ตร.ชุมพร จับพ่อหื่นข่มขืนลูกมาราธอนตั้งแต่ ม.1 จนอายุ 20 อ้างไม่ได้บังคับ-ลูกสมยอม

ชุมพร 7 พ.ย.-ตำรวจชุมพรจับพ่อหื่นข่มขืนลูกสาวแท้ๆ มาราธอนตั้งแต่เรียน ม.1 จนอายุ 20 ปี ท้อง 2 รอบ ย่าพาทำแท้ง ด้านพ่อรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา แต่อ้างไม่ได้ใช้กำลังบังคับ ลูกสาวสมยอมเอง


เมื่อวานนี้ (6 พ.ย.) นางเอ (นามสมมติ) อายุ 43 ปี พาลูกสาวชื่อนางสาวบี (นามสมมติ) อายุ 20 ปี พร้อมญาติ เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ สภ.เมืองชุมพร ให้ดำเนินคดีกับนายพร (นามสมมติ) อายุ 43 ปี อดีตสามีและผู้เป็นพ่อแท้ๆ หลังข่มขืนกระทำชำเรานางสาวบี (นามสมมติ) ลูกสาวตนเอง มาเป็นเวลานานหลายปี

นางเอ ผู้เป็นแม่ ให้การว่า ตนกับนายพร เคยเป็นสามีภรรยากันมาก่อน มีลูกด้วยกัน 2 คน เป็นผู้หญิงทั้งคู่ ต่อมาได้เลิกรากัน โดยตนไปมีสามีใหม่อยู่ที่ อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ส่วนนายพร อยู่ที่ จ.ชุมพร ตอนนั้นลูกสาวทั้ง 2 คน ตกลงอยู่กับนายพร ขณะนั้นนางสาวบี ลูกสาวคนโต เรียนอยู่ชั้น ม.1


ต่อมาเมื่อปี 2558 ตนถูกจับกุมดำเนินคดีอาญา ถูกจำคุก 3 ปี และเพิ่งพ้นโทษมาได้ 2 เดือน พอพ้นโทษออกกลับพบว่านางสาวบี หอบเสื้อผ้าหนีจากบ้านนายพรไปหาตนที่บางสะพาน เพราะทนพฤติกรรมของพ่อไม่ไหว เนื่องจากถูกข่มขืนตั้งยังเรียนอยู่ชั้น ม.1 จนถึงปัจจุบันอายุ 20 ปี

จากนั้นนางเอได้นำหลักฐานมอบให้กับตำรวจ เป็นเสียงที่บันทึกจากโทรศัพท์มือถือที่นายพรยอมรับว่ามีเพศสัมพันธ์กับลูกสาวจริง แต่ลูกสาวยินยอม ไม่ได้บังคับข่มขืน และตกลงกันว่าจะร่วมหลับนอนกันเพียงเดือนละ 3-4 ครั้ง พร้อมข้อความทางเฟซบุ๊กที่ข่มขู่ลูกสาวตนเอง หลังรู้ว่าหลบหนีมาอยู่กับแม่ที่ อ.บางสะพาน

ด้านนางสาวบี กล่าวว่า ถูกพ่อข่มขืนตั้งแต่ ม.1 หลังจากพ่อกับแม่แยกทางกัน ต่อมาได้ตั้งท้อง และไม่รู้จะไปปรึกษาใคร จึงหนีไปอยู่กับย่าและเล่าความจริงให้ย่าฟัง แต่ย่ามีอายุมากแล้ว จึงไม่รู้จะทำอย่างไร และพาตนไปทำแท้ง ต่อมาพ่อตามไปรังควานข่มขู่อีก จนต้องยอมกลับมาอยู่กับพ่อที่บ้าน ก่อนตั้งท้องเป็นครั้งที่ 2 และถูกพาไปทำแท้งอีก และพ่อก็ตามไปข่มขู่รับกลับมาอยู่ที่บ้านจนถึงปัจจุบัน


ภายหลังรับแจ้งความ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองชุมพร ได้รวบรวมหลักฐานขอศาลอนุมัติหมายจับนายพรทันที พร้อมสั่งชุดสืบสวนไปตามประกับตัว ป้องกันการหลบหนี กระทั่งเวลา 20.30 น. วานนี้ (6 พ.ย.) ชุดสืบสวนได้ควบคุมตัวนายพร อาชีพรับซื้อทุเรียนขายให้กับล้งส่งออกต่างประเทศ ชาว อ.เมืองชุมพร ได้สำเร็จ หลังตกเป็นผู้ต้องหา ฐานข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่น ซึ่งเป็นผู้สืบสันดาน โดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยผู้อื่นนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ หรือโดยทำให้ผู้อื่นนั้นเข้าใจผิดว่าตนเป็นบุคคลอื่น และข้อหากระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ซึ่งเป็นผู้สืบสันดาน ซึ่งมิใช่ภรรยาหรือสามีตน โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม ก่อนนำตัวมาสอบปากคำที่ สภ.เมืองชุมพร ซึ่งในการจับกุมผู้ต้องหายินยอมให้จับกุมแต่โดยดี

นายพรรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา แต่อ้างว่าไม่ได้ใช้กำลังบังคับ ลูกสาวสมยอมเอง พร้อมระบุเคยพาลูกไปทำแท้งครั้งเดียวที่คลินิกแห่งหนึ่งในตัวเมืองชุมพร ส่วนครั้งหลังตนไม่รู้ว่าใครพาไป เจ้าหน้าที่จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวนตามกฎหมาย และควบคุมตัวไว้ที่ห้องขัง ก่อนจะนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพในชั้นต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ดับแล้ว 8 ราย รถชนบนมอเตอร์เวย์ อัดก๊อปปี้พังยับ

เกิดอุบัติเหตุใหญ่ช่วงกลางดึก บนมอเตอร์เวย์ สาย 7 มุ่งหน้าชลบุรี รถเทรลเลอร์ 2 คัน กับเอสยูวีอีก 1 คัน คนในรถเอสยูวี เสียชีวิต 8 ราย

ผู้เสียหายแจ้งความถูกร้านทองหลอกขายกรอบทองคำรูปสัตว์มงคล

ผู้เสียหายแจ้งความถูกร้านทองดังหลอกขายกรอบทองคำรูปสัตว์มงคล ราคารวม 1 ล้านบาท ผ่านมา 8 ปี เอะใจนำทองไปเผา สุดท้ายเป็นเพียงพลาสติก

ทวงหนี้โหด

มอบตัวแล้ว ผู้ต้องหาทวงหนี้โหดยิงดับต่อหน้าลูก

ยอมมอบตัวแล้ว ผู้ต้องหาทวงหนี้โหด บุกถึงห้องยิงดับต่อหน้าลูกชาย หนีจับแม่ค้าเป็นตัวประกัน ตำรวจพาแม่และญาติเกลี้ยกล่อมสำเร็จ ก่อนคุมตัวไปสอบสวนที่ สภ.เมืองนครปฐม

ข่าวแนะนำ

เสด็จเยือนภูฏาน

ในหลวง-พระราชินี ทรงพระดำเนินตรวจแถวกองทหารเกียรติยศ ในการเสด็จฯ เยือนภูฏานอย่างเป็นทางการ

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงพระดำเนินตรวจแถวกองทหารเกียรติยศ ในการเสด็จฯ เยือนภูฏานอย่างเป็นทางการ

ยกย่องมรดกไทย

ยูเนสโกยกย่อง 3 มรดกไทย เป็นมรดกความทรงจำแห่งโลกปี 2568

ยูเนสโกยกย่อง 3 มรดกไทย “สมุดไทยคำหลวง – พระเจ้าช้างเผือก – เอกสารอาเซียน” เป็นมรดกความทรงจำแห่งโลกปี 2568 ตอกย้ำบทบาทสำคัญของชาติไทยในประวัติศาสตร์โลก

อุตุฯ เตือนไทยตอนบน เฝ้าระวังพายุฤดูร้อน-ภาคใต้ฝนตกหนัก

กรมอุตุฯ เตือนไทยตอนบน เฝ้าระวังพายุฤดูร้อน ฝนถล่ม ลมกระโชกแรง ลูกเห็บตก ส่วนภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง

ตำรวจไล่ล่าพรานป่าสาละวิน ฆ่าชาวบ้านแล้ว 2 ราย

เจ้าหน้าที่ยังคงเร่งไล่ล่าตัวพรานป่าสาละวิน ที่แม่ฮ่องสอน ก่อเหตุฆ่าชาวบ้านไปแล้ว 2 ราย พร้อมเสริมกำลังรักษาความปลอดภัยให้ชาวบ้าน เพราะผู้ก่อเหตุยังมีอาวุธปืนและเหลือกระสุนอยู่เกือบสิบนัด หลังจากเมื่อสัปดาห์ที่แล้วครอบครัวของพรานป่ารายนี้แจ้งความกับตำรวจว่าหายตัวไปหลังเข้าไปหาของป่า จนกระทั่งพบว่าลงมือก่อเหตุฆ่าชาวบ้านไป 2 ศพ กลายเป็นบุคคลอันตราย และพบประวัติใช้สารเสพติด