กรุงเทพฯ 16 ต.ค. – ส.อ.ท.ระบุสหรัฐขึ้นภาษีนำเข้าจากจีนระลอก 2 ยากที่ไทยจะเลี่ยงผลกระทบ คาดส่งออกปีหน้าโตเหลือร้อยละ 4-5 เพราะไทยคือแหล่งผลิตสินค้าที่จีนนำเข้าไปผลิตเพื่อส่งออก และจีนกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ เงินหยวนอ่อนค่าจะกระทบคนจีนออกมาเที่ยวไทยลดลง
นายเกรียงไกร เธียรนุกุล รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า ขณะนี้ ส.อ.ท.กำลังติดตามผลกระทบสงครามการค้าจีนและสหรัฐ เพราะเชื่อว่ามาตรการตอบโต้ทางการค้าของสหรัฐ ระลอก 2 ที่มีมูลค่า 200,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ครอบคลุมสินค้าเกือบทุกชนิดที่จีนส่งไปขายสหรัฐจะส่งผลกระทบต่อภาคการส่งออกไทยปีหน้าเติบโตลดลง คาดว่าจะโตประมาณร้อยละ 4-5 เท่านั้น ต่างจากปีนี้การส่งออกไทยได้ประโยชน์จากสงครามการค้า ยอดส่งออกเติบโตสูงถึงเดือนละกว่า 22,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และตลอดปีนี้คาดว่าการส่งออกจะโตได้ถึงร้อยละ 9-10 สูงกว่าเป้าหมายเดิมที่คาดว่าส่งออกปีนี้จะโตร้อยละ 5 เท่านั้น
สำหรับปัจจัยที่ทำให้การส่งออกปี 2562 โตลดลง ได้แก่ ผลกระทบจากมาตรการตอบโต้ทางการค้าของสหรัฐต่อจีนระลอก 2 จะกระทบเศรษฐกิจโลกที่กำลังฟื้นตัวต้องชะลอลง ไทยเป็นประเทศที่เศรษฐกิจพึ่งพิงการส่งออกคิดเป็นร้อยละ 70 ของจีดีพี ย่อมได้รับผลกระทบจากการส่งออกที่จะลดลงตามเศรษฐกิจโลก นอกจากนี้ สินค้าส่งออกของไทยถือเป็นหนึ่งในสินค้าจากหลายประเทศที่จีนซื้อไปผลิตต่อเพื่อเป็นสินค้าส่งออกไปขายต่อที่สหรัฐ เมื่อจีนส่งออกไม่ได้ไทยก็ย่อมได้รับผลกระทบมากน้อยต่างกันไปตามแต่การพึ่งพิ่งตลาดจีนของแต่ละอุตสาหกรรม
ปัจจุบันจีนเป็นคู่ค้าอันดับ 1 ของไทย ยอดส่งออกของไทยไปจีนและสหรัฐ รวมกันคิดเป็น 1 ใน 4 หรือคิดเป็นร้อยละ 25 ของการส่งออกทั้งหมด ซึ่งเท่ากับตลาดส่งออกไปอาเซียนของไทย ปีหน้าคาดว่าไทยจะส่งออกไปตลาดอาเซียนและเอเชียน้อยลงเช่นกัน เพราะจะมีสินค้าของจีนที่ขายสหรัฐไม่ได้เข้ามาขายแข่ง ดังนั้น ปีหน้าภาคส่งออกไทยจึงถูกผลกระทบทั้ง 2 ส่วนนี้รวมกันคิดเป็นร้อยละ 50 นอกจากนี้ สินค้าจากจีนยังจะเข้ามาขายในประเทศไทยแข่งกับสินค้าที่ผลิตในประเทศด้วย สถานการณ์นี้จะส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการอุตสาหกรรมที่ผลิตสินค้าขายในประเทศด้วย และสถานการณ์แบบนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วกับกลุ่มอุตสาหกรรมเหล็ก
ด้านการท่องเที่ยวไทยก็จะได้รับผลกระทบเช่นกัน เนื่องจากจีนให้ธนาคารพาณิชย์สำรองเงินเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศจีนมากขึ้น ส่งผลให้เงินหยวนของจีนอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ล่าสุดเงินหยวนอ่อนค่าลงประมาณร้อยละ 7-8 เมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐ เมื่อเงินหยวนอ่อนค่าลง กระทบนักท่องเที่ยวจีนที่จะออกไปท่องเที่ยวมีค่าใช้จ่ายสูงขึ้น การเดินทางไปท่องเที่ยวของคนจีนก็จะลดลง ซึ่งปัจจุบันนักท่องเที่ยวจีนในไทยมีสัดส่วนคิดเป็นร้อยละ 30 ของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมดที่มียอดปีละเกือบ 40 ล้านคน การเข้ามาเที่ยวไทยน้อยลงย่อมกระทบอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยด้วยเช่นกัน.-สำนักข่าวไทย