ตั้งเป้าดันข้าวไทยเจาะตลาดอิตาลี เน้นคุณค่ากินแล้วดีต่อร่างกาย

นนทบุรี 31 ธ.ค.-กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) ตั้งเป้าดันข้าวไทยเจาะตลาดอิตาลี หลังพบมีโอกาสสูง ทั้งข้าวหอมมะลิ ข้าวกล้อง ข้าวอินทรีย์ และผลิตภัณฑ์จากข้าวที่ใช้นวัตกรรม แนะต้องติดฉลากเป็นภาษาอิตาเลียน แสดงคุณค่าทางโภชนาการของข้าว และคุณประโยชน์ต่อร่างกาย

นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในปี 64 กรมฯ เร่งสำรวจโอกาสในการทำตลาดส่งออกให้กับสินค้าต่าง ๆ ของไทย ดังนั้น ในปี 65 นี้ กรมฯ ได้รับรายงานจากผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ หรือทูตพาณิชย์ ณ กรุงมิลาน อิตาลี ถึงโอกาสในการขยายตลาดการส่งออกข้าวไทยเข้าสู่ตลาดอิตาลี หลังจากที่ได้ทำการสำรวจตลาด พบว่า ปัจจุบันรัฐบาลอิตาลีได้ผ่านคลายมาตรการและควบคุมสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศได้แล้ว และเศรษฐกิจการค้ากำลังกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ทำให้มีความต้องการบริโภคข้าวเพิ่มขึ้น และไทยยังได้ลดค่าธรรมเนียมพิเศษในการส่งออกข้าวไปยังสหภาพยุโรป จึงเป็นประโยชน์ในการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันข้าวไทยในตลาดอิตาลีและยุโรปมากขึ้น


ทั้งนี้ ปัจจุบันอิตาลีเป็นตลาดส่งออกข้าวที่สำคัญของไทยในยุโรป โดยในปี 2558–2563 ไทยส่งออกสินค้าข้าวไปยังตลาดอิตาลีได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยข้าวที่ส่งออกมากที่สุด คือ ข้าวหอมมะลิ 100% รองลงมา ได้แก่ ข้าวขาว 100% และข้าวกล้องหอมมะลิ แต่จากสถานการณ์โควิด-19 การขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ และการปรับราคาค่าขนส่งที่เพิ่มสูงขึ้นในช่วงปลายปี 2563 รวมถึงการแข็งค่าของเงินบาท ได้ส่งผลกระทบต่อการส่งออกสินค้าข้าวไทยไปยังอิตาลี โดยในช่วง 11 เดือนของปี 2564 (ม.ค.-พ.ย) ไทยส่งออกข้าวไปอิตาลีมีมูลค่า 19.23 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยโอกาสของข้าวไทย ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มผู้บริโภคชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในอิตาลี ซึ่งปี 2563 มีสูงถึง 1,067,281 คน เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.65 ซึ่งข้าวที่มีโอกาส ได้แก่ ข้าวหอมมะลิไทย ซึ่งปัจจุบันมีวางจำหน่ายอยู่แล้ว และควรผลักดันการส่งออกข้าวชนิดอื่น ๆ เพิ่มขึ้น เช่น ข้าวหอม ข้าวกล้อง ข้าวอินทรีย์ และข้าวหัก เป็นต้น เพื่อเป็นการเพิ่มมูลค่าและปริมาณการส่งออกข้าวไทยมายังตลาดอิตาลี และยังมีโอกาสเจาะกลุ่มผู้บริโภคชาวอิตาลีที่แพ้สารกลูเตนในแป้งสาลี และหันมาบริโภคผลิตภัณฑ์จากข้าวเพิ่มขึ้น เช่น แป้งข้าวเจ้า พาสต้าจากแป้ง และขนมปัง จึงเป็นโอกาสสำหรับผลิตภัณฑ์จากข้าวที่ใช้นวัตกรรมที่ทันสมัยด้วย

ทั้งนี้ เห็นว่าผู้ประกอบการที่สนใจขยายการส่งออกข้าวไทยมายังตลาดอิตาลี นอกจากคุณภาพและมาตรฐานของสินค้า ผู้ประกอบการไทยควรคำนึงและให้ความสำคัญในด้านระเบียบการนำเข้าของสหภาพยุโรป รวมถึงการติดฉลากสินค้าต้องเป็นภาษาท้องถิ่นอิตาเลียน โดยต้องแสดงคุณค่าทางโภชนาการของข้าวอย่างครบถ้วนและคุณประโยชน์ต่อร่างกาย รวมถึงสารที่ก่อให้เกิดอาการแพ้
และเพื่อเพิ่มโอกาสในการส่งออกข้าวไทย กรมฯ ได้มอบหมายให้ทูตพาณิชย์ที่มิลาน จัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์สินค้าข้าวและผลิตภัณฑ์จากข้าวไทยในอิตาลีอย่างต่อเนื่อง เพื่อส่งเสริมและสร้างการรับรู้ข้าวไทยให้แก่ผู้บริโภคอิตาลี รวมถึงเพื่อให้ผู้บริโภคอิตาลีเลือกรับประทานข้าวไทยมากขึ้น และดำเนินการจัดกิจกรรมเจรจาการค้าออนไลน์ (Online Business Matching) สินค้าข้าว เพื่อเร่งดำเนินการขับเคลื่อนนโยบายตามวิสัยทัศน์ “การตลาดนำการผลิต” และเป็นการสนับสนุนผู้ประกอบการไทยในการขยายช่องทางการตลาดมายังอิตาลีผ่านช่องทางออนไลน์


นางสาวอนงค์นารถ มหาสวัสดิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงมิลาน อิตาลี กล่าวว่า ปัจจุบันอิตาลีเป็นผู้ผลิตข้าวอันดับหนึ่งของยุโรป และอันดับ 27 ของโลก มีสัดส่วนการผลิตกว่าร้อยละ 52 ของปริมาณการผลิตทั้งหมดในยุโรป มีผลผลิตเฉลี่ยมากกว่า 1 ล้านตันต่อปี เป็นการผลิตเพื่อตลาดในประเทศร้อยละ 40 และร้อยละ 60 เพื่อส่งออก และมีการนำเข้าข้าวจากต่างประเทศด้วย

ทั้งนี้ ส่วนใหญ่เป็นข้าวพันธุ์บาสมาติ และข้าวที่ผ่านการขัดสีบางส่วน โดยข้าวที่นิยมบริโภคมี 4 ชนิด ได้แก่ ข้าวชนิดเมล็ดกลม มีการบริโภค 59,297 ตัน คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 13.42 ของการบริโภคข้าวทั้งหมดภายในประเทศ นิยมนำมาไปใช้สำหรับทำของหวาน ซูชิ และซุปมิเนสโตรเน่ ข้าวชนิดเมล็ดกลาง นิยมทำเมนูข้าวปั้นทอด ซุปมิเนสโตรเน่ และข้าวอบชีส ข้าวชนิดเมล็ดยาว A นิยมทำเมนูข้าวรีซอตโต้ สลัดข้าว ข้าวอบชีส ข้าวยัดไส้ผัก และข้าวปั้นทอด โดยข้าวชนิดเมล็ดกลางและข้าวชนิดยาว A มีการบริโภคมากที่สุดในอิตาลีถึง 256,980 ตัน คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 58.16 และข้าวชนิดเมล็ดยาว B มีการบริโภค 125,573 ตัน คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 28.42 ซึ่งในนี้ รวมข้าวที่นำเข้า เช่น ข้าวหอมมะลิ ข้าวบาสมาติ ข้าว Venere และข้าวกล้องหอมมะลิ เป็นต้น โดยนิยมใช้ทำเมนูสลัดข้าวและเครื่องเคียงอีกด้วย.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ

กทม. 23 ส.ค.- กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ เฝ้าระวัง “พายุดีเปรสชัน” มีแนวโน้มทวีกำลังแรงเป็นพายุโซนร้อน กระทบไทย 24-27 ส.ค.นี้ กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดตาก จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนตกสะสมที่อาจเกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศลาวตอนบน และเวียดนามตอนบน สำหรับบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบนมีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน และจะขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามและประเทศลาวตอนบน ในช่วงวันที่ 25–26 ส.ค. 68 ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้น กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ กับมีลมแรงบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 24–27 ส.ค. 68 -สำนักข่าวไทย

โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊ก ขรก.มหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน

ทำเนียบ 23 ส.ค.- โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊กข้าราชการมหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน ด้าน “เชษฐา” เป็นอธิบดี ปภ. ราชกิจจานุเบกษา ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงมหาดไทย พ้นจากตำแหน่ง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 6 ราย ดังนี้ ตั้งแต่วันที่ 21 ส.ค.2568 เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 22 ส.ค.2568 ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี -สำนักข่าวไทย

จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมืองโกงเงินอุดหนุน ก่อนหนีกบดานลาว

22 ส.ค. – ตำรวจภูธรภาค 1 จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมือง โกงเงินอุดหนุน 17.6 ล้านบาท หนีกบดานลาว ก่อนจนมุมถูกจับกุมได้ พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (ผบช.ภ.1), พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์ รอง ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผบก.สส.ภ.1, พล.ต.ต.ธรรมนูญ เชาวะวนิชย์ ผบก.ภ.จว.สระบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระพุทธบาท, ตม.จว.หนองคาย, กกต.จว.หนองคาย ร่วมกันจับกุม นายพีระวิทย์ อายุ 47 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ สืบเนื่องจากเมื่อปี 2562 นายพีระวิทย์ เป็นหัวหน้าพรรคการเมือง รับเงินอุดหนุนพรรคการเมือง เพื่อพัฒนาพรรคการเมือง จำนวนประมาณ 17.6 ล้านบาท โดยไม่มีการทำหลักฐานการเบิกจ่าย ทำให้ กกต. เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายพีระวิทย์ และเหรัญญิกพรรค ต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน สภ.พระพุทธบาท โดยเลื่อนการเข้าให้ปากคำและแสดงหลักฐานการเบิกจ่ายเงิน และต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองได้หลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงออกหมายจับในข้อหา […]

“ธีรรัตน์” สั่งผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บาย 24 ชม. รับพายุคาจิกิ

กทม. 22 ส.ค.- “ธีรรัตน์” สั่งการผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บายรับมือผลกระทบ “พายุคาจิกิ” ตลอด 24 ชั่วโมง ย้ำ ประชาสัมพันธ์ข้อมูลให้ประชาชนรับรู้และเตรียมพร้อมอย่างต่อเนื่อง นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า กระทรวงมหาดไทยโดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ติดตามสภาวะอากาศร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับผลกระทบพายุโซนร้อน “คาจิกิ” ซึ่งพบว่าพื้นที่บางส่วนมีความเสี่ยงต้องเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขังในเขตชุมชนเมืองที่เกิดน้ำท่วมขังซ้ำซาก ระหว่างวันที่ 24 – 28 สิงหาคม 2568 ในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ 45 จังหวัด และกรุงเทพมหานคร นางสาวธีรรัตน์ ได้สั่งการผู้ว่าราชการจังหวัด 45 จังหวัด และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต รวมถึงกรุงเทพมหานคร กำชับให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด พร้อมกำชับให้จัดทีมปฏิบัติการพร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัยเข้าประจำพื้นที่เสี่ยง เพื่อเข้าเผชิญเหตุและให้การช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงทีตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมประกาศแจ้งเตือนและปิดกั้นพื้นที่ไม่ให้บุคคลใดเข้าพื้นที่หากพบว่ามีความเสี่ยง ในส่วนพื้นที่ชายฝั่ง ให้สั่งห้ามนักท่องเที่ยวเล่นน้ำและห้ามเดินเรือทุกชนิดหากสถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรง “ให้ผู้ว่าฯ […]

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือนเหนือ-อีสานตอนบน ตะวันออกฝ-ใต้ฝั่งตะวันตก ฝนตกหนัก

กรุงเทพฯ 25 ส.ค. – กรมอุตุฯ เตือนภาคเหนือตอนบน ภาคอีสานตอนบน ภาคตะวันออก ภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณ จ.น่าน หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม ตราด ระนอง พังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและลมแรง ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 70% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง และมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคเหนือตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดน่าน หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ลมแรง และฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบน มีกำลังค่อนข้างแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง […]

ทีมทนายวัดพระบาทน้ำพุแจงปม “หลวงพ่ออลงกต” สวมบัตร ปชช. คนตาย

ลพบุรี 24 ส.ค. – วัดพระบาทน้ำพุ ตั้งโต๊ะแถลง ยืนยันเลขบัตรประชาชนของ “หลวงพ่ออลงกต” ไม่ซ้ำกับ “อลงกต พลมุข” ปัดตอบปมเลขบัตรประชาชนผู้เสียชีวิต ผูกพร้อมเพย์บัญชีมูลนิธิฯ ขอไปตรวจสอบก่อน ส่วนทางคดี จับตาสัปดาห์หน้า จะมีผู้ถูกดำเนินคดีมากกว่า 1 คน วันนี้ ที่วัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี นายศุภชัย สิงคาลวานิช หัวหน้าทีมทนายความของวัดพระบาทน้ำพุ พร้อมตัวแทนมูลนิธิต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับวัดพระบาทน้ำพุ ร่วมกันแถลงข่าวชี้แจงข้อเท็จจริงต่างๆ เป็นครั้งแรก โดยบอกว่าวันนี้ หลวงพ่ออลงกตไม่ได้หลีกเลี่ยงที่จะมาให้สัมภาษณ์ แต่ครั้งนี้มีข้อมูลมาก มีปัญหาเรื่องข้อกฎหมายและปัญหาที่ซับซ้อนหลายอย่าง หากตอบไปอาจกระทบต่อคดี และยืนยันว่า หลวงพ่อมีเจตนาบริสุทธิ์ในการช่วยเหลือผู้ป่วย เด็กกำพร้า ผู้สูงอายุ ผู้ด้อยโอกาส กลุ่มเปราะบางในสังคม ซึ่งขณะนี้สังคมเข้าใจผิดในหลายเรื่อง เพราะเกิดการชี้นำของหลายเพจ กลุ่มผู้มีอิทธิพลในบางสื่อ นำเรื่องมาปะติดปะต่อจนสร้างความเสียหาย ส่วนประเด็นที่กำลังเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ เรื่องที่หลวงพ่ออลงกต สวมชื่อและเลขบัตรประชาชน “อลงกล พลมุข” ข้าราชการที่เสียชีวิตไปแล้วนั้น ทีมทนาย เปิดเผยว่า หลวงพ่ออลงกต มีบัตรประชาชนของท่านเอง และนามสกุลของท่าน […]

สกัดจับขบวนการค้ามนุษย์ ลอบขนคนไทยไปเขมร

สระแก้ว 24 ส.ค. – ทหารพรานลาดตระเวนชายแดนไทย-กัมพูชา บ้านกุดหิน ต.คลองน้ำใส อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว สกัดจับคนไทย 10 คน ขณะลักลอบเข้ากัมพูชา เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นขณะเจ้าหน้าที่กำลังลาดตระเวนตามแนวชาย เพื่อสกัดกั้นสิ่งผิดกฎหมายที่จะแอบลักลอบขนข้ามแดน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตรวจพบรถยนต์ต้องสงสัย 2 คัน ประกอบด้วย รถยนต์ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์สีขาว (ไม่ทราบทะเบียน) และ รถยนต์เก๋ง สีดำ ทะเบียนกรุงเทพมหานคร ซึ่งทั้งขับผ่านเข้ามาในพื้นที่ล่อแหลม โดยรถยนต์ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์สีขาว ได้จอดให้คนเดินลงมาจากรถ และเดินเข้าป่าไป จำนวน 6 คน ประกอบด้วย คนนำพา 1 คน และผู้ลักลอบ 5 คน โดยทั้งหมดเป็นคนไทย ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวไว้ได้ ส่วนรถยนต์เก๋งสีดำที่ขับตามมา เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ จึงขับหลบหนี แต่เจ้าหน้าที่สามารถสกัดจับไว้ได้ (ห่างจากจุดแรกประมาณ 200 เมตร) จากการตรวจสอบภายในรถพบคนไทย 4 คน […]

พบหลุมจรวด BM-21 ที่ยังไม่ระเบิด ใกล้ศูนย์เด็กเล็ก

อุบลราชธานี 24 ส.ค. – พบหลุมจรวด BM-21 ที่ยังไม่ระเบิด ใน อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี อยู่ริมสระน้ำใกล้ศูนย์เด็กเล็ก เพียง 100 เมตร จากกรณีที่กัมพูชา ยิงจรวด BM–21 เข้าใส่ชุมชน บ้านเรือนประชาชน ในฝั่งไทย จนนำไปสู่การสูญเสียชีวิต และทรัพย์สิน ของประชาชนคนไทย เมื่อช่วงปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งปัจจุบันผลกระทบจากจรวด BM–21 ต่อประชาชน คนไทย ยังคงมีอยู่ ภาพจากกล้องวงจรปิดที่บันทึกไว้ได้จากบ้านหลังหนึ่ง ในอำเภอน้ำยืน จ.อุบลราชธานี เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ซึ่งขณะนั้นกัมพูชาได้ยิงจรวด BM-21 เข้ามาตกในเขตชุมชนฝั่งไทย โดยเหตุการณ์ครั้งนั้น มีจรวด BM-21 ตกมาทั้งหมด 11 ลูก 2 ใน 11 ลูก ตกใส่บ้านประชาชน จนบ้านพังเสียหายทั้งหมด 2 หลัง และมี 1 […]