้งฉากกับพื้นที่บริเวณต่างๆ ของไทย 2 ครั้งต่อปี คือช่วงเดือน เม.ย.-พ.ค. และเดือน ก.ค.-ก.ย.