กรุงเทพฯ 2 พ.ย. – กรมส่งเสริมสหกรณ์เตรียมพร้อมสหกรณ์ 274 แห่ง สนับสนุนและรวบรวมผลผลิตจากโครงการปลูกข้าวโพดหลังนาในพื้นที่เป้าหมาย 33 จังหวัด
นายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าวว่า ได้แบ่งสหกรณ์ทำหน้าที่รวบรวมผลผลิตตามศักยภาพของเครื่องมือและความรู้ ได้แก่ สหกรณ์รวบรวมผลผลิต ปรับปรุงคุณภาพ และจัดส่งให้ผู้ผลิตอาหารสัตว์ 20 สหกรณ์ สหกรณ์รวบรวมแล้วส่งให้ผู้ประกอบการนำไปปรับปรุงคุณภาพ เพื่อส่งโรงงานผลิตอาหารสัตว์ 132 สหกรณ์ สหกรณ์เป็นจุดรวบรวมโดยให้เอกชนเช่าพื้นที่เพื่อรับซื้อ 95 สหกรณ์ รวมเป็น 274 แห่ง ส่วนอีก 26 แห่งนั้น เอกชนตั้งจุดรับซื้อและรวบรวมผลผลิต
ทั้งนี้ ทางสมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทยจะร่วมให้คำแนะนำสหกรณ์ในการรับซื้อผลผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ตามมาตรฐานของสมาคมฯ ให้เป็นมาตรฐานกลางทั้ง 12 บริษัทที่เข้าร่วมโครงการ ซึ่งราคารับซื้อเป็นไปตามโครงการกำหนดสอดคล้องประกาศของกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งจุดรับซื้อจะมีอย่างน้อยอำเภอละ 1 แห่ง ยกเว้นอำเภอที่มีพื้นที่ปลูกน้อย เกษตรกรสามารถนำไปจำหน่ายอำเภอใกล้เคียง แต่หากอำเภอใดมีพื้นที่ปลูกมากจะร่วมกับสมาคมฯ พิจารณาเพิ่มจุดรวบรวม ซึ่งยืนยันว่าจะรับซื้อผลผลิตจนสิ้นสุดโครงการ
สำหรับสหกรณ์ปลูกข้าวโพด แบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มสหกรณ์การเกษตรลูกค้าธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จะรวบรวมรายชื่อสมาชิกส่ง ธ.ก.ส. เพื่อขอสินเชื่อสำหรับจัดหาปัจจัยการผลิต และกลุ่มสหกรณ์การเกษตรที่ดำเนินกิจการเองให้มาขอรับสินเชื่อจาก ธ.ก.ส. เพื่อนำไปให้สมาชิกกู้เพื่อจัดหาปัจจัยการผลิต โดยไม่บวกดอกเบื้ยเพิ่ม คงอยู่ที่ร้อยละ 0.01 ของวงเงินไร่ละ 2,000 บาท รายละไม่เกิน 15 ไร่
รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าวว่า ขณะนี้บริษัทผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่เข้าร่วมโครงการ 5 แห่ง ได้แก่ บริษัท แปซิฟิคเมล็ดพันธุ์ บริษัท ซินเจนทา ซีดส์ บริษัทเจริญโภคภัณฑ์โปรดิ๊วส บริษัท เมล็ดพันธุ์ เอเชีย และบริษัทไบเออร์ ซึ่งสมาคมผู้ผลิตเมล็ดพันธุ์ของคนไทยระบุว่ายังมีบริษัทที่สนใจเข้าร่วมโครงการอีก โดยแต่ละบริษัทจะเข้ามาดูแลตั้งแต่การจัดหาเมล็ดพันธุ์คุณภาพ ถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับการปลูก การดูแลแปลง จนกระทั่งเก็บเกี่ยวผลผลิต บางบริษัทจะทำแปลงสาธิตเพื่อให้เกษตรกรศึกษาและนำไปปฏิบัติได้ทันที เพื่อจะได้ที่มีคุณภาพและปริมาณต่อไร่เพิ่มขึ้น ทำให้เกษตรกรมีรายได้และมีคุณภาพชีวิตดีขึ้น.-สำนักข่าวไทย