ญาติหนุ่มโรงงานร้อง”บิ๊กบัว”ไม่เชื่อน้องชายเสียชีวิตจากตกต้นไม้!

กรุงเทพฯ 7 พ.ย.- ญาติหนุ่มโรงงาน ตายเปลือย ร้องตำรวจ ไม่เชื่อน้องชาย ตายจากอุบัติเหตุ ด้าน รรท.ผบช.น มั่นใจมีหลักฐานชี้แจงได้ 


 นางสาวฮาบิบ๊ะ เด็นมานิ และ นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคมยื่นหนังสือร้องเรียนถึง พลตำรวจโทสุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น รักษาราขการแทน ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กรณี นายฮารน เด็นมานิ อายุ 26 ปี น้องชายเสียชีวิตปริศนา ในลักษณะเปลือยกาย มีบาดแผล หลายแห่ง ขณะทำงานอยู่ในโรงงาน ซึ่งเป็นห้องเย็นย่าน หนองจอก เนื่องจากคดีไม่มีความชัดเจน เพราะพนักงานสอบสวน สน.หนองจอก ให้ข้อมูลทางคดีไม่ครบถ้วน จึงทำให้เกิดความแคลงใจถึงสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงว่าเกิดจากสาเหตุใด 

นางสาวฮาบิบ๊ะ เปิดเผยว่า เหตุเกิดเมื่อวันที่ 23 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยสภาพศพจองนายฮารน อยู่ในสภาพเปลือยกาย ซึ่งแพทย์ชัณสูตรพบว่ามีบาดแผลถึง 19 แห่ง ขณะที่ตำรวจระบุว่าสาเหตุมาจากอุบัติเหตุตกต้นไม้  แต่ตามร่างกายกลับมีบาดแผลเกิดขึ้นหลายแห่ง เชื่อ อาจมาจากการถูกบุคคลอื่นทำร้ายร่างกาย  ซึ่งที่ผ่านมาได้สอบถามข้อมูลทางคดีกับพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี และเดินทางจากจังหวัดยะลาเพื่อมาติดตามความคืบหน้าของคดีถึง 3 ครั้ง แต่กลับไม่ได้รับข้อมูลที่ชัดเจน แม้แต่ครั้งเดียว ภาพจากกล้องวงจรปิดก็ไม่ให้ดู  โดยก่อนหน้านี้ได้พูดคุยกับน้องชายซึ่งน้องชายก็บอกว่าอยู่ที่นี่มีความสุขดีไม่เคยมีปัญหาบาดหมางกับใคร และเตรียมกลับไปทำงานที่ อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา ในเร็วๆ นี้ แต่ยอมรับ น้องชายเคยเกี่ยวข้องกับยาเสพติด 


ด้านนายรณณรงค์  เปิดเผยว่า การเกิดอุบัติเหตุตกต้นไม้ตามที่พนักงานสอบสวนกล่าวอ้าง ก็ไม่น่าจะมีบาดแผลมากถึง 19 แห่ง ที่เกิดขึ้นทั้งด้านหน้าและด้านหลังศพของนายฮารน และที่สำคัญคือภายในโรงงานที่เกิดเหตุไม่มีต้นไม้แม้แต่ต้นเดียว ยิ่งทำให้ญาติผู้เสียชีวิตเกิดความไม่เชื่อมั่นว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม

ขณะที่รักษาราชการแทน ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากพนักงานสอบสวน สน.หนองจอก ว่าสาเหตุการเสียชีวิตของนายฮารนมาจากอุบัติเหตุ  ไม่ใช่เป็นการฆาตกรรม โดยมีหลักฐานภาพกล้องวงจรปิดทั้งก่อนและหลังเกิดเหตุ มีผู้ตายอยู่เพียงลำพัง พร้อม สั่งการให้ พนักงานสอบสวน เตรียมหลักฐานทั้งหมดมาชี้แจงให้แก่ญาติผู้เสียชีวิต ให้มีความชัดเจน เพื่อไม่ให้เกิดความแคลงใจ  กับครอบครัว ผู้เสียชีวิต.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง