ก.พลังงานเร่งคลอดของขวัญปีใหม่ให้ จย.รับจ้าง

กรุงเทพฯ 25 ต.ค. – ก.พลังงานเร่งคลอดของขวัญปีใหม่ ทั้งน้ำมันราคาถูกให้จักรยานยนต์รับจ้าง  3 บาท/ลิตร ปตท.รับผิดชอบภาระทั้งหมด การดูดซับปาล์มผ่านบี 7 ที่ปรับความเคลื่อนใหม่ และบี 20


ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในวันนี้ (25 ต.ค.) กระทรวงพลังงานได้มีการประชุมเกี่ยวกับนโยบายการช่วยเหลือกลุ่มจักรยานยนต์รับจ้างที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เพื่อซื้อน้ำมันแก๊สโซฮอล์ราคาถูกกว่าปกติ 3 บาท/ลิตร  และนายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้ประชุมร่วมกับกลุ่มสมาคมอุตสาหกรรมยานยนต์ เพื่อหารือเรื่องการขยายความคลาดเคลื่อน (BAND) ของไบโอดีเซล บี 7 โดยให้ผสมบี 100 ได้เพิ่มจากร้อยละ 6.5-7.0 เพิ่มเป็นร้อยละ 6.8-7.2 ซึ่งจะดูดซับน้ำมันปาล์มดิบได้อีก 80,000 ตันต่อปี จากปัจจุบันใช้ 1.3 ล้านตัน/ปี เพราะจะมีการใช้บี 100 เพิ่มอีกร้อยละ 0.4 หรือ 95 ล้านลิตร/ปี โดยเรื่องนี้ทางสมาคมยานยนต์จะนำไปหารือด้านเทคนิคก่อนจะกลับมาแจ้งให้ทราบเร็ว ๆ นี้

ขณะเดียวกันกระทรวงพลังงานได้เดินหน้าโปรโมทบี 20 สำหรับรถบรรทุกขนาดใหญ่ รถโดยสาร เรือโดยสาร และเรือขนส่ง อย่างต่อเนื่อง โดยพรุ่งนี้ (26 ต.ค.) จะนำไปใช้กับรถเมล์เพิ่มเติม เพราะยอดใช้ในขณะนี้อยู่ที่ประมาณ  4 ล้านลิตร/เดือน จากเป้าหมายอยู่ที่ 15 ล้านลิตร/วัน 


นายสมบูรณ์ หน่อแก้ว รองอธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน กล่าววภายหลังร่วมประชุมกับ บมจ.ปตท.และธนาคารกรุงไทย ในเรื่องการช่วยเหลือจักรยานยนต์รับจ้าง ว่า ขณะนี้ได้ข้อสรุปเบื้องต้นว่าจะเริ่มใช้ก่อนปีใหม่ และ ปตท.จะเป็นผู้รับผิดชอบต้นทุนน้ำมันทั้ง 3 บาท/ลิตร จากเป้าหมายเดิมที่จะให้ ปตท.รับผิดชอบ 1 บาท/ลิตร และกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงรับผิดชอบ 1 บาท/ลิตร เหตุเพราะกองทุนน้ำมันฯ มีหลักเกณฑ์ไม่สามารถนำมาดำเนินการได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งจำนวนรถที่เข้าหลักเกณฑ์ต้องมีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และขึ้นบัญชีกับกรมการขนส่งทางบกนั้น มีประมาณ  40,000 ราย กำหนดให้ได้รับการช่วยเหลือวันละไม่เกิน 5 ลิตร/ราย/วัน หรือประมาณ 150 ลิตร/เดือน หรือ 450 บาท/เดือน รวมประมาณ 18 ล้านบาท /เดือน นับเป็นมาตรการช่วยเหลือจาก ปตท.ในการช่วยเหลือรถสาธารณะที่ใช้เอ็นจีวีราคาต่ำอีกประมาณ 40 ล้านบาท/เดือน หรือรวมเป็น ปตท.เข้ามาช่วยเหลือรถสาธารณะประมาณ 58 ล้านบาท/เดือน

อย่างไรก็ตาม จะต้องหารือกับกระทรวงการคลังว่าเครื่องรูดบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่ซื้อน้ำมันปั๊ม ปตท. 1,800 แห่งทั่วประเทศ จะใช้เครื่องรูดบัตรอีดีซี ได้เฉพาะเครื่องของธนาคารกรุงไทย หรือสามารถรูดบัตรผ่านเครื่องอีดีซีของ ปตท.ที่ใช้เครือข่ายธนาคารกสิกรไทยได้หรือไม่ โดยจะเร่งสรุปโดยเร็ว

“จักรยานยนต์รับจ้างที่จดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบกทั่วประเทศมี 200,000 ราย แต่จดทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 40,000 รายเท่านั้น โดยกลุ่มที่ยังไม่มีบัตรสวัสดิการฯ ก็สามารถสมัครใหม่ได้ในเดือนเมษายน ซึ่งกรมบัญชีกลางจะเปิดให้ลงทะเบียนครั้งใหม่” นายสมบูรณ์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง