ประจวบคีรีขันธ์ 14 ก.ย.-ชายหาดหัวหิน เป็นอีกพื้นที่หนึ่งที่พบการบุกรุกก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างบนชายหาด แม้จะมีการฟ้องร้องและคดีถึงที่สุดแล้ว แต่ยังไม่มีการดำเนินการใดๆ ล่าสุดเทศบาลเมืองหัวหินสั่งรื้ออาคารที่ตั้งบนพื้นที่สาธารณะและชายหาดภายใน 30 วัน
จากการสำรวจพื้นที่ ริมถนนนเรศดำริห์ ตั้งแต่สะพานปลาไปจนถึงศาลเจ้าแม่ทับทิม ระยะทางประมาณ 400 เมตร พบสิ่งปลูกสร้างทั้งหมด 40 หลัง บางหลังยื่นลงไปในชายหาด เกินระยะหลักหมุดของกรมเจ้าท่าไม่น้อยกว่า 10 เมตร โดยกว่าร้อยละ 80 เปิดให้บริการห้องพักหรือเกสต์เฮาส์ ที่เหลือเป็นร้านอาหาร ร้านนวด รวมถึงร้านจำหน่ายสินค้าที่ระลึก โดยเจ้าของมีทั้งคนในชุมชนและจากพื้นที่อื่นมาเช่าช่วงต่อ
นายกเทศมนตรีเมืองหัวหินเปิดเผยว่า ปี 2534 เทศบาลเมืองหัวหินให้เจ้าของอาคารมาทำสัญญาเช่าที่ดินสาธารณะกับเทศบาลฯ จำนวน 28 ราย ระยะเวลาไม่เกิน 10 ปี เมื่อครบกำหนดมีเจ้าของรื้อถอนออกไปเพียง 2 รายเท่านั้น ที่เหลือไม่ยอมรื้อถอน จึงแจ้งความดำเนินคดีข้อหาผิดพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 กระทั่งเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ศาลฎีกาอ่านคำพิพากษาคดีสุดท้าย โดยสั่งปรับรายวันนับจากวันฟ้องจนกว่าจะรื้อถอนอาคาร แต่จากการสำรวจเทศบาลฯ ว่าจำเลยไม่ได้ปฏิบัติตามคำพิพากษาทั้งหมด จึงได้ทำหนังสือถึงเร่งรัดให้รื้อถอนอาคารภายใน 30 วัน
นอกจากความผิดเกี่ยวกับพระราชบัญญัติควบคุมอาคารแล้ว พื้นที่ดังกล่าวยังถูกกรมเจ้าท่าฟ้องร้องเกี่ยวกับพระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านนํ้าไทยด้วย ด้านนายอำเภอเมืองหัวหิน ระบุในพื้นที่หัวหินยังพบมีการบุกรุกพื้นที่ชายหาดสาธารณะจุดอื่นๆ เพื่อเปิดเป็นร้านอาหารกึ่งถาวร แม้จะมีการแจ้งความดำเนินคดีแล้ว แต่ผู้ประกอบการยังเปิดให้บริการอยู่
ล่าสุด เทศบาลเมืองหัวหินเตรียมทำหนังสือเชิญทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมหารือถึงแนวทางการดำเนินงานขึ้นต่อไปในวันจันทร์ที่ 19 กันยายนนี้.-สำนักข่าวไทย