“ศิริกัญญา” คาดไฟนอล “ภาษีทรัมป์” ไทยได้ไม่เกิน 20%

รัฐสภา 22 ก.ค.-“ศิริกัญญา” คาดไฟนอล “ภาษีทรัมป์” ไทยได้ไม่เกิน 20% หลังจับทิศทางประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เกาะกลุ่มกัน 19-20% แนะเร่งเตือนเกษตรกรปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ได้แล้ว ให้เปลี่ยนไปปลูกพืชอื่น หากเปิดเสรีให้สหรัฐเต็มที่ มองเรื่องสวมสิทธิ์สินค้าจีนซับซ้อน หากอเมริกาเข้มถึงขั้นใช้วัตถุดิบจีนไม่ได้ อาจะกระทบเศรษฐกิจภายในประเทศ

นางสาวศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวถึงภาษีสหรัฐที่รัฐบาลจะส่งข้อเสนอให้สหรัฐรอบสุดท้ายในวันนี้ ว่า เวลาเหลือน้อยลงมาเรื่อย ๆ แต่เรายังคงแก้ไขข้อเสนอกลับไปกลับมากับสหรัฐอยู่ เช้าวันนี้มีหลายประเทศที่บรรลุข้อตกลงแล้ว ไม่ว่าจะเป็นฟิลิปปินส์ ที่ได้เกรดเดียวกับอินโดนีเซียที่ 19% หรือจะเป็นญี่ปุ่นที่ได้ 15% วันนี้สำหรับเราต้องรอไฟนอล บีบหัวใจของคนไทยทุกคนว่าสุดท้ายจะโดนอัตราภาษีที่เท่าไหร่ และจำเป็นต้องเปิดตลาดให้สหรัฐมากขนาดไหน การเจรจาครั้งนี้ ไม่ได้มุ่งหวังเพื่อลดอัตราภาษีอย่างเดียว เพราะหากจำได้ ฟิลิปปินส์ ตั้งแต่เดือน เม.ย. ได้ 17% แต่พอต้นเดือน ก.ค. ขึ้นเป็น 20% พอปิดดีลจบที่ 19% ซึ่งเพิ่มขึ้นจากที่ประกาศในครั้งแรก ดังนั้น เมื่อดูจากอัตราภาษีหลายประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ได้รับ 19-20% ก็พอจะคาดเดาได้ว่าประเทศไทยน่าจะใกล้ๆ กัน คงไม่ลดลงไปถึงญี่ปุ่น ที่ 15% แต่ต้องแลกกับการนำเงินไปลงทุนในสหรัฐ 550,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ


เมื่อถามว่านายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง คาดการณ์ว่าจะไม่เกิน 20% เป็นไปได้หรือไม่ น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า มีแนวโน้มที่จะจบไม่ถึง 20% ได้ ถ้าดูตัวอย่างจากอินโดนีเซีย และทางอินโดนีเซียก็มีการเปิดเผยเงื่อนไขที่ให้ไปกับสหรัฐ เช่น การยกเลิกการจัดเก็บภาษีดิจิทัลในโซเชียลมีเดีย แพลตฟอร์มต่างๆ และข้อตกลงในการส่งออกแร่สำคัญ รวมถึงยอมรับมาตรฐานรถยนต์ของสหรัฐ แต่สุดท้ายก็ต้องรอฟังคำตอบจากโดนัล ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาคนเดียว เพราะเวลาที่ เจรจาก็เป็นแบบหนึ่งแต่พอประกาศออกมาก็เป็นอีกแบบหนึ่ง เราก็ทำได้แค่ส่งใจช่วยให้ประเทศไทยเองยืนหลักการหนักแน่น ไม่นำสินค้าเกษตรไปแลกมากจนเกินไป ทั้งที่ไม่มีการเตรียมมาตรการเยียวยาให้กับเกษตรกรที่ถูกนำสินค้าตัวเองไปขึ้นโต๊ะเจรจา ไม่เช่นนั้น เราจะทำให้ผู้ที่เสียประโยชน์ แม้จะน้อยนิด เมื่อเทียบกับมูลค่าทางเศรษฐกิจที่เราได้มา แต่จำนวนคนที่จะได้รับผลกระทบมีค่อนข้างมาก เช่น ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ เรามีเกษตรกรปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ 400,000 ราย ก็คาดว่าน่าจะได้รับผลกระทบเป็นวงกว้างและลึก จึงต้องดูว่าเวลาเปิด เปิดฟรีเลยหรือไม่ หรือจะเป็นการจำกัดโควตาเข้ามา ซึ่งหากมีการเปิดเสรี สิ่งที่รัฐบาลต้องทำคือเตือนผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ตอนนี้ได้แล้วว่าให้เปลี่ยนไปปลูกพืชอื่น ถ้าเราเอาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ไปเปิดเสรีให้กับสหรัฐทั้งหมด ไม่เช่นนั้น เราจะไม่สามารถแข่งขันได้ ตนได้ข่าวว่าบริษัทผลิตอาหารสัตว์รายใหญ่ของประเทศหยุดรับซื้อข้าวโพดจากเกษตรกรเรียบร้อยแล้ว แม้จะมีการประกันราคาที่ 7 บาท แต่ก็ไม่รับซื้อ ดังนั้นเกษตรกรกำลังกังวลกับอนาคตของตัวเองอยู่

ส่วนเรื่องการสวมสิทธิ์สินค้าจีนส่งออกไปยังสหรัฐ น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ค่อนข้างสำคัญ ถ้าเป็นสินค้าที่เราตรวจจับง่ายๆ แค่เข้ามาผ่านทางแล้วออกไป เราก็ไม่ยอมให้เขามานุ่งโจงกระเบน แล้วตีตราว่าเป็นสินค้าไทยอยู่แล้ว แต่ปัจจุบันซับซ้อนมากยิ่งขึ้น เพราะสหรัฐเองอาจจะตั้งเกณฑ์ ต้องเป็นวัตถุดิบที่ผลิตในไทย ทำให้เราไม่สามารถใช้วัตถุดิบที่ผลิตจากประเทศจีนได้เลย ซึ่งเป็นความซับซ้อนและยุ่งยาก เพราะสหรัฐต้องการที่จะตัดห่วงโซ่อุปทานที่ไทยมีกับประเทศจีนอย่างเหนียวแน่น เป็นการตรวจเข้มมากขึ้นว่าสินค้าใดใช้วัตถุดิบจากประเทศจีน เรื่องของการสวมสิทธิ์ปกติ เพราะหากตรวจเข้มข้นขนาดนี้ เราก็ไม่มั่นใจว่ากระทบเศรษฐกิจมากหรือไม่


เมื่อถามว่า พรรคภูมิใจไทยเสนอให้เปิดอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติ ตามมาตรา 152 เพื่อเสนอแนะการแก้ไขปัญหาภาษีสหรัฐ น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า กำลังพูดคุยภายในวิปฝ่ายค้าน แต่ถ้ามีการเปิดอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติเรื่องภาษีทรัมป์ สามารถทำได้ แต่สำหรับพรรคประชาชนที่อภิปราย 152 มาหลายปี มองว่าควรจะต้องมีเรื่องประเด็นที่ค่อนข้างกว้างมากกว่านี้เพื่อจะได้สอบถามกับคณะรัฐมนตรี และให้ข้อคิดเห็นในครั้งเดียวกัน นอกเหนือจากเรื่องใดเรื่องหนึ่ง เพราะการอภิปรายทั่วไปตามมาตรา 152 ไม่สามารถใช้ได้บ่อยควรเก็บกระสุนไว้ใช้ในยามที่จำเป็น แต่ถ้าเกิดมีการเจรจาพูดคุยระหว่างวิปฝ่ายค้านแล้วมีหลากหลายเรื่อง มากกว่าเรื่องภาษีสหรัฐ ก็อาจจะจบลงที่การเปิดอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติได้ ถ้าเป็นเรื่องภาษีสหรัฐอย่างเดียว ก็เป็นญัตติด่วนด้วยวาจาก็น่าจะเพียงพอ.-315.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทบ.​ เชิญ​ผู้ช่วยทูตทหาร รับฟังข้อเท็จจริง​ปมทุ่นระเบิดช่องบก

กองทัพบก 22 ก.ค.- ทบ.​ เชิญ​ผู้ช่วยทูตทหาร​ 47 ประเทศ​ รับฟังคำชี้แจง​สถานการณ์​ชายแดน​ไทย​-กัมพูชา​ หลังกำลังพลเหยียบกับระเบิดบาดเจ็บ​ 3 นาย​ พบ เป็นทุ่นระเบิดสังหารบุคคล​วางใหม่​ โดยมีหลายชาติ สนใจรับฟังขณะ​ พลจัตวา​ ฮอม​ คิม ผู้ช่วยทูตทหารดัมพูชา ร่วมด้วย กองบัญชาการ​กองทัพ​บก​ เชิญผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศประจำประเทศไทย​ รับฟังการชี้แจงสถานการณ์​ชายแดนไทย​-กัมพูชา​ ถึงข้อเท็จจริงกรณีไทยโดนรุกล้ำอธิปไตย​ และมีการวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคล​ ทำให้ทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ได้รับบาดเจ็บ 3 นาย​ และมีการตรวจสอบว่าเป็นการวางทุ่นระเบิดใหม่​ ที่วางในเขตไทย​ ซึ่งขัดต่ออนุสัญญา​ออตตาวา​ ที่ทั้งไทยและกัมพูชาเป็นประเทศภาคี​ที่ให้สัตยาบัน​​ บรรดาทูต​ทหาร​ ทยอยเดินทางมายังห้อง ศรีสิทธิสงคราม​ ภายในกองทัพบก ตั้งแต่เวลา​ 13.20 น.​ อาทิทูตทหารจากเวียดนาม เมียนมา อินเดีย ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ อังกฤษ บูรไน ออสเตเรีย สหรัฐอเมริกา อินโดนิเซีย จีน กัมพูชา เยอรมันนี แคนนาดา […]

พายุวิภากระหน่ำจันทบุรี ซัดหลังคาร้านอาหารถล่ม

จันทบุรี 22 ก.ค. – พายุกระหน่ำจันทบุรี ซัดหลังคาร้านข้าวมันไก่ถล่ม กระแทกหลังแม่เจ้าของร้านได้รับบาดเจ็บ ส่วนที่ภูเก็ตพายุถล่มภูเก็ต ป้ายล้ม-ต้นไม้ทับสาวจีนเสียชีวิต หลังคาร้านข้าวมันไก่ บริเวณตลาดศิริการ อ.เมือง จ.จันทบุรี ถูกพายุพัดร่วงลงมาทั้งแผง ท่ามกลางความตื่นตระหนกของลูกค้าและพนักงานในร้าน เหตุดังกล่าวเกิดช่วงเที่ยงพอดี จึงมีลูกค้ามานั่งกินข้าวเต็มร้าน กระทั่งมีฝนเทลงมา ทางร้านและลูกค้าจึงช่วยกันขนย้ายโต๊ะเก้าอี้เข้าข้างในเพื่อหลบฝน ก่อนพายุจะซัดเข้ามาอย่างรุนแรง จนหลังคาถล่ม เบื้องต้นไม่มีลูกค้าได้รับบาดเจ็บ มีเพียงแม่เจ้าของร้านข้าวมันไก่อีกร้าน ที่อยู่ติดกัน ถูกหลังคากระแทกหลังได้รับบาดเจ็บ นำส่งโรงพยาบาลแล้ว พนักงานร้านข้าวมันไก่ บอกว่า ปกติบริเวณนี้มีฝนตกบ่อย หลังคาแข็งแรงดี ไม่ได้ชำรุดอะไร แต่วันนี้ ลมแรงมาก มาแบบวูบเดียว พัดหลังคาลอยขึ้นก่อนพังลงมา ทั้งนี้ลมพายุได้พัดหลังคาของตึกที่อยู่ในละแวกร้านข้าวมันไก่พังเสียหายจำนวน 15 คูหา เบื้องต้นกำลังทหารและตำรวจ ได้เข้าตรวจสอบ พร้อมให้การช่วยเหลือ ขนย้ายเศษซากหลังคาเคลียร์พื้นที่เพื่อความปลอดภัยแล้ว พายุโซนร้อนวิภาถล่มภูเก็ต ป้ายล้ม-ต้นไม้ทับสาวจีนเสียชีวิต ที่หน้าหาดเกาะเฮ จังหวัดภูเก็ต นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ หอบข้าวของวิ่งหนีลมพายุ จังหวะนั้นต้นไม้ขนาดใหญ่ถูกลมพัดโค่นลงมา ในคลิปจะได้ยินเสียงคนพูดว่า “เห็นไหม คน ๆ อยู่ใต้นั้น” หลังเหตุการณ์สงบ […]

รถบรรทุกพุ่งชน จยย.พ่วงข้างรับส่ง นร. ตาย 3 เจ็บ 6

พระนครศรีอยุธยา 22 ก.ค. – สลด รถบรรทุก 6 ล้อ พุ่งชนรถจักรยานยนต์พ่วงข้างรับส่งนักเรียน มีผู้เสียชีวิต 3 คน บาดเจ็บ 6 คน เกิดอุบัติเหตุรถบรรทุก 6 ล้อ ทะเบียนพระนครศรีอยุธยา พุ่งชนรถจักรยานยนต์พ่วงข้างรับส่งนักเรียน โรงเรียนวัดมณฑลประสิทธิ์ ก่อนตกลงไปในร่องน้ำ บนถนนชนบทเลียบคลองระพีพัฒน์ หมู่ 5 ตำบลวังน้อย อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และอัดกับรั้วบ้านจนรถพังยับ มีผู้ติดอยู่ในรถ 2 คน เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องใช้อุปกรณ์ตัดช่วยเหลือผู้บาดเจ็บทั้ง 2 คนออกมา แต่ผู้โดยสารเสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนคนขับบาดเจ็บสาหัส ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง สภาพรถเสียหายยับเยิน คนบนรถ 7 คน เป็นนักเรียนโรงเรียนวัดมณฑลประสิทธิ์ 6 คน ผู้ปกครอง 1 คน บาดเจ็บทั้งหมด เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงช่วยกันนำตัวส่งโรงพยาบาลวังน้อย และมีนักเรียน 2 คนเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่มูลนิธิพุทไธสวรรย์ จุดกิตติวังน้อย […]

โฆษก ทบ. เผยนานาชาติเข้าใจไทยเคลียร์ปมทุ่นระเบิด

กองทัพบก 22 ก.ค.- โฆษก ทบ. เผยเคลียร์ปมทุ่นระเบิด นานาชาติเข้าใจไทย ขณะผู้ช่วยทูตทหารกัมพูชานั่งนิ่งไม่โต้แย้ง – ให้กองทัพภาคที่ 2 ประเมินสถานการณ์หลังคนไทยนัดรวมตัวปราสาทตาเมือนธม ปลายเดือนนี้ พลตรีวินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวภายหลังการเชิญผู้ช่วยทูตทหาร รับฟังคำชี้แจง​สถานการณ์​ชายแดน​ไทย​- กัมพูชา​ หลังกำลังพลเหยียบกับระเบิดบาดเจ็บ​ 3 นาย​ ว่า บรรยากาศเป็นไปด้วยดี ส่วนใหญ่เป็นการรับฟังและมีคำถามบ้าง ถือว่าน้อย เนื่องจากทุกท่านอาจจะได้รับข่าวสารจากช่องทางอื่นมาบ้างแล้ว ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของผู้บัญชาการทหารบก ที่พยายามบอกกล่าวและชี้แจงกับสิ่งที่เกิดขึ้น ในเรื่องข้อเท็จจริง พลตรีวินธัย เปิดเผยว่า ทูตทหารของกัมพูชา ไม่ได้ชี้แจงหรือมีคำถามอะไร คำถามส่วนใหญ่มาจากท่านอื่นมากกว่า ที่ถามเรื่องของความมั่นใจและยืนยันใช่หรือไม่ ซึ่งทางเรา ก็ให้เหตุผลไป และจะให้เอกสารชี้แจง ส่วนท่าทีของประเทศมหาอำนาจ ก็ไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษ ซึ่งการเชิญมาในวันนี้เราก็ทำตามนโยบายของผู้บัญชาการทหารบก คือทำให้เป็นทางการ ส่วนการหารือได้ชี้แจงเรื่องของการละเมิด บูรณภาพดินแดน และเอ็มโอยู 2543 และอนุสัญญาออตตาวา ด้วยหรือไม่ พลตรีวินธัย ระบุว่า มีการพูดถึงประเด็นดังกล่าว และได้อธิบายตามหลักอนุสัญญา ที่ทั้งสองประเทศเป็นสมาชิก และเล่าถึงกลไกการแก้ไขปัญหา […]

ข่าวแนะนำ

พายุวิภาทำเชียงรายอ่วม-รพ.เทิง งดรับผู้ป่วยชั่วคราว

เชียงราย 23 ก.ค. – พายุวิภาทำ อ.เทิง จ.เชียงราย อ่วม น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือน พื้นที่การเกษตร โรงพยาบาลเทิง ประกาศงดให้บริการผู้ป่วยทั่วไปชั่วคราว รับเฉพาะผู้ป่วยฉุกเฉินเท่านั้น ด้านนายอำเภอสั่งการเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือชาวบ้านขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง อพยพผู้ป่วยและผู้สูงอายุไปยังที่ปลอดภัย ฝนตกหนักจากอิทธิพลพายุวิภา ทำให้น้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนและพื้นที่การเกษตรหลายอำเภอใน จ.เชียงราย โดยเฉพาะ อ.เทิง สถานที่ราชการ ได้แก่ สภ.เทิง ศาลจังหวัด และโรงพยาบาลเทิง เกิดน้ำท่วมขัง โรงพยาบาลต้องงดให้บริการผู้ป่วยทั่วไป รับเฉพาะผู้ป่วยฉุกเฉินเท่านั้น ขณะที่สถานการณ์โดยทั่วไปยังมีฝนตกหนัก นายอำเภอเทิงลงพื้นที่ สั่งเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือชาวบ้านขนย้ายของขึ้นที่สูง อพยพผู้ป่วยและผู้สูงอายุไปยังที่ปลอดภัย ส่วนถนนพหลโยธิน ต.นางแล อ.เมืองเชียงราย น้ำป่าจากดอยโป่งพระบาทไหล่เอ่อท่วมถนนด้านขาขึ้น การสัญจรเป็นไปอย่างยากลำบาก ภาพรวมสถานการณ์ จ.เชียงราย เบื้องต้นมีพื้นที่ได้รับผลกระทบ 5 อำเภอ ประชาชนเดือดร้อนประมาณ 100 ครัวเรือน เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต.-สำนักข่าวไทย

มท.2 รับกังวล จ.น่าน ที่สุด เหตุ 1 ชม. น้ำขึ้น 30 ซม.

ก.มหาดไทย 23 ก.ค.-มหาดไทย ถกวอรูมติดตามสถานการณ์ “พายุวิภา” ห่วงพื้นที่เหนือ-อีสาน พื้นที่ราบเชิงเขา เสี่ยงน้ำป่าไหลหลากและน้ำท่วมฉับพลัน ด้าน มท.2 กำชับพื้นที่เสี่ยงดินโคลนถล่ม-ความปลอดภัยชีวิตและทรัพย์สิน รวมถึงเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน เผยเตรียมลงพื้นที่เชียงราย-น่าน รับกังวลน่านที่สุด เหตุ 1 ชม. น้ำขึ้น 30 ซม. สั่ง ปภ.-กรมชลฯ เร่งสูบน้ำ นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุม กองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัยแห่งชาติหรือ บกปภ.ช. ประชุมตั้งวอร์รูมติดตามสถานการณ์พายุ “วิภา” โดยมีนายภูมิธรรม เวชยชัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ร่วมรับฟัง และมีการเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดที่ได้รับผลกระทบ สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ เข้าร่วมประชุมติดตามสถานการณ์ ได้ติดตามภาพรวมสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ทั้งจังหวัดแถบภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่ยังคงมีฝนตกต่อเนื่อง ให้หลายจังหวัดจากอิทธิพลพายุวิภาในที่ประชุม กล่าวว่า ได้มีการรายงานสถานการณ์เป็นรายพื้นที่ ประกอบด้วยพื้นที่ติดภูเขา ที่ราบเชิงเขา โดยให้เจ้าหน้าที่ในพื้นที่เฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และการตรวจสอบสภาพดินที่ได้รับการสะสมของปริมาณฝนที่ตกลงมา ซึ่งมีลักษณะอุ้มน้ำ และความเสี่ยงที่จะเกิดน้ำป่าไหลหลาก […]

ฝนถล่มน่าน น้ำเริ่มท่วมหลายพื้นที่ และน้ำน่านเพิ่มขึ้นรวดเร็ว

น่าน 23 ก.ค.-อิทธิพลจากพายุวิภา ทำให้ฝนถล่มน่านอย่างหนัก ปริมาณฝนสะสมเกิน 200 มิลลิเมตร น้ำเริ่มท่วมในหลายพื้นที่ และน้ำน่านเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จ.น่าน ขณะนี้ฝนตกหนักต่อเนื่องมาเกือบ 20 ชั่วโมงแล้ว และหลายพื้นที่โดยเฉพาะทางตอนเหนือวัดปริมาณฝนสะสมเกิน 200 มิลลิเมตรเกือบ 20 สถานี ส่งผลให้ระดับน้ำน่านเพิ่มสูงขึ้นเฉลี่ยชั่วโมงละ 30 เซนติเมตร แม้ว่าระดับน้ำน่านยังต่ำกว่าตลิ่งอยู่มาก แต่ฝนที่ตกหนักติดต่อกันมาทั้งคืน โดยเฉพาะทางตอนเหนือของเมืองทั้งที่ปัว บ่อเกลือ เฉลิมพระเกียรติ ท่าวังผา และอีกหลายอำเภอ ซึ่งจากข้อมูลปริมาณน้ำฝนจากสถานีวัดของมูลนิธิเพื่อนพึ่ง (ภา) ยามยาก ในจังหวัดน่าน เมื่อเช้านี้พบปริมาณฝนสะสมเกิน 200 มิลลิเมตรถึง 18 สถานี สูงสุดอยู่ที่สถานีต้นน้ำน้ำกอนฝั่งซ้าย ตำบลพญาแก้ว อำเภอเชียงกลาง สูงถึง 291 มิลลิเมตร นั่นทำให้บางพื้นที่ลุ่มต่ำเริ่มมีน้ำเข้าท่วมพื้นที่แล้ว อย่างที่อำเภอท่าวังผา เริ่มมีน้ำทะลักเข้ามาแล้ว รวมทั้งระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วโดยที่สถานีวัดระดับน้ำ n64 บ้านผาขวาง เหนือเมืองน่านไป 30 กิโลเมตร เพิ่มเป็น 7 เมตร […]

เตือนเฝ้าระวังดินถล่มใน 21 จังหวัด แม้ “วิภา” อ่อนกำลัง

กรุงเทพฯ 23 ก.ค.-กรมทรัพยากรธรณี แจ้งเตือนให้เฝ้าระวังดินถล่มในพื้นที่ 21 จังหวัด จากผลกระทบพายุ “วิภา” แม้ขณะนี้อ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำแล้ว แต่อิทธิพลของร่องมรสุมยังคงส่งผลให้หลายพื้นที่ในภาคเหนือและภาคตะวันตกมีฝนตกหนักต่อเนื่อง นายพิชิต สมบัติมาก อธิบดีกรมทรัพยากรธรณี เปิดเผยว่า กรมฯ ยังคงเปิดศูนย์ปฏิบัติการธรณีพิบัติภัย (War Room) เพื่อเฝ้าระวังสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมงอย่างต่อเนื่องจนถึงวันที่ 25 กรกฎาคม 2568 หรือจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย โดยมีเป้าหมายเพื่อประเมินความเสี่ยง วิเคราะห์ข้อมูล และแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ จากการวิเคราะห์ข้อมูลฝนสะสมควบคู่กับแบบจำลองธรณีพิบัติภัย พบว่า มีพื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดดินถล่มกระจายอยู่ใน 21 จังหวัด ได้แก่ -ภาคเหนือ: แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา น่าน แพร่ ลำปาง ตาก อุตรดิตถ์ พิษณุโลก เพชรบูรณ์-ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: เลย อุดรธานี หนองคาย-ภาคตะวันออก: จันทบุรี ตราด-ภาคตะวันตก: กาญจนบุรี ราชบุรี-ภาคใต้ฝั่งตะวันตก: ระนอง พังงา […]